"กชวรรณ" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากพะเยา
ดิฉันพบกับเหตุการณ์สยองในคอฟฟี่ช็อปของโรงแรมต่างจังหวัด ทั้งๆ ที่ไม่นึกไม่ฝันว่าในสถานที่นั้นจะมีผี มีภูตวิญญาณสิงสู่ แถมยังมีผู้คนนับสิบๆ ที่นั่งดื่มกินอาหารและฟังเพลงกันอย่างเพลิดเพลิน
เท่าที่เคยได้ยินเขาเล่ากันนะคะ คนมักจะถูกผีหลอกตามทางเปลี่ยว ในวัดและในโรงพยาบาล หรือบ้านร้างเท่านั้นเอง
อ้อ! ถ้าเป็นโรงแรมก็จะถูกผีหลอกในห้องพักตอนกลางคืน มีทั้งมาเคาะประตูบ้าง มาหยอกล้อตอนเข้าห้องน้ำ เช่น เปิดทีวี หรือเปลี่ยนช่องเอง ส่วนมากจะเป็นผู้หญิง ตกอกตกใจจนแทบจะคว้าผ้าผ่อนมานุ่งไม่ทัน ตอนที่วิ่งหนีออกมาจากห้องน่ะค่ะ
ที่ดิฉันเจอมากับตัวเองน่ะเหลือเชื่อสุดๆ ถ้าเป็นผู้ชายดื่มเหล้าก็จะว่าตาลายเพราะพิษสุรา หรือไม่ก็เป็นคนประสาทอ่อน เห็นอะไรก็นึกฝันไปเองเป็นตุเป็นตะเพราะความระแวง อย่างน้อยก็ตาฝาดเฝื่อนไปชั่วคราว
สำหรับดิฉันไม่ใช่แน่ๆ ค่ะ ยืนยันได้เลย!
ไม่ได้ดื่มเหล้าเบียร์ หรือไวน์ ไม่ใช่คนประสาทอ่อน ตกใจง่าย และไม่ได้อ่อนเปลี้ยเพลียแรงเพราะการเดินทางไปเที่ยวพะเยาตามคำชวนของเพื่อนสนิท แต่ก็เห็นภาพประหลาดน่าขนลุกเต็มตาจริงๆ
หลังจากเข้าพักในบ้านดวงแก้ว เพื่อนตั้งแต่เรียนมหาวิทยาลัย เมื่อเรียนจบเธอก็มาช่วยพ่อแม่ทำธุรกิจที่บ้านเดิม...ถ้ามีโอกาสเราก็ไปมาหาสู่กันตามสะดวก เพราะยังโสดทั้งคู่นี่คะ
เมื่อพักผ่อนตามสมควร เราก็อาบน้ำแต่งตัวออกไปเที่ยวชมเมืองกัน ความจริงไม่ได้คิดเที่ยวอะไรมากเนื่องจากเคยมาพะเยา 2-3 ครั้งแล้ว พอดีคราวนี้เป็นฤดูลำไย ดวงแก้วว่าจะพาไปเที่ยวสวนผลไม้ชื่อดังของภาคเหนือ แต่ปีนี้มีปัญหาหนักเรื่องลำไยดกดื่นเสียจนล้นตลาด ราคาตกต่ำสุดๆ
ตอนค่ำ เราก็แวะไปทานอาหารกันในคอฟฟี่ช็อปที่โรงแรมระดับหรู เป็นห้องกระจกขนาดกะทัดรัด นักร้องสาวกำลังขับกล่อมแขกเหรื่อที่มีอยู่ราว 5-6 โต๊ะ พนักงานเสิร์ฟพาเราไปนั่งโต๊ะริมกระจกซึ่งอยู่ใกล้กับบันไดเตี้ยๆ ด้านหน้า
แสงไฟจากโคมระย้าค่อยๆ หรี่ลง จะมีสว่างโดดเด่นก็ที่นักร้องเท่านั้นเอง!
ขณะนั้นเอง ดิฉันก็เหลือบไปเห็นหญิงสาวในชุดสีแดงยาว เปิดอกกว้างจนเห็นเนื้อขาวผ่องดูเย้ายวนตา ทำผมและแต่งหน้าค่อนข้างเข้ม สวมสร้อยมุกเส้นยาว ดูสะสวยโดดเด่น...ร่างสูงสง่า ผิวขาวผ่องกำลังก้าวขึ้นบันได แล้วเดินตรงไปที่เคาน์เตอร์ของโรงแรม...ตรงข้ามกับคอฟฟี่ช็อปพอดี
เธอคงจะเป็นแขกของโรงแรม...นึกถึงตัวเองว่า ถ้าไม่มีเพื่อนอยู่พะเยาก็คงต้องพักโรงแรมแบบนี้แหละนะคะ
นักร้องสาวสวยผลัดกันขึ้นไปขับกล่อม มีสาวเสิร์ฟนำดอกกุหลาบจากแขกไปให้บางคนก็เห็นมีแบงก์สีแดงติดไปกับก้านดอกไม้ด้วยค่ะ...พอจบเพลงก็มีเสียงปรบมือน่าชื่นใจ
ดิฉันรู้สึกเหมือนมีใครกำลังจ้องมองมาจากโต๊ะใกล้ๆ นั่นเอง...
ตอนแรกนึกว่าเป็นคนรู้จักเพื่อน เกือบจะบอกดวงแก้วอยู่แล้ว แต่พอดีเธอหันไปทางนั้น หน้าตาเป็นปกติก่อนจะหันมาถามจะสั่งอาหารอะไรเพิ่มเติม ล้วนแต่อร่อยๆ จนอยากให้ชิมทั้งนั้น...ดิฉันเลยค่อยๆ เหลือบไปมองเหมือนไม่สนใจ
....สาวสวยในชุดแดงนั่นเองค่ะที่นั่งตัวตรง โดดเด่นอยู่กับนักร้อง 2 คน ชุดม่วงกับชุดเหลือง ซึ่งกำลังเอียงหน้าดูตัวเองจากกระจกเงาทั้งคู่!
อ๋อ...เธอเป็นนักร้องน่ะ ถึงได้แต่งชุดยาวและแต่งหน้าเข้มเพื่อรับกับแสงไฟ
ถึงแม้จะดื่มกินอยู่ในบรรยากาศเย็นฉ่ำ น่ารื่นรมย์ ขับกล่อมด้วยเสียงเพลงไพเราะแต่ดิฉันกลับรู้สึกวังเวงใจอย่างบอกไม่ถูก คล้ายๆ กับจะเคลิบเคลิ้มกึ่งง่วงงุนจนต้องสะบัดหน้านิดหน่อย...สาวชุดแดงเข้ามาตอนไหน?ทำไมดิฉันมองไม่เห็นทั้งที่หันหน้าไปทางประตู?
ขณะที่สะบัดหน้าไปทางโต๊ะนักร้องโดยไม่ได้ตั้งใจ ดิฉันต้องชะงักงันเพราะเห็นนักร้องในชุดสีมรกตกำลังเดินมาที่โต๊ะ...สวนกับนักร้องในชุดสีม่วงที่กำลังจะขึ้นเวที
เหลือนักร้องสาวในชุดสีเหลืองคนเดียว ตอนนั้นเธอเลิกส่องกระจกแล้ว แต่ไม่มีวี่แววของนักร้องคนสวยในชุดสีแดง!
เธอหายไปไหนเร็วจัง? อาจจะเข้าห้องน้ำก็ได้...ดิฉันเบือนหน้ามาหาเพื่อนตามเดิมแต่ระหว่างนั้นเอง...ภาพบางอย่างก็สะดุดสายตาจนชะงักกึก
คุณพระช่วย! สาวชุดแดงนั่งอยู่ที่โต๊ะติดๆ เรานั่นเอง...หนุ่มใหญ่ 2 คนกำลังพูดคุยกันอย่างออกรส หัวเราะหัวใคร่กันร่าเริงโดยไม่แยแสสาวสวยที่นั่งคั่นกลาง! แต่ดิฉันไม่ได้ยินเสียงพูดคุย เสียงหัวเราะ...ไม่ใช่เพราะเสียงเพลงขับกล่อมหรอกค่ะ สองหูอื้ออึงจนไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย
สาวสวยในชุดแดงกำลังหัวเราะร่า แต่นัยน์ตาดำโตจ้องมาเขม็ง!
เกิดอะไรขึ้น? ใบหน้านั้นขยายกว้าง คล้ายจะพุ่งพรวดพราดเข้ามาหา...ปากแดงฉาน เสียงหัวเราะที่ไม่ได้ยิน! นัยน์ตาดำสนิทเหมือนความมืด! ดิฉันรู้นึกม่านตาพร่าพราย โคมระย้ากวัดแกว่งอย่างน่ากลัว เพดานกำลังถล่มทลายลงมาในพริบตา ขณะที่ร่างถูกเหวี่ยงขึ้นไป...ได้ยินเสียงกรีดร้องของตัวเองจนแก้วหูลั่นเปรี๊ยะ แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็ดับวูบลง...
มารู้สึกตัวอีกครั้งในโรงพยาบาล ดวงแก้วถอนใจอย่างโล่งอก เล่าว่าจู่ๆ ดิฉันก็ลุกพรวดขึ้นอีก ร้องลั่นแล้วล้มฟาดลงบนโต๊ะในพริบตา
...ขืนเล่าให้ใครฟังว่าโดนผีหลอกก็คงไม่มีใครเชื่อ จริงไหมคะ?
ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก โดย ใบหนาด - ข่าวสด หน้า 36 - ฉบับวันที่ 30 สิงหาคม 2550
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น