"นายหนึ่ง" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากสวนอาหารย่านรัชดา
อากาศเดือนเมษายนที่ผ่านมาร้อนมากๆ คุณจำได้ไหมครับ? ปีนี้มันร้อนจริงๆ แต่คืนนั้น ผมหนาวเยือกไปถึงหัวใจขึ้นมาเฉยๆ เมื่อเห็นผู้หญิงคนหนึ่ง...เหตุเกิดในสวนอาหารใจกลางกรุงเทพฯ นี่เอง!
ผมกับเพื่อนๆ จะสังสรรค์กันทุกคืนวันศุกร์หลังเลิกงาน ศุกร์นั้นมีเพื่อนคนหนึ่งบอกว่ามีสวนอาหารสุดเจ๋งแถวรัชดา พวกผมไม่เคยไปเพราะมันเป็นร้านเล็กๆ ไม่สะดุดตานัก
พอไปถึงที่นั่นก็รู้ว่า เป็นบ้านที่ดัดแปลงเป็นร้านอาหาร มีโต๊ะตั้งทั้งภายในตัวบ้าน และที่สนามด้านหน้า...บ้านนี้มีต้นไม้ใหญ่ๆ ร่มครึ้มดีทีเดียว เขาติดไฟตามต้นไม้ มีเปิดเพลง มีสาวเชียร์เบียร์สวยๆ เดินกันไขว่ สาวขายยาชูกำลังก็มี พวกผมแซวเธอเล่นอย่างสนุกสนาน...น่ารักจริงๆ ครับ
ขณะที่กำลังเฮฮา ผมเกิดเงยหน้าขึ้นไปมองตัวบ้านโดยไม่ได้ตั้งใจ!
โต๊ะที่พวกเรานั่งน่ะอยู่ริมรั้ว ห่างจากตัวบ้านราวสิบเมตร ผมจึงมองเห็นบ้านทั้งหลังได้ถนัดตา
ที่ชั้นสองของบ้านนั้นปิดไฟมืด และที่ระเบียงก็มีผู้หญิงคนหนึ่ง แต่งชุดเหมือนชุดนอนไนลอนสีขาวๆ ยืนอยู่ ผมเธอยาวมาก คิดว่าคงเป็นคนสวยน่าดูเชียวละ ถึงจะมืดสลัวๆ ก็ยังเห็นใบหน้ารูปไข่ยาวเรียว รูปร่างบอบบางสมส่วน
อึดใจหนึ่ง ดูท่าเธอจะเห็นว่าผมมองอยู่ ผมรู้สึกว่าเราสบตากัน...
และแล้ว ทันใดนั้นผมก็รู้สึกหนาวยะเยือก!!
เพื่อนนั่งตรงข้ามคงจะเห็นผมทำท่าแปลกๆ และจ้องอยู่ที่ระเบียงชั้นสองของบ้านนั้น เขาเอี้ยวตัวไปมอง แล้วหันกลับมาเลิกคิ้ว ถามว่าผมมองอะไรอยู่น่ะ?
อะไรกัน? คำถามของเพื่อนทำให้ผมรู้ทันทีว่าเขามองไม่เห็นผู้หญิงคนนั้น ผมเองก็ละสายตาจากจุดนั้น...และเมื่อหันไปอีกทีเธอก็หายไปแล้ว
เธอเป็นสิ่งที่ขัดแย้งกับบรรยากาศโดยรอบอย่างสิ้นเชิง!
หรือเธออาจอยู่ที่นี่จริงๆ และคิดว่ามันมืด เธอออกมายืนชมวิวอย่างนั้นคงไม่มีใครสนใจ ก็อาจจะเป็นไปได้
ราวครึ่งชั่วโมงต่อมา ผมเริ่มมึนๆ อยากเข้าห้องน้ำที่อยู่ในตัวบ้าน
เมื่อผมทำธุระส่วนตัวเสร็จก็เดินออกมา ภายในบ้านก็มืดสลัวพอๆ กับข้างนอก มีโต๊ะตั้งอยู่ไม่กี่ตัว และมีคนนั่งไม่เท่าไหร่ ส่วนใหญ่เขาจะนั่งข้างนอกกัน
ไม่รู้อะไรทำให้ผมชะเง้อมองที่บันได...
มันทอดตัวขึ้นไปสู่ความมืด แล้ว...คล้ายกับมีอะไรดึงดูดให้ผมก้าวขึ้นบันได ไม่เห็นมีใครสนใจนี่นา ผมก็เลยเดินขึ้นทีละขั้นๆ
สภาพชั้นบนคล้ายมีคนอาศัยอยู่จริงๆ ไม่ได้ทิ้งร้างอะไร พวกเด็กเสิร์ฟอาจจะนอนที่นี่ก็ได้ ปรากฏว่าห้องทุกห้องเปิดทิ้งไว้ ทำให้เห็นว่าภายในมีที่นอน เป็นฟูกวางกับพื้น...พวกเขาคงรวมกันหลายคน...
ผมมองหาผู้หญิงคนเมื่อกี้!
นั่นไง! เธอนั่งอยู่บนฟูกในห้องหนึ่ง นั่งกอดเข่าอยู่คนเดียวเงียบๆ และหันมาทางผมอย่างเชื่องช้า...ค่อยๆ หันมาจนเห็นเสี้ยวหน้า ตาต่อตาสบกัน...แสงไฟจากด้านนอกส่องให้เห็นดวงตาที่ดำสนิท จมูกโด่ง และปากที่ดำจนเห็นได้ชัดเจน...
ผมขนลุกซ่าไปทั้งตัว ความหนาวจับใจก็จู่โจมเข้ามาอีกครั้ง
เธอจ้องผมนิ่งแน่ว มันมีอำนาจแปลกๆ คนธรรมดาไม่เป็นเช่นนี้แน่นอน!
ผมถอยหลังแล้วเดินลงบันได ขาสั่นนิดๆ จนต้องจับราวไว้ เด็กเสิร์ฟคนหนึ่งเห็นเข้าพอดี เขาถามแปลกๆ ว่า...พี่เป็นไรรึเปล่า?
ฟังแล้วออกจะงงๆ ที่จริงเขาน่าจะสงสัยมากกว่า ว่าผมแอบขึ้นไปลักขโมยอะไร แต่ผมฝืนยิ้มทำเป็นพูดติดตลกว่าอยากขึ้นไปดูบ้าน ไม่ได้ขโมยของนะ! เขาหัวเราะแล้วบอกอย่างอารมณ์ดีว่า
"ข้างบนไม่มีอะไรหรอกฮะพี่ ไม่มีใครอยู่..."
พอได้ยินอย่างนั้นผมก็ชักจะหายเมา ถามเขาว่า...แล้วฟูกที่นอนพวกนั้นล่ะ เห็นมีอยู่ทุกห้อง?
เขาตอบว่า มันเป็นของเก่า ถ้ามาดูกลางวันจะเห็นฝุ่นจับหนาทีเดียว...ที่นี่ไม่มีใครนอน นอกจากยามที่เฝ้าอยู่ข้างหน้า ซึ่งก็ไม่ได้นอนในตัวบ้าน
เพราะเหตุใดน่ะหรือ บ้านดีๆ แบบนี้ถึงไม่มีใครอยู่?
คำตอบที่ได้รับจากเขาก็คือ
"บ้านนี้เคยมีการฆ่ากันตายฮะ ขโมยขึ้นบ้าน ลูกสาวเจ้าของบ้านตื่นขึ้นมาพบเข้าพอดีเลยโดนมันปาดคอเอา...คอหอยเกือบขาดแนะ! ใครๆ ก็ลือว่าผีดุ มีคนเคยเห็นหลายคนมาแล้ว"
ผมขนลุกเกรียวกราว นัยน์ตาพร่าพรายไปถนัด กลืนน้ำลายอึกใหญ่ ขณะที่เด็กเสิร์ฟเอียงคอมองเหมือนจะรู้เท่าทันอะไรบางอย่าง
"แปลกอย่างนะพี่ เกือบทุกคืนจะมีแขกผู้ชายเห็นผู้หญิงคนนี้ บางคนก็เดินขึ้นบันไดเหมือนไม่รู้ตัว พอลงมาก็บอกว่าไม่ได้ตั้งใจ แต่คล้ายมีอะไรดึงดูดให้ขึ้นไปก็ไม่รู้ซีฮะ"
ผมได้แต่พยักหน้า ปากคอแห้งผากไปหมด มองเห็นภาพใบหน้าของหญิงนั้นเต้นเร่าอยู่ในความทรงจำ
"อย่าคิดอะไรมากเลยพี่" เด็กเสิร์ฟปลอบใจ "ไม่มีใครเป็นอะไรหรอก"
ถึงแม้จะไม่ได้เป็นอะไรมากกว่าขนหัวลุก แต่รุ่งขึ้นผมก็ทำบุญให้เธอ...อดทึ่งไม่ได้ที่ผมได้เจอผีเข้าจริงๆ น่ะซีครับ! บรื๋ออออ...
ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก โดย ใบหนาด - ข่าวสด หน้า 36 - ฉบับวันที่ 14 สิงหาคม 2550
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น