28 สิงหาคม 2558

บ้านว่างให้เช่า

"พอลล่า" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากประชาชื่น

เขาว่ากันว่า คนที่ถูกผีหลอกนั้นคนดวงตก หรือไม่ก็กำลังตกอยู่ในภาวะอ่อนแอ เช่น อาจจะกำลังไม่สบาย หรือเกิดอาการตกใจจนขวัญหาย เปิดโอกาสให้ภูตผีหรือวิญญาณต่างๆ ทะลุมิติมาหลอกหลอนได้

เรื่องนี้ดิฉันเชื่อค่ะ เพราะเพิ่งเจอกับตัวเองมาเมื่อไม่นานนี้เอง!

ดิฉันอยู่บ้านเช่าค่ะ บ้านตัวเองน่ะมี แต่ว่าอยู่ที่ต่างจังหวัดในอีสานโน่น เผอิญพี่สาวตามสามีที่เป็นข้าราชการมาอยู่กรุงเทพฯ เธอเลยชวนดิฉันมาอยู่ด้วยกัน จะได้มาช่วยเลี้ยงหลานๆ ไงคะ

ขณะพี่เขยไปทำงานที่กระทรวง พี่ต้อยของดิฉันก็ไปเป็นแม่ครัวให้ร้านอาหารแห่งหนึ่ง เธอทำอาหารเก่งมาก รายได้ดีทีเดียว เสียแต่ต้องกลับบ้านค่ำๆ มืดๆ ฉะนั้น หน้าที่ดูแลต้นกับติ๊ก จึงเป็นของดิฉันคนเดียว

ต้นเป็นเด็กผู้ชายอายุ 10 ขวบ ติ๊กเป็นสาวน้อยเพิ่ง 7 ขวบค่ะ เรียนโรงเรียนใกล้ๆ บ้านที่เราเช่าอยู่กัน

บ้านไม้สองชั้นไม่ทาสี บอกตรงๆ ว่าเห็นทีแรกก็ชักหวาดๆ พิกล ที่จริงมันตั้งอยู่กลางซอยแถวประชาชื่นนี่แหละ เจ้าของคงทิ้งไปนาน ต้นหมากรากไม้ขึ้นรกรุงรัง เขารู้จักกับพี่เขยไงคะเลยให้เช่าราคาถูกๆ แต่ขอโทษเถอะ! วันแรกที่เข้าไปอยู่น่ะ ดิฉันต้องถางต้นไม้ดายหญ้าซะเมื่อยไปทั้งตัวเลย

บอกจริงๆ ว่าตอนนั้นนึกถึงเรื่องผีเหมือนกัน!

บรรยากาศมันให้น่ะค่ะ แต่อยู่มาปีกว่าๆ ก็ไม่เห็นมีอะไร ทุกอย่างเรียบร้อยดี

ดิฉันนอนห้องข้างล่างกับหลานสองคน ปล่อยให้พี่สาวพี่เขยครองชั้นบนที่มี 2 ห้องนอน 1 ห้องพระ กับ 1 ห้องน้ำ

อยู่ข้างล่างน้าๆ หลานๆ ก็สะดวกดีค่ะ ห้องน้ำอยู่ติดกับห้องนอน รวมทั้งครัวและห้องนั่งเล่นที่ตั้งโซฟาชิดฝา มีทีวีให้ดูสุขสำราญ...สรุปแล้วเป็นบ้านที่อยู่สบาย ไปมาสะดวก

เมื่อตอนเข้าพรรษาที่ผ่านมา พี่สาวพี่เขยพาลูกๆ กลับไปเยี่ยมคุณตาคุณยายที่อุบลฯ ตั้ง 3 วันรวดเลย ส่วนตัวดิฉันเป็นไข้หวัดไม่ได้ไปด้วย ขออยู่โยงเฝ้าบ้านตามลำพัง...พอหลานๆ ไปกับพ่อแม่ของแก ดิฉันก็รู้สึกเหมือนได้พักผ่อนจริงๆ เลย

โธ่...เลี้ยงเด็กนี่มันเหนื่อยมากนะคุณ ไหนจะงานบ้าน ไหนจะต้องไปรับไปส่ง วันไหนโรงเรียนหยุดก็ต้องหาของกิน แถมปากเปียกปากแฉะทั้งวัน กำลังอยู่ในวัยซนทั้งคู่นี่คะ เพราะฉะนั้น 3 วันที่พวกเขากลับบ้านกันนี่เป็นนาทีทองของดิฉันจริงๆ

ที่ไหนได้...มันไม่ใช่อย่างที่คิดซีคะ!!

คืนแรกแห่งอิสรเสรี ดิฉันซื้อส้มตำ ไก่ย่าง ลาบปลาดุกมานั่งกินหน้าทีวี คนฟื้นไข้ก็อย่างนี้ล่ะค่ะ อยากกินแต่กินไม่ได้มากหรอก ชักคิดถึงต้นกับติ๊กแล้วซิ...ของแบบนี้ไม่มีใครมาแย่งกินมันก็กร่อยๆ ยังไงไม่รู้?

ดิฉันนั่งพิงโซฟาอย่างสบาย กดรีโมตคอนโทรลคนเดียวอย่างภูมิใจ

ราว 3 ทุ่มเศษ เริ่มมีเสียงกระดานชั้นบนดังเอี๊ยดอ๊าด...ดิฉันบอกตัวเองว่าไม่มีอะไรหรอก กระดานมันลั่นน่ะ! เราอยู่คนเดียวเงียบๆ เลยได้ยินเสียงชัดไปหน่อย

ความจริงน่ะอดเหลือบตาขึ้นไปบนเพดานไม่ได้ ชั้นบนมืดสนิทเพราะไม่มีใครอยู่ รู้งี้เมื่อตอนเย็นเดินไปเปิดไฟไว้สักดวงก็จะดีหรอก...ดูซิ! กระไดก็มืด...เผื่อมีอะไรมันเดินลงมาล่ะ จะทำยังไง? ดิฉันด่าตัวเอง....

อยู่ดีไม่ว่าดี คิดเรื่อยเปื่อยซะชักจะหนาวๆ แล้วซิ!

ไม่เป็นไร ตั้งสมาธิดูทีวีต่อ แต่อะไรมันวิ่งบนหลังคาน่ะ? วิ่งจากมุมโน้นไล่กันมามุมนี้ สงสัยจะเป็นกระรอก? ดิฉันเห็นมันมีอยู่คู่หนึ่งที่ต้นมะม่วง วันนี้เห็นไม่มีคนเลยชวนกันมาวิ่งเล่นไล่บนหลังคาละมั้ง?

ขนาดคิดว่ามันเป็นกระรอก แต่ความกลัวก็เพิ่มขึ้นอีกนิดแล้วนะ มันวิ่งไล่ไม่เลิกเสียงกระดานลั่นก็ฟังเหมือนเสียงคนเดิน...เอาละซิ! ดูทีวีชักไม่เป็นสุขแล้ว หัวมึนตึ้บๆ จะเข้านอนก็ยังไม่ง่วง เหลือบดูนาฬิกา...อ้าว? เร็วจริง 4 ทุ่มแล้วเหรอเนี่ย?

เสียงต่างๆ เงียบลง ดิฉันเงยหน้ามอง...ทำไมอยู่ดีๆ มันเงียบไปเฉยๆ

ทันใดนั้น มีอะไรบางอย่างขนาดใหญ่มาก...ใหญ่เหมือนผ้าห่มผืนหนักๆ ร่วงผล็อย ตกลงมาจากเพดานมุมห้อง...

เป็นไปได้ไง? มันทะลุกระดานลงมาซะงั้น!!

ทั้งงุนงงและตกใจมาก มันเป็นอะไรที่น่ากลัวมากๆ วินาทีนั้น ไฟทั้งบ้านก็ดับพรึ่บ! เล่นเอาตาบอดสนิทไปชั่วขณะ ขวัญหายวูบ ทำอะไรไม่ถูก ได้แต่นิ่งงันตัวแข็งทื่อ...ไอ้ตัวที่ร่วงจากเพดานมันจะเอายังไงกับเราเนี่ย? ดิฉันรู้สึกว่าในความมืดมิดนั้น มีอะไรบางอย่างที่น่ากลัวมากกำลังจ้องอยู่ มันขยับเข้ามาใกล้ๆ แล้วด้วย...

ไม่ถึงอึดใจ สายตาก็ชินกับความมืด ดิฉันจะอยู่ทำไมล่ะคะ เดินตัวแข็ง สันหลังเย็นวาบๆ ไปที่ประตู กลัวแทบขาดใจ...เปิดประตูได้ก็เผ่นไปบ้านข้างๆ ดีนะที่รู้จักกับเขาน่ะ...บอกกับคนรับใช้บ้านนั้นว่าขอค้างคืนด้วย ไม่กล้าอยู่บ้านคนเดียว!

แปลกมาก บ้านทุกบ้านในซอย ไฟยังสว่างโร่ มีบ้านเช่าของดิฉันนี่แหละที่แผลงฤทธิ์ดับพรึ่บให้ขวัญหาย

รุ่งขึ้นดิฉันกลับเข้าบ้าน ฟิวส์ก็ไม่ขาดค่ะ ไฟมาตามปกติ ทีวีก็เปิดทิ้งไว้

สองคืนต่อมา ดิฉันก็ไม่ได้นอนที่บ้านเช่าหรอกค่ะ จนกระทั่งพี่สาวพี่เขยและหลานๆ กลับมา ดิฉันถึงได้เข้าบ้าน ซึ่งก็ปกติทุกอย่าง ไม่มีอะไรมาหลอกหลอนอีกเลย

คิดว่าดิฉันคงดวงตกและอ่อนแอน่ะค่ะ เลยเจอสิ่งที่สยองสุดขีดในคืนนั้น บรื๋อส์! 

ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก โดย ใบหนาด - ข่าวสด หน้า 36 - ฉบับวันที่  28 สิงหาคม 2550

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น