10 สิงหาคม 2558

เหตุเกิดเพราะไม่เชื่อ

"นนทิยา" เล่าถึงสาวใช้หัวดื้อที่เจอดีเข้าเต็มๆ

ปานเป็นสาวชาวโคราช มาทำงานเป็นคนรับใช้บ้านเราตั้งแต่อายุยี่สิบกว่าๆ จนถึงตอนนี้ก็ปาเข้าไปตั้งสามสิบห้าแล้ว เรียกว่าอยู่กันมานานมากจนรู้ใจกันไปหมดทุกอย่าง เธอทำงานดีจริงๆ ขยันขันแข็งและซื่อสัตย์มากด้วยเสียอย่างเดียวที่เป็นคนเถรตรงเกินไป ทำให้บางทีจะพูดจะจาอะไรก็ไม่ค่อยเข้าหูคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคุณป้าของดิฉัน

คุณป้าวนิดาคนนี้ก็เหลือเกินละ ท่านเป็นพี่สาวแท้ๆ ของคุณแม่ ครองตัวเป็นโสดอยู่จนวัยชราแปดสิบสี่แล้ว ท่านเป็นคนระเบียบจัด เคร่งครัด และออกจะหัวเก่าเอามากๆ

ลูกๆ ของดิฉันเข้าหน้าไม่ติดเพราะมักจะถูกบ่นว่าอยู่เสมอ ดิฉันก็พลอยโดนดุไปด้วยว่าเลี้ยงลูกตามใจเกินไป

ปานกับคุณป้าดาไม่ถูกกันอย่างแรง ดิฉันซึ่งเป็นคนกลางต้องอึดอัดลำบากใจมาตลอด ปานทำกับข้าว ป้าดาบอกว่าไม่อร่อย ปานก็จะทิ้งสำรับไว้อย่างนั้น ไม่เก็บและไม่ถามด้วยว่าคุณป้าจะกินอย่างอื่นแทนหรือไม่ ดิฉันต้องรับหน้าที่หาอย่างอื่นมาให้คุณป้าเอง ทั้งคุณป้าก็จะงอนไปนาน เรื่องเสื้อผ้าก็เหมือนกัน คุณป้าจะตำหนิว่าปานรีดชุ่ยๆ ฝ่ายปานจะสะบัดหน้าพรึ่ดและไม่ไยดีเก็บเสื้อผ้าของคุณป้ามาซักรีดไปหลายวันจนกว่าจะหายโกรธ

แน่ละค่ะ! ปานทำไม่เหมาะสมดิฉันต้องว่ากล่าวตักเตือน บางครั้งก็ถึงกับต้องให้ไปกราบขอโทษคุณป้า ปานยอมทำตามที่ดิฉันสั่ง แต่แววตาเธอโกรธแค้นถึงขั้นอาฆาตเชียวละ

เมื่อป้าดาล้มป่วยด้วยโรคลำไส้อักเสบ ปานดูจะอารมณ์ดีขึ้นเพราะคุณป้าอาการหนักต้องไปอยู่โรงพยาบาล และในที่สุดท่านก็ไม่ได้กลับบ้าน

ก่อนเสียชีวิต คุณป้าซึ่งดูเหมือนจะรู้ตัวว่าถึงวาระสุดท้าย ได้สั่งเสียเอาไว้มากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องเสื้อผ้าของท่าน พวกผ้าลูกไม้และผ้าไหม ท่านรักและทะนุถนอมของท่านมาก ท่านสั่งให้บริจาคหรือตัวไหนที่ใครชอบก็ให้เขาไป

วันหนึ่ง ก่อนวันเผาคุณป้า ดิฉันต้องตกใจเมื่อได้กลิ่นควันไฟตลบอบอวล พอชะโงกดูทางหน้าต่างก็เห็นปานกำลังเผาขยะซึ่งเป็นพวกใบไม้แห้ง ทุกทีที่เผาใบไม้กลิ่นมันไม่ใช่แบบนี้นี่นา ดิฉันรู้สึกไม่ค่อยดีจนต้องลุกไปดู

นั่งไง! ดิฉันแทบเป็นลม เมื่อเห็นปานกำลังเผาเสื้อผ้าของคุณป้าไปกับขยะใบไม้แห้งพวกนั้นด้วย เธอหยิบตัวแล้วตัวเล่าหย่อนลงในกองไฟ

ดิฉันต่อว่าปานอย่างแรงเพราะโกรธมากจริงๆ ปานหัวเราะแค้นๆ บอกว่าเสื้อผ้าคนตายไม่มีใครเขาอยากได้หรอก เผาเสียได้แหละดี นึกซะว่าเผาไปให้คุณป้าใช้ในเมืองผีแล้วกัน!

นอกจากจะโกรธแล้วดิฉันยังใจหายที่ปานกล้าดีพูดออกมาได้ถึงขนาดนั้น

คืนนั้นหมาหอนทั้งคืนเลยค่ะ หอนแบบไม่เคยเป็นมาก่อนพอรุ่งเช้า แม่คนเก่งก็หน้าซีดหน้าเซียวเหมือนไม่ได้หลับได้นอน

"โอ๊ย! คุณคะไม่ไหว คุณป้ามาเดินรอบเตียงตั้งแต่ดึกยันเช้าเลย"

"รู้ได้ยังไงละว่าเป็นคุณป้า?"

"แหม! จะใครซะอีกละคะ เกิดมาไม่เคยพบเคยเห็นอะไรน่ากลัวอย่างนี้มาก่อน คืนนี้ขอเข้ามานอนกับจุ๋งในห้องรับแขกนะคะ" ปานพูดถึงเด็กรับใช้อีกคนหนึ่งของดิฉัน

ปานเล่าว่าตอนหมาหอนน่ะไม่ได้คิดอะไรมาก หอนได้ก็หอนไป เรื่องผีน่ะปานไม่กลัวอยู่แล้ว อย่างเก่งก็แค่มาให้เห็น ทำอะไรไม่ได้หรอก

แต่เอาเข้าจริง มันไม่ใช่แบบนั้นซิคะ!

เมื่อปานดับไฟนอน เธอก็รู้สึกว่ามีใครอยู่ในห้องท่ามกลางความมืด ทั้งๆ ที่ในห้องนี้เธอนอนคนเดียว พอเปิดไฟดูก็ไม่มีอะไร เลยดับไฟแล้วล้มตัวนอน เท่านั้นแหละก็มีเสียงคนเดินสวบสาบๆ รอบๆ เตียง ปานลืมตาฟังอยู่เงียบๆ ใจสั่นหน่อยๆ แล้ว มันไม่ใช่เสียงกระดานลั่นแน่ๆ

อึดใจต่อมา ไม่รู้ว่ายังตื่นอยู่หรือเคลิ้มฝันไปเพราะเหมือนจริงมาก ปานเห็นคุณป้าเดินวนรอบเตียง ท่านมาในสภาพศพที่มีสำลีอุดรูจมูกทั้งสองข้าง ดวงตาลืมโพลง ดำปี๋ แม้ทั้งห้องจะมืดมิด แต่ปานเห็นผีคุณป้าได้อย่างชัดเจน

ท่านอุ้มกองเสื้อผ้าไว้แนบอก ขณะเดินก็หยิบเสื้อและผ้าถุงโยนใส่หน้าปานทีละชิ้นๆ มันเหม็นน้ำเหลืองน้ำหนองคลุ้งไปหมด ปานขยับตัวไม่ได้ จนได้ยินเสียงจุ๋งเดินออกจากห้องข้างๆ มาเข้าห้องน้ำ ซึ่งนั่นก็คือตอนตีห้าที่ได้เวลาตื่นพอดี

ปานเข็ดค่ะ เธอขอขมาคุณป้าและซึมอยู่นาน หมดมาดคนเก่งเลย!

ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก โดย ใบหนาด - ข่าวสด หน้า 36 - ฉบับวันที่ 10 สิงหาคม 2550

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น