"ชุมพล" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกของคนขี้เมื่อย
สมัยหนุ่มๆ ผมเป็นนักเที่ยวราตรีตัวยง ชนิดที่ว่าคืนไหนไม่ได้เที่ยวมักจะเกิดอาการปวดหัวตัวร้อน เพื่อนฝูงที่ร่วมก๊วนเสเพลด้วยกันบอกว่า วันไหนเห็นผมหายหน้าไปก็ดูหมดสนุกไปตามๆ กัน
ตลาดหุ้นกำลังบูมสุดๆ พวกเราทำกำไรได้วันละหมื่นสองหมื่นถือว่าเรื่องจิ๊บจ๊อย บางวันได้เกือบแสนหรือแสนกว่าบาทก็ยังมี..เจ้าประคุณเอ๋ย! เที่ยวไปเที่ยวมา โดนผีหลอกจนขนหัวลุกตั้ง..ติดหูติดตามาจนถึงทุกวันนี้แน่ะครับ
ตอนบ่ายๆ ใกล้เย็นเราจะชวนกันเข้าไปอุ่นเครื่องด้วยเบียร์เย็นๆ ในโรงนวดก่อน ปักหลักที่โต๊ะใกล้ๆ ตู้กระจก มองดูสาวสวยที่เราคุ้นหน้าพวกเธอหลายคน ไม่ว่าแบบธรรมดา บีคอร์ส หรือนวดแผนไทยมีทั้งนั้น
คนเชียร์แขกก็จะปราดเข้าประกบทันที จัดการแนะนำคนนั้นคนนี้ให้ หรือไม่ก็ถามสเป๊กว่าต้องการยังไง? แบบไหน? รับรองว่าจัดสรรให้เรียบร้อยทุกรายเลยซีน่า
ผมก็มี "หลิน" คนเชียร์แขกวัย 30 เศษคอยดูแลเป็นประจำ!
แขกบางคนเข้ามาละเลียดเบียร์ขวดสองขวด จ้องมองสาวสวยหลายสิบคนในตู้กระจกอาบแสงไฟ ไม่รู้ว่าจะมีเคลิบเคลิ้มเหมือนมองนางในฮาเร็มที่ตัวเองเป็นสุลต่านหรือเปล่า? เพราะมีคนเชียร์แขกทั้งชายและหญิงโฉบเข้าไปถามว่าสนใจคนไหน? พี่แกก็ส่ายหน้าลูกเดียว หรือไม่ก็บอกว่ารอดูก่อนแต่ไม่เคยขึ้นห้องสักที
พวกเราน่ะไม่ใช่นักเที่ยวประเภท "ขี่ม้าชมสวน" แบบนั้นแน่ๆ แต่ยังไม่คิดจะลงอ่างตอนนี้หรอก เพราะยังเร็วเกินไป ยกเว้นแต่จะมีความจำเป็นจริงๆ เช่น เห็นคนสวยสะดุดตาสะดุดใจบ้าง เพื่อนฝูงเคยขึ้นห้องมาก่อนแล้วยืนยันว่า..บริการทุกระดับประทับใจบ้าง เลยต้องให้คนเชียร์แขกที่คุ้นๆ กันยกไมค์ขึ้นเรียกน้องหนูมานั่งคุยกันก่อนก็มี
ส่วนมากมักจะเข้าไปต่อในห้องคาเฟ่ เลือกโซฟามุมในหน่อย แม้จะห่างเวทีไปบ้างก็ไม่เป็นไร มองดูนักร้องสาวๆ ออกมาร้องเพลงล่อไอ้เข้ ทั้งชุดกระโปรงสั้นและกระโปรงบาน โชว์ขาอ่อนขาวๆ อาบแสงไฟ อวบอึ๋มอย่าบอกใครเชียว
ยิ่งเวลาร้องเพลงเมดเลย์ มีนักร้องราว 20-30 คนยกโขยงกันขึ้นมาเต็มเวทีต้องยืนกัน 2-3 แถว ถึงคิวใครร้องก็ก้าวออกมาแถวหน้า โชว์ตัวเรียกมาลัยน้ำใจจากแฟนประจำไงครับ ใครติดมาลัยให้ พอลงจากเวทีเธอก็มายกมือไหว้ หย่อนสะโพกอวบๆ ลงนั่งกระแซะๆ คราวนี้ "ดริงก์" ก็จะทยอยเข้ามา...
ตอนนั้นแหละ ใครหมายตาคนสวยในตู้กระจกเอาไว้ก็จะให้บ๋อยไปตามคนเชียร์แขกเข้ามา นักเที่ยวตัวจริงจะหมายตาเอาไว้ 2-3 เบอร์นะครับ เพราะไม่รู้ว่าตอนนั้นเธอจะขึ้นไป "ทำงาน" หรือเปล่า
พวกเรามักจะคุยกันเรื่องสัพเพเหระ ส่วนมากก็ตลาดหุ้นที่เพิ่งได้-เสียกันมากับ "เทรนด์" ของตลาดในวันรุ่งขึ้น...พอได้เบอร์ที่ต้องการก็เป็นอันว่าแยกย้ายกันไปได้แล้วนานๆ จะนัดหมายพบกันตอนจ่ายเงินเสร็จ ออกไปหาข้าวต้มตามโรงแรมกินกันไงครับ...ส่วนมากจะเป็นวันศุกร์ วันเสาร์ รุ่งขึ้นได้พักยาวเต็มที่
เหตุการณ์ขนหัวลุกเกิดขึ้นในคืนวันศุกร์ต้นเดือน!
แขกหนาตาตั้งแต่หัวค่ำ เด็กเสิร์ฟแทบจะชนกันตาย คนเชียร์แขกไม่ต้องเสียเวลากล่อม มีแต่คนนั้นเรียกคนนี้เรียก "เด็ก" แทบจะไม่มีโอกาสนั่งตู้ก็ว่าได้
"หลิน" ทักทายแขกแล้วไปคว้าไมค์...ยกมือไหว้ผมแล้วรีบไปทักแขกคนใหม่ในคาเฟ่ก็แขกเต็มแทบทุกโต๊ะ นักร้องได้มาลัยเป็นกอบเป็นกำน่าชื่นใจ..ผมชักอยากจะอาบน้ำอาบท่า เพราะรู้สึกกล้าๆ อยากนอนแช่น้ำอุ่นจัดให้สบายตัว
เพื่อนคนหนึ่งออกไปก่อน อีกสองคนทำท่าว่าถูกสเป๊กนักร้องสาวที่กระแซะๆ กันไม่ยอมห่าง... ผมเรียกบ๋อยให้ไปตามหลินมาหน่อย ในใจคิดเอาไว้สองเบอร์ที่เคยอาบน้ำนวดกันมาก่อน ฝีมือยอดเยี่ยมทั้งคู่
"เบอร์ไหนดีพี่?" หลินเข้ามาถามรวดเร็วทันใจ ผมบอกว่า 56 หรือ 35 แล้วกัน อาบน้ำเก่ง นวดก็ไม่เลว...หลินบอกว่าไม่แน่ใจว่าทำงานหรือยัง? จะรีบไปดูให้..คนเชียร์แขกบริการดีมากถ้าเราคอยทิปครั้งละ 2-3 ร้อยเป็นประจำ
คล้อยหลังหลินไม่นานผมก็ลุกตามออกไป ธรรมดาจะคอยให้หาเด็กมาส่งที่โต๊ะ แต่คืนนั้นผมอยากแช่น้ำอุ่นจัดเต็มที...ปรากฏว่าเบอร์ 56 ในชุดแดงเพลิงเดินเข้ามาหาพร้อมกับเบอร์ห้องเรียบร้อย
...ตอนที่กำลังนอนหลับตาแช่น้ำอุ่น ผมนึกถึงเรื่องสยองเมื่อเดือนก่อน มีแขกขี้เมาก้าวลงอ่างที่มีน้ำร้อนจัด แม่บ้านไขน้ำทิ้งไว้ส่งเดช หมอนวดก็ยังไม่ได้ปรับอุณหภูมิ...เสียงตูมเมื่อล้มโครมลงทั้งตัว ไหนจะเมา ไหนจะช็อกเพราะน้ำที่ร้อนจนเกือบเดือด หมอนวดเห็นเข้าก็ได้แต่ร้องว้ายๆๆ แบบคนสติแตก
แขกขี้เมาตายคาอ่าง หมอนวดหายหน้าไป..ถ้าวิญญาณมีจริงคงจะสิงสู่อยู่แน่ๆ ว่าแต่เป็นห้องนี้หรือเปล่า? บรื๋ออออ...
ผมรู้สึกปากคอแห้งผาก เสียววูบไปตามไขสันหลัง ลืมตาเห็นหน้าสาวสวยอยู่ใกล้ๆ แต่พร่าเลือนยังไงชอบกล...รีบลุกให้ล้างเนื้อล้างตัว ขึ้นไปนอนใจระทึกอยู่บนเตียง...แสงไฟหรี่สลัว มีเสียงถามยั่วเย้าว่ากลัวผีเหรอพี่?
"แหม! อย่าว่าแต่พี่เลย ต่ายก็กลัวค่ะ...โธ่! เขาเพิ่งพบศพพี่หลินผูกคอตายเมื่อเช้านี้เอง...เดี๋ยวแกโผล่มาทำงานมีหวังช็อกตายไปตามๆ กัน!"
ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก โดย ใบหนาด - ข่าวสด หน้า 36 - ฉบับวันที่ 3 สิงหาคม 2550
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น