"นายหนุ่ม" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกในห้องนอน
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อ 20 ปีก่อน ตอนนั้นผมอายุแค่ 7 ขวบเท่านั้นเอง แต่จำได้ว่ามันเป็นปีที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต!
ตั้งแต่เกิดมา ผมมีความสุขจนกระทั่งย่างเข้า 7 ขวบนั่นแหละครับ พ่อผมเป็นหมอทำงานโรงพยาบาล ตอนเย็นก็เปิดคลินิกที่บ้าน แม่เป็นพยาบาล ทั้งสวยและใจดี พ่อกับแม่มีลูกคนเดียวคือผมนี่เอง ใครๆ ก็มักจะชมว่าผมฉลาดและแสบน่าดู
แน่ละ! พ่อแม่ตามใจทุกอย่าง ไหนจะคุณย่าคุณยายอีกล่ะ....
แต่แล้ว เค้าลางของเมฆร้ายก็คืบคลานเข้ามา มันมาในรูปผู้หญิงคนใหม่ของพ่อเธอชื่อ วนิดา ผมไม่มีวันลืม! ทีแรกที่รู้จักกันเธอก็ใจดีขี้เล่น หัวเราะเสียงดัง ร่าเริงแจ่มใสชอบชวนแม่ไปช็อปปิ้ง อยู่ไปอยู่มา อ้าว? พ่อเริ่มทะเลาะกับแม่...แม่ร้องไห้ ย้ายข้าวของออกไปบอกว่าจะไปอยู่กับคุณยาย ให้ผมอยู่กับพ่อ
ผมไม่รู้อิโหน่อิเหน่หรอกครับ ตอนแม่ไปจากบ้าน ผมเกาะประตูดูตาแป๋ว คิดว่าไปเดี๋ยวเดียวแม่ก็กลับมา
คืนนั้น ผมต้องนอนคนเดียวเป็นคืนแรกในชีวิต!
ตั้งแต่เกิดมาผมนอนเตียงเดียวกับพ่อแม่ครับ ไม่พ่อก็แม่จะกอดผมไว้กับอก...มันอบอุ่นมาก และทำให้ผมนอนหลับฝันดีมาตลอด
จนกระทั่ง วนิดาเข้ามาในชีวิตของผม วันที่แม่ขนของออกไป เธอเข้ามาอยู่หน้าตาเฉย แล้วย้ายหมอนกับผ้าห่มของผมไปไว้อีกห้องหนึ่ง ความจริงห้องนี้พ่อก็ทำไว้ให้ผมนี่แหละ แต่ไม่เคยมีใครเข้าไปอยู่ ทิ้งว่างไว้เฉยๆ มีเตียงมีตู้พร้อม
"หนุ่มโตมากแล้ว นอนคนเดียวนะจ๊ะคนเก่ง" วนิดาทำเสียงอ่อนเสียงหวาน
คืนนั้นผมนอนร้องไห้...ยังไม่พร้อมที่จะนอนคนเดียวนี่ครับ มันกะทันหันจริงๆ แม่ไปค้างบ้านคุณยาย จะไปกี่คืนก็ไม่รู้ ผมไม่คิดเลยว่าแม่ไปแล้วจะไม่กลับมาที่บ้านนี้อีก แต่ผมก็คิดถึงแม่อย่างแรง
เวลาผ่านไปเป็นอาทิตย์ กว่าผมจะเริ่มปรับตัวเข้ากับสภาพใหม่
วนิดากลายมาเป็นผู้ช่วยพ่อ แม่มารับผมไปเที่ยว ไปบ้านคุณยายเสมอ บ้านคุณย่าบ้าง แล้วก็จะกลับมาส่งที่บ้านพ่อ
เวลาแม่กับพ่อคุยกัน วนิดาจะโกรธมากทุกครั้ง ผมได้ยินเธอทะเลาะกับพ่อแรงๆ เธอกลัวพ่อจะคืนดีกับแม่น่ะครับ
คืนหนึ่ง ผมเข้านอนตามปกติ จำได้ว่าวันนั้นอบอ้าวพิกล แอร์ก็ไม่เย็น...ผมรู้สึกคล้ายจะไม่สบาย มันอึดอัดมาก ในห้องมืดสนิทเพราะดับไฟแล้วและนอนห่มผ้าอยู่บนเตียง ...สักพักก็ถีบผ้าห่มออก เหงื่อแตกซิก
ทันใดนั้น ผมได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้! มันดังอยู่ในห้องผมนี่แหละ ตรงมุมห้องติดๆ กับตู้เสื้อผ้า!
และแล้ว ก็มีเสียงเขียวเรืองๆ เหมือนพรายน้ำในนาฬิกา มันปรากฏขึ้นพร้อมกับมีร่างของผู้หญิงตัวเขียวๆ ผมปรกหน้าปรกตา นั่งกอดเข่าและเงยหน้ามองผมอย่างเชื่องช้า...
ผมแหกปากลั่น กระโจนลงจากเตียงไปทุบห้องพ่อ...พ่อเพิ่งจะเข้านอน หน้าตายู่ยี่ ออกมาถามผมว่าเป็นอะไร? ผมเล่าว่ามีผีในห้องผม แต่เล่ายังไม่ทันจบ วนิดาก็พูดอย่างโกรธๆ ว่าผมคิดไปเอง ไม่มีอะไรหรอก พ่อหันไปบอกเธอว่าให้ผมนอนด้วยเถอะเพราะดูกลัวจริงๆ
วนิดาโมโหใหญ่ เธอเกรี้ยวกราดว่าผมโตแล้ว แถมต่อว่าพ่อว่าตามใจลูกจนเสียเด็ก พอถูกหลอกว่าผีหลอกแค่นี้ก็ยอมแพ้ รับเอาผมมานอนด้วย!
"เนี่ยนะ...แม่สอนมาแหงๆ ให้มาเป็นก้างขวางคอ!"
พ่อปิดประตูใส่หน้าผม...เมื่อโตขึ้นผมจึงเข้าใจว่าพ่อไม่อยากให้ผมได้ยินคำนั้น พ่อไม่ได้ตั้งใจทำร้ายความรู้สึกของลูกหรอกครับ แค่ปิดประตูไม่ให้คำพูดแสบร้อนมาเข้าหูลูก....แต่จากนาทีนั้น วนิดาคงโผเข้าจิกข่วนและทะเลาะกับพ่อจนเปิดประตูออกมาหาผมไม่ได้อีก
มืดก็มืด กลัวผีก็กลัว...ผมวิ่งลงมาข้างล่าง ไปทุบประตูห้องพี่ทองดีกับป้าสม ขอนอนด้วยเพราะผีหลอก!
ใครๆ หาว่าผมฝันร้าย ...คืนต่อมาป้าสมต้องขนที่นอนหมอนผ้าห่มมานอนกับผมทั้งคืน...แต่ผลปรากฏว่าป้าสมก็เห็นผีผู้หญิงคนนั้นเหมือนกัน แกถูกอำขณะผมหลับสนิท
วนิดาได้ยินคนในบ้านเล่าเรื่องผี เธอโมโหและท้าว่าจะนอนในห้องนั้นพิสูจน์สักคืน ถ้าไม่มีอะไรละก้อ...น่าดู!
ได้เลยครับ วนิดาเข้านอนในห้องผม โดยผมไปนอนกับพ่อ...กลางดึกคืนนั้นเราก็ได้ยินเธอกรีดเสียงร้องลั่น พอวิ่งไปดู เธอโผเข้ากอดพ่อตัวสั่นงันงก...ตั้งแต่นั้นมาเธอไม่เหมือนเดิมอีกเลย เพราะกลายเป็นคนผวาง่ายๆ ซึมเศร้าและอารมณ์เสียบ่อยมาก
บางคืนเธอส่งเสียงเอะอะกลางดึกว่ามีผู้หญิงมาดึงขาบ้าง มายืนขวางทางบ้าง
ตัวผมน่ะ พอมีเรื่องแม่ก็เอาไปอยู่ด้วยที่บ้านคุณยาย แล้วผมก็อยู่กับแม่มาตั้งแต่นั้นจนบัดนี้...แม่มีผม และยังครองตัวอยู่คนเดียว ไม่ได้แต่งงานใหม่ พ่อส่งเงินเลี้ยงผมกับแม่ให้อยู่อย่างสุขสบาย แม้พ่อกับแม่ไม่ได้กลับมาอยู่ด้วยกัน แต่ยังเป็นเพื่อนกัน ...พ่อแต่งงานใหม่ แต่ไม่ใช่กับวนิดาคนนั้น...
แม่จอมแสบกลายเป็นคนบ้าๆ บอๆ ต้องไปอยู่บ้านต่างจังหวัด ได้ข่าวตอนหลังว่าเธอกินยาฆ่าหญ้าตายเสียแล้ว
จนป่านนี้ยังไม่มีใครรู้ว่าผีผู้หญิงที่มาหาในห้องผมเป็นใคร? แต่คุณย่าคุณยายเคยบอกว่า คงเป็นเจ้าที่เจ้าทางท่านหมั่นไส้ยายวนิดาน่ะครับ...ซ้าธุ!!
ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก โดย ใบหนาด - ข่าวสด หน้า 28 - ฉบับวันที่ 19 กันยายน 2550
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น