บรรดาชุมทางผีดุในกรุงเทพฯ ที่ร่ำลือกันน่ะ ส่วนมากใครอยู่ย่านไหนก็มักจะบอกว่าย่านนั้นผีดุที่สุด ถ้าจะพูดถึงแหล่งดังๆ ก็ต้องวัดสระเกศกับวัดสุทัศน์นะครับ เพราะทั้งสองวัดนี่ไม่ได้มีแต่ภูตผีอย่างเดียว แต่เขาว่ามีเปรตด้วยแน่ะ
นอกจากนั้นก็ยังมีที่ท้องสนามหลวงกับสวนลุมพินี สถานที่พักผ่อนหย่อนใจชื่อดังนั่นแหละครับ กลางวันก็ดูร่มรื่น น่าสบายตาสบายใจดีหรอก แต่พอตกกลางคืนเข้าเท่านั้น...บรื๋อ! ผีดุอย่าบอกใครเชียว
ตามวัดตามโรงพยาบาลก็เชื่อว่ามีผีสิง คอยหลอกหลอนผู้คนอยู่เป็นประจำ!
ตามถนนหนทางก็เหมือนกัน ไมว่าพหลโยธิน หรือสุขุมวิทไปยันเพชรเกษม...สาเหตุมาจากรถราชนกันวินาศสันตะโร จะเพราะประมาทหรือเมามายก็ตามที แต่ทำให้มีคนบาดเจ็บล้มตายกันมานับไม่ถ้วน คราวละ 2-3 ศพ จนถึงตูมเดียวปาเข้าไปตั้ง 5-6 ศพก็มี
ขนาดในตรอกในซอยก็ยังไม่วายมีพวกตีนผีชนกันตายมั่ง เล่นงานผู้คนเดินถนนที่ไม่รู้อีโหน่อีเหน่มั่ง...ยังงี้จะไม่ทำให้เกิดผีหลอกวิญญาณหลอนได้ยังไงล่ะคุณ?
ผมเป็นคนเอกมัย ขอเล่าเรื่องผีในย่านนี้สู่กันฟังแก้เหงา อ่านแล้วจะขนลุกขนพองหรือเปล่าไม่ทราบนะครับ แต่ผมเองน่ะเจอะเจอเอาประสบการณ์ที่ทำให้ขนแขนสแตนดอัพ หัวใจหวิดล่มสลายละกัน
สมัยก่อนซอยเอกมัยเงียบๆ เหงาๆ ปลายซอยมีวัดภาษีโดดเดี่ยว พวกผู้ใหญ่เล่าว่าผีดุนักหนา เพราะที่นั่นเคยเป็นลานนักโทษประหาร ที่ใช้วิธีตัดหัว ฆาตกรนามบุญเพ็ง หีบเหล็ก เป็นรายสุดท้ายที่โดนประหารด้วยคมดาบ ก่อนจะกลายเป็นใช้ปืนกลแบล็กมันด์ประหารนักโทษในคุกบางขวางเมื่อ 60 กว่าปีมาแล้ว
ตอนเย็นๆ ค่ำๆ พวกคนหาปลาในคลองกับพวกทำสวนผัก เดินผ่านวัดจะกลับบ้าน เห็นใครนั่งกอดเข่าก้มหน้าอยู่แถวประตูวัด พอจ้องมองให้ถนัดถึงกับร้องจ้า...ร่างนั้นไม่ได้ก้มหน้าหรอกครับ แต่ว่าไม่มีหัวต่างหากล่ะ!
วิ่งตะโพงกันไม่คิดชีวิต ปากก็ร้องโว้ยๆๆ ไปด้วยเพราะโดนผีหลอกเข้าจังเบอร์
บางทีเห็นใครเดินออกมาจากวัดเทิ่งๆ เอ๊ะ! รูปร่างพิกลแฮะ...จนใกล้เข้ามาถึงได้ตาเหลือก จะไม่พิกลยังไงล่ะ ในเมื่อร่างนั้นเป็นผีหัวขาด แถมหิ้วหัวติดมือมาอีกต่างหาก
ระยะหลังๆ ความเจริญย่างกรายเข้ามา ตึกรามบ้านช่องผุดสะพรั่ง รถราขวักไขว่จนติดขัด ผู้คนคึ่กๆ มีแต่ความสับสนอลหม่านทั้งกลางวันกลางคืน ถนนเพชรบุรีตัดใหม่ กลายเป็นแหล่งบาร์ ไนต์คลับ โรงแรมม่านรูดหนาตา โรงอาบน้ำ หรือเรียกกันว่าโรงนวดโผล่ขึ้นมาเรียงรายสองฝั่งถนน มากมายที่สุดในกรุงเทพฯ
ไม่มีซอยเอกมัยแล้ว แต่กลายเป็นถนนเอกมัย มีร้านค้าใหญ่น้อยเต็มไปหมดทั้งสองฝั่งถนน โดยเฉพาะบาร์กับค็อกเทลเลานจ์ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ด...กลายเป็นถนนที่เจริญสุดๆ มีซอยเล็กซอยน้อยแยกออกไปเป็นสิบๆ ซอย รถราคับคั่งขนาดติดเป็นแพก็แล้วกัน
ผีหัวขาดหายไปแล้ว...อาจจะกลัวผีตายโหงที่โดนรถชนตายก็ได้นะครับ!
รถยิ่งเยอะ คนโดนเฉี่ยวโดนชนก็ยิ่งมากขึ้นทุกที...บ้านผมอยู่แถวๆ ร้านเนื้อวัวสุดดัง ย่านนั้นมีแยกหลายแยก เกิดอุบัติเหตุบ่อย โดยเฉพาะมอเตอร์ไซค์ที่ซิ่งกันน่าดู ต่อให้รถติดก็ซิกแซ็กไปได้ พลาดพลั้งตูมตามเข้าตะละที ส่วนมากไปเกิดใหม่ทั้งนั้นแหละ
คืนเกิดเหตุ เฮียหลงคนข้างบ้านเกิดถูกหวยมาหลายหมื่น เลยชวนพวกเราไปเที่ยวฉลองกันหน่อย...มีผมกับเจ้าช้วนที่ว่างพอดี ส่วนเจ้าฮ้อขอช่วยเตี่ยเก็บร้านก่อน เฮียหลงก็บอกให้ตามไปสมทบที่เซาน่าละกัน!
เราสามคนตีต๊อกไปที่สีลมเซาน่า...อ๊ะ! อย่านึกว่าผมเพี้ยนจนถึงกับเดินจากเอกมัยไปสีลมนะครับ ไปสีลมเซาน่าจริงๆ เพราะเขาย้ายจากสีลมมาอยู่เอกมัยหลายปีแล้ว แต่ยังใช้ชื่อเดิม...เฮียหลงไปผลัดผ้าหน้าล็อกเกอร์พร้อมกับคนอื่นๆ แต่ผมกับเจ้าช้วนส่ายหน้า ไม่อยากจะไปเป็นชีเปลือยกับพวกไม้ป่าเดียวกัน เลยขอนั่งซดเบียร์รออยู่ด้านหน้า
แหม! เฮียหลงอุตส่าห์โทร.ไปสั่งเกาเหลาเครื่องในสดกับเนื้อเปื่อยจากร้านดัง บึ่งมอเตอร์ไซค์มาให้เราแกล้มเบียร์จนถึงสีลมเซาน่าเชียวละคุณ
ราวๆ ครึ่งชั่วโมงเจ้าฮ้อก็ตามมาสมทบ...ตอนนั้นราว 2 ทุ่มกว่า มีแต่เราโต๊ะเดียวที่นั่งซดเบียร์กัน เพราะแขกส่วนมากเขามาอบเซาน่า...เพื่อลดความอ้วนบ้าง เพื่อให้เหงื่อออกเป็นการรีดไขมันบ้าง เฮียหลงแกว่าทำให้เลือดลมฉีดแรงดี กระปรี้กระเปร่าหายปวดเมื่อยเป็นปลิดทิ้ง
แสงไฟเหลืองๆ จากเพดานชวนให้วังเวงใจพิกล...คนที่อบตัวเสร็จก็ทยอยออกมา เจ้าฮ้อซดเบียร์อั้กๆ คงจะเหน็ดเหนื่อยจากการช่วยเตี่ยขายของมาทั้งวัน พอดีเฮียหลงแต่งตัวเสร็จโบกไม้โบกมือมาจากข้างใน
เฮียหลงจ่ายเงิน เราลุกจากโต๊ะพร้อมกัน เจ้าฮ้อออกเดินนำหน้า...ถนนเฉอะแฉะเพราะฝนตกหนักตอนเย็น เจ้าช้วนร้องว่า "ไอ้ฮ้อหายไปไหน?"
ผมมองไปอีกทีก็ไม่เห็นเหมือนกัน เฮียหลงถามว่าไอ้ฮ้อมาแล้วรึ? ทำไมข้าเห็นแต่เอ็งสองคนเท่านั้นล่ะ? ผมชักเอะใจ รีบจ้ำออกไปถึงปากทางแล้วเหลียวซ้ายแลขวา...แต่ไม่เห็นไอ้ฮ้อแม้แต่เงา...เจ้าช้วนควักโทรศัพท์ขึ้นมา ผมเห็นมันพูดจาอะไรได้เดี๋ยวเดียวก็อ้าปากค้าง หน้าซีดเหมือนศพทันใด
"จริงหรือเตี่ย? โธ่..." เจ้าช้วนคราง โทรศัพท์ร่วงผล็อยลงอย่างสิ้นเรี่ยวแรง...
เตี่ยไอ้ฮ้อบอกว่า อารามรีบร้อนทำให้ไอ้ฮ้อโดนรถปิกอัพชนตูมที่หน้าร้าน...ไปนอนโคม่าอยู่ที่โรงพยาบาล เจตภูตหรือวิญญาณของมันก็ไม่รู้ที่ไปหาเรา...ซดเบียร์กันเป็นครั้งสุดท้าย เจ้าฮ้อสิ้นใจตายคืนนั้นเองครับ!
ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก โดย ใบหนาด - ข่าวสด หน้า 28 - ฉบับวันที่ 17 มกราคม 2551
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น