19 ธันวาคม 2558

แดนอาถรรพณ์

"พิมาน" เล่าเรื่องขนหัวลุกจากบ้านสนธยา

คืนนั้นเป็นคืนวันเสาร์ ราวๆ ห้าทุ่มเกือบครึ่งเห็นจะได้ ผมกำลังดูทีวีกับลูกกับเมียอยู่เพลินๆ ก็มีเสียงผู้หญิงมาตะโกนเรียกชื่ออย่างร้อนรนอยู่ที่ประตูรั้ว

"คุณแมนคะ! คุณแมน...คุณแม้น..."

เรามองหน้ากัน...เกิดอะไรขึ้นล่ะ? มันต้องเป็นเรื่องไม่ดีแน่ๆ

"นั่นเสียงป้าปุ๋มนี่คะ" เมียผมทำหน้าเลิ่กลั่ก...ป้าปุ๋มเป็นคนรับใช้เก่าแก่ของเพื่อนบ้าน ซึ่งอยู่เยื้องๆ กับเรานี่เอง ปกติแกเป็นคนเรียบร้อย ไม่โหวกเหวกอย่างนี้หรอก...คงมีปัญหาขโมยขึ้นบ้านละมั้ง?

พวกเราผละจากหน้าจอทีวี เดินเกาะกลุ่มเป็นพรวนออกไปดูหน้าบ้าน...นั่นไง! ป้าปุ๋มเกาะรั้วเรา หันซ้ายหันขวา ท่าทางขวัญเสีย หวิดจะร้องไห้โฮๆ อยู่แล้ว

"ช่วยด้วยค่ะ! ช่วยด้วย...มีคนตายอยู่ในบ้าน" แกละล่ำละลัก

"เฮ้ย!" ผมร้อง มองไปยังบ้านที่อยู่ตรงข้าม...บ้านสองชั้นที่ดูโอ่อ่าสง่างาม ปลูกสร้างมาเกือบสี่สิบปีแล้ว ผมเห็นมาตั้งแต่เกิด ตอนเล็กๆ ยังเคยเข้าไปเล่นกับพี่โอม ลูกชายคนเดียวของเจ้าของบ้าน ซึ่งรุ่นราวคราวเดียวกับผมเลย

"ใครล่ะ ป้าปุ๋ม? คุณโอมไม่อยู่นี่นา ไปเที่ยวทะเลกันทั้งบ้านไม่ใช่เหรอ?"

พี่โอมออกเดินทางตั้งแต่เมื่อเย็นวันวาน ไปกับคุณน้อยผู้ภรรยาและน้องอั้ม-ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนวัย 10 ขวบ

บัดนี้ ประตูใหญ่หน้าบ้านนั้นเปิดอ้า...นี่แปลว่าป้าปุ๋มแกวิ่งเตลิดเปิดเปิงออกมาไม่สนใจจะปิดมันให้เรียบร้อย คืนนี้บ้านทั้งหลังมีแกอยู่คนเดียว หลานสองคนที่มาช่วยงานก็ขอไปค้างบ้านเพื่อนเสียแล้ว

"ไม่ใช่คุณโอมค่ะ แต่เป็นใครก็ไม่รู้ ไม่ใช่คนเดียวด้วยนะคุณแมน มีผู้หญิงด้วยกับเด็กอีกสองคน ป้าไม่เคยเห็นหน้า...มานอนตายเรียงกันบนเตียงในห้องนอนคุณโอมน่ะ!"

เมียผมร้องว้าย! เอามือปิดปาก ผมเองก็ขนลุกซู่ สับสนงุนงงไปหมด

"เรียกตำรวจรึยัง?" ผมพูดออกไปอย่างอัตโนมัติ

"ยังค่ะ ยัง! คุณแมนไปดูกับป้าหน่อย อูย...น่ากลัวจริงๆ เลย"

พูดไม่พูดเปล่า แกฉุดมือผมใหญ่ ผมเดินแกมวิ่งตามแกไป ขณะที่เมียผมกันลูกชายสองคนไว้ไม่ให้ตามมา...เพื่อนบ้านแถวนี้ก็เริ่มชะโงกหน้าออกมาดู

ผมยอมรับว่ากลัวภาพที่กำลังจะได้เห็น...บ้านพี่โอมดูวังเวงน่ากลัวพิกล ไฟสนามเปิดไว้เช่นเดียวกับภายในบ้าน...ป้าปุ๋มลากแขนผมขึ้นบันไดไปชั้นบน พอถึงหน้าห้องนอน แกก็กลับมาหลบอยู่ข้างหลังผมดื้อๆ

"ดูซิคะ คุณแมน บนเตียงน่ะ...เลือดท่วมเลย! อี๋..."

ผมค่อยๆ เยี่ยมหน้าเข้าไปในห้อง...และแล้ว ท่ามกลางแสงไฟสว่างจ้า ผมไม่เห็นมีใครสักคน ไม่ว่าจะเป็นคนเป็นหรือคนตาย...สิ่งที่ผิดปกติอย่างเดียวที่เห็นคือ กองผ้าห่มที่กระจัดกระจาย...

มารู้ภายหลังว่า ป้าปุ๋มแกเอาผ้าห่มไปตากแดดทั้งวัน พอตอนกลางคืนแกดูทีวีเพลิน มารู้ตัวอีกทีก็ห้าทุ่มกว่า แกขนตั้งผ้าห่มมาเก็บบนห้องนอนเจ้านาย และเมื่อกดสวิตช์ไฟสายตาก็ปะทะกับภาพสยองขวัญของศพทั้งสี่ที่นอนก่ายกันตายอยู่บนเตียง กลิ่นเลือดคาวคลุ้ง...

เออนะ! ผมได้กลิ่นคาวๆ อวลอยู่ในอากาศของห้องนี้ด้วยสิ ไม่รู้ว่าอุปาทานไปเองรึเปล่า?


เป็นอันว่าทุกอย่างนอกนั้นเป็นปกติ มีแต่ป้าปุ๋มที่ตื่นตระหนกแทบช็อก... แกตัวสั่นและไม่สามารถจะอยู่ที่บ้านนั้นตามลำพังได้ ดีนะที่แกยังไม่ได้เรียกตำรวจ เพราะแค่นี้แกก็หน้าแตกจะแย่แล้ว

"คุณแมนว่าป้าบ้าไปเองซิคะเนี่ย?" แกหน้าจ๋อย และมีท่าทีที่ผมรู้ว่าแกเห็นจริงๆ ใครจะวิ่งกระเซอะกระเซิงมาได้อย่างนั้น ถ้าไม่ตกใจขนาดหนัก

"ไม่หรอกป้า ผมกำลังคิดว่าป้าเห็นอะไรกันแน่?"

ขณะที่ผมกำลังพยายามจับต้นชนปลาย ป้าปุ๋มก็บรรยายสิ่งที่ประจักษ์กับสายตา...แกมองหน้าศพเหล่านั้นไม่ถนัด แต่แกไม่รู้จักคนพวกนั้นแน่ๆใครก็ไม่รู้...จะว่าเป็นผีเรอะครับ? บ้านนี้ไม่มีผี ไม่เคยมีใครตาย...พวกเขาอยู่กันอย่างมีความสุขมาตลอด...ป้าปุ๋มเองก็รู้ดี!

เมื่อปลอบโยนแก และส่งให้เข้านอนกับสาวใช้ในบ้านเราแล้ว ผมก็คุยกับเมียเรื่องนี้ต่อ...

"ฉันชักเสียวไส้เสียแล้วซี" เธอว่า "ถ้าอะไรที่ป้าปุ๋มเห็นไม่ใช่ผีจากอดีต ไม่ใช่สิ่งที่มาหลอกหลอนกันสดๆ มันก็อาจจะเป็นไปได้ว่า...แกเห็นอนาคต!"

ผมอึ้ง และรู้สึกวุ่นวายใจไม่น้อยเลย...

ศพบนเตียงไม่ใช่พี่โอมกับครอบครัว แต่เป็นไปได้ไหมว่าอีก 20-30 ปีข้างหน้าจะมีคนตายยกครัวกันในห้องนอนนั้น...

ใครล่ะที่กำลังจะกลายเป็นศพสยองในอนาคต?!

ผมใจหายวาบ นึกถึงน้องอั้มว่า...เผื่อแกโตขึ้น แต่งงานและมีปัญหาครอบครัว...อือม์! มันเป็นไปได้แฮะ...ว่าแต่ผมจะเตือนพวกเขายังไงดีล่ะ?

พี่โอมกลับจากไปเที่ยว ผมเล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟังอย่างไม่เคร่งเครียดนัก ผมปล่อยให้เขาคิดเองและหาทางป้องกัน...ภาพที่ป้าปุ๋มเห็นอาจเป็นคำเตือนจากอนาคตก็เป็นได้นะครับ! น่าขนลุกจริงๆ

ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก โดย ใบหนาด - ข่าวสด หน้า 28 - ฉบับวันที่ 19 ธันวาคม 2550

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น