14 ธันวาคม 2558

ต้นไทร ก.ม. 11

"นายหนุ่ม" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากใต้ต้นไทร

ผมเคยเล่าเรื่องผีลุงม้วนที่แผงลอยขายยาดองมาแล้ว เพื่อนซี้ของผมคือเจ้าหงกับเจ้าตี๋เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง เพราะมันไม่ได้นั่งคุยกับลุงม้วนเหมือนผม พอแกเห็นว่าพวกมันขี่รถมาก็เลยขอตัวไปก่อน เหลือแต่แก้วยาดองเปล่าๆ เป็นพยาน

ความที่เป็นหนุ่มโสดนักเที่ยว เสาร์อาทิตย์พวกเราก็นัดเจอกันแถวบ้านผม หลังสถานีรถไฟบางเขนมั่ง แถวชุมชนภักดีกับชุมชนสวนผักของเพื่อนเกลอทั้งสองมั่ง...เรียกกันติดปากว่า ชุมชน ก.ม.11

วันเกิดเหตุ เจอเรื่องขนหัวลุกก็เช่นกัน!


ผมบึ่งแมงกะไซค์คู่ชีพมาหาเพื่อนที่หน้าชุมชนภักดี ใกล้ๆ จะสุดทางที่เลียบทางรถไฟแล้วล่ะครับ เห็นเขาว่าจะตัดถนนไปออกบางซ่อน พอๆ กับจะสร้างโฮปเวลล์ต่อซะที เป็นเสาเป็นคานโด่เด่น่าเกลียดน่ากลัวมาตั้งสิบปีได้แล้วมั้ง?

เรานัดเจอกันที่ปากทาง แถวๆ ศาลปู่แก้วย่าพิมพา มีแผงขายผัดไทยป้าแดงกับข้าวแกงน้องเฟิร์น แต่พักหลังไม่ค่อยขาย ตกบ่ายๆ ก็กลายเป็นแผงขายผลไม้ พวกกล้วย ส้มเหมือนกับเพิงขายยาดองที่ขายมั่งไม่ขายมั่งตามใจชอบ

ราวหกโมงเย็นพวกเราก็พบกันตามนัด...เจ้าหงขี่รถให้เจ้าตี๋ซ้อนท้าย เราสวมหมวกนิรภัยเรียบร้อยครับ เพราะไม่ได้โฉบไปมาแถวใกล้ๆ บ้าน แต่ว่าจะไปหาอะไรกินกันแถวห้าแยกลาดพร้าวโน่นแน่ะ

แถวหลังเพิงขายยาดองมีทางให้ลัดเลาะข้ามทางรถไฟใกล้ๆ กับยกพื้นสถานีย่อย ก.ม.11 ไปออกถนนกำแพงเพชร...หรือเรียกโก้ๆ ว่า โลคัลโร้ด นั่นประไร!

ก่อนจะข้ามทางรถไฟ ผมหันไปเห็นหนุ่มสาวคู่หนึ่งเดินเคลียคลอกันไปทางต้นไทรใหญ่ แผ่กิ่งก้านร่มครึ้ม รากห้อยระย้าน่าวังเวงใจ...ดูเหมือนจะเป็นห้องแถวไม้เก่าๆ ราว 3-4 ห้อง แต่ปิดเงียบเชียบหมดทุกห้อง

จนกระทั่งร้านอาหารที่เป็นจุดหมาย...

แหม! แถวใกล้ๆ ห้างเซ็นทรัล ไม่ว่ารถราหรือผู้คนขวักไขว่คึกคักกันทั้งวัน ยิ่งตอนเย็นๆ ค่ำๆ แบบนี้หายห่วง ทั้งคนทำงาน นักเรียนนักศึกษา หนุ่มสาวไม่รู้มาจากไหนคึ่กๆ ส่วนน้อยคงจะไปเดินห้าง แต่ส่วนใหญ่ก็มักจะรอรถเมล์กลับบ้าน

พวกเราเคยไปกินร้านนี้เมื่ออาทิตย์ก่อน "น้องสวย" สาวเสิร์ฟร้านนี้หน้าตาสะสวยสมชื่อ แถมหุ่นเซ็กซี่อีกต่างหาก เจ้าตี๋ถึงกับมองตาเยิ้ม พึมพำว่า...อกเป็นอก! สะโพกเป็นสะโพก เหลือกินเหลือใช้จริงๆ ว่ะ

ไม่ใช่เราโต๊ะเดียวหรอกครับ พวกไอ้หนุ่มโต๊ะอื่นๆ ก็เหล่เธอแทบเป็นตาเดียวกันทั้งนั้น...สงสัยเจ้าของร้านจะหัวแหลม จ้างน้องสวยไว้ล่อไอ้เข้แหงๆ

ได้เหล้าเข้าไปคนละ 2-3 แก้ว เราก็คุยเรื่องผีกัน!

เจ้าหงยอมรับว่าเชื่อแล้วที่ผมคุยกับผีลุงม้วน โดยไม่รู้ว่าแกโดนรถชนตายแหงแก๋อยู่ที่วัดเสมียนนารี เพราะคืนนั้นพวกเพื่อนบ้านที่ไปฟังสวดศพก็มีคนเห็นแกทำลับๆ ล่อๆ อยู่แถวหน้าโลงศพ

"ฟังสวดเสร็จพากันกลับ" มันเล่าเสียงตื่นเต้น "พอจะเดินไปที่รถแถวลานวัดอ้าว? ลุงม้วนแกเดินนำหน้าปร๋อเฉยเลย ป้าสายกับยายส่งถึงกับเป็นลม แต่ป้าดาอาการหนัก แกปล่อยซ่าออกมาตรงนั้นเอง! สาบานว่าไม่ได้ตั้งอกตั้งใจจริงๆ ไม่รู้ว่าหลั่งไหลออกมาได้ยังไง?"

"น้าอ๋อยขายลูกชิ้นปิ้งก็โดน" เจ้าตี๋เล่ามั่ง "ตอนนั้นยังไม่ทันจะค่ำ เพิ่งหาบผ่านพ้นต้นไทรมาเกือบถึงหน้าศาลปู่แก้ว ได้ยินเสียงเรียกอ๋อยๆ พอหันไปมองก็เห็นลุงม้วนยืนโบกมือเรียกอยู่หน้าเพิงยาดอง...คงอยากกินลูกชิ้นปิ้งแกล้มเหล้าละมั้ง?"

"แล้วน้าอ๋อยแกว่ายังไงวะ?" เจ้าหงถามเสียงหัวเราะ...มันคงรู้เรื่องดีอยู่แล้ว

"ไม่ว่าอะไรซักคำ แต่วิ่งหนีไม่คิดชีวิต หาบกระจายไปทางไหนก็ช่างมัน ร้องตะโกนแต่ว่า ผีหลอกๆๆ...เตลิดเปิดเปิงไปเกือบถึงสวนผักแน่ะ"

ผมอดหัวเราะไม่ได้...กระทั่งวิสกี้ยอดฮิตราคาย่อมเยาหมดขวด...เราทั้งอิ่มทั้งมึนกำลังดี พากันกลับทางเก่า...ถึง ก.ม.11 ผมจะเลยไปอยู่แล้ว แต่เจ้าหงชวนให้ข้ามทางรถไฟ บอกว่าไปทางตรงปลอดภัยกว่าเพราะถนนโล่งกว่าโลคัลโร้ดเป็นไหนๆ

พอข้ามไปเท่านั้น ผมก็เห็นหนุ่มสาวคู่หนึ่งกำลังเดินลับไปทางต้นไทร...แบบเดียวกับขามาไม่มีผิด!
"เอ๊ะ! หนุ่มสาวคู่เดิมที่ข้าเห็นตอนนั้นนี่หว่า..." ผมร้อง เจ้าหงหัวเราะ หาว่าผมเมาจนตาลาย ขี่รถมาถึงนี่น่าจะสร่างแล้วนะ! แต่ผมยืนยันว่าเห็นจริงๆ เราเลยเลี้ยวซ้ายไปดูกัน...

ตอนนั้นห้าทุ่มกว่าแล้ว นอกจากโครงเสาโฮปเวลล์ตั้งตระหง่าน กับเพิงขายของโกโรโกโส แผงลอยเก่าๆ ชุมชนแออัดดับไฟมืดเกือบหมดสิ้น เสียงหมาเห่าหอนเบาๆ มาจากด้านในน่าวังเวงใจสิ้นดี...

ใต้แสงไฟเยือกเย็น เราเห็นหนุ่มสาวคู่หนึ่งกำลังเดินช้าๆ ไปที่โต๊ะม้าหินบนลานกว้างหน้าห้องแถวทรุดโทรม...ผมพยักหน้าให้เจ้าหงกับเจ้าตี๋ดูให้เต็มตา

นรกเป็นพยาน! หนุ่มสาวคู่นั้นหยุดชะงัก อาจจะได้ยินเสียงรถมอเตอร์ไซค์ของเราก็เป็นได้ เลยหันมามองช้าๆ แต่ว่าใบหน้าขาวโพลนคู่นั้นว่างเปล่า ไม่มีนัยน์ตา จมูกและปากเหมือนคนธรรมดา ผมผงะหน้า แก้วหูลั่นเปรี๊ยะ ได้ยินเสียงเพื่อนเกลอร้องเฮ้ยๆๆ เหมือนดังแว่วมาจากที่ไกลแสนไกล

มือไม้สั่นเทาไปหมด ไม่รู้ว่าหักรถกลับได้ยังไง...แล่นเตลิดออกหน้า มีเจ้าหงกวดตามมาติดๆ ผ่านศาลปู่แก้วย่าพิมพา เตลิดเปิดเปิงไปถึงชุมชนสวนผักถึงได้ตั้งสติได้

คืนนั้น เราสามคนต้องอาศัยนอนมุ้งเดียวกับเจ้าตี๋ ไม่กล้ากลับบ้านเพราะกลัวเจอะเจออะไรที่น่าขนหัวลุกเข้าอีกน่ะซีครับ! บรื๋ออออ...


ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก โดย ใบหนาด - ข่าวสด หน้า 28 - ฉบับวันที่ 14 ธันวาคม 2550

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น