19 พฤศจิกายน 2558

ซอยผีสยอง

"นายผี" เล่าเรื่องขนหัวลุกจากดงผีดุ

ผมกำลังจะออกจากซอยกลางดึกสงัด ทั้งเปล่าเปลี่ยวและน่ากลัวสิ้นดี!

ไม่ว่าตรอกซอยไหนๆ ในกรุงเทพฯ ก็เหมือนกันทั้งนั้นแหละ คุณเอ๋ย ไม่ว่าซอยบ้านคุณ บ้านผม หรือซอยใคร จะมีมั่งไหมที่ไม่อ้างว้างวังเวง เปล่าเปลี่ยว น่าใจหายในยามดึกสงัดน่ะ?

ไหนจะคนร้าย ไหนจะภูตผีปีศาจที่สิงสู่ คอยจ้องหลอกหลอนผู้คนให้ขนลุกขนพอง แทบจะขวัญหนีดีฝ่อไปตามๆ กัน!

พวกโจรผู้ร้ายน่ะยังพอทน แหม! คนเหมือนกันนะครับ ถึงยังไงก็พอจะพูดจากันรู้เรื่อง มันอยากได้ทรัพย์สินเงินทองอะไรก็ให้มันไป อย่าไปคิดต่อสู้ขัดขืนเหมือนพระเอกในหนังเข้าเชียว...อยากเดินเข้าซอยเปลี่ยวยามดึก ไม่ยอมนั่งแท็กซี่ก็ต้องวัดดวงเอาเอง งานนี้น่ะ

สำหรับคุณผู้หญิงถ้าไม่อยากโดนชิงทรัพย์แถมข่มขืน ก็คงไม่อุตริมาย่ำต๊อกตามทางสายเปลี่ยวแบบนี้หรอกนะครับ

ผมกำลังมีเรื่องที่น่าตื่นเต้นเร้าใจกว่าเรื่องผีๆ สางๆ เป็นไหนๆ

ผีเหรอ? เออ...หน้าตาเป็นยังไง? หลอกหลอนแบบไหนนะ? เกิดมายังไม่เคยโดนหลอกหลอนซักที!

เขาว่ามีผีสิงสู่อยู่ทุกซอยไม่ใช่หรือครับ?

คนที่โดนรถชนตาย โดนยิง โดนแทง แม้แต่ถูกรุมตีจนตายคาซอย...ไหนจะพวกที่เบื่อโลก แอบมาฆ่าตัวตาย ส่วนมากมักจะป่ายปืนขึ้นต้นไม้ร่มครึ้มริมทางเดินนั่นแหละ เลือกกิ่งก้านที่แข็งแรงหน่อย ผูกเชือกเข้า อีกข้างผูกคอตัวเอง...โดดแผล็ว หรือทิ้งตัวลงมาดิ้นกระแด่วๆ ไม่นานก็ได้ไปเกิดใหม่สมปรารถนา

พวกที่โดนฆ่าหรือฆ่าตัวตายในบ้านอีกล่ะ เขาว่าตกดึกๆ มักจะออกมาเอ้อระเหยชมวิวตามริมรั้ว ทอดน่องเงยหน้าชมจันทร์ แสนสุขซะไม่มี เพราะไร้ปัญหาสารพัดอย่างเหมือนตอนมีชีวิต จนต้องหาทางลัดหลบหนีมาเป็นผีนี่ไง!

ไหนจะพวกต้นโพธิ์ ต้นไทร ต้นไม้ใหญ่ๆ ตามตรอกซอยที่ผู้คนนับถือ มาจุดธูปขอหวยกัน ถูกหวยก็เอาผ้าแพรสีสวยๆ มาพันตามโคนต้น มีตุ๊กตาไม้ตุ๊กตาดินเผามาถวาย อ้อ! พวงมาลัยสด มาลัยแห้งมีทั้งนั้น แม้แต่ขนมนมเนยหรือเหล้าเป็นขวดๆ ก็ยังเคยมีนี่นา

ผมออกเดินไปเรื่อยๆ ฟังเสียงรองเท้ากระทบพื้นดังชัดเจนในความเงียบ เชียบ...ถ้าขวัญอ่อนก็จะคิดว่ามีใครเดินตามหลังมา! หันไปมองก็ไม่เห็น พอเราหยุดเดิน เสียงนั้นก็พลอยหยุดไปด้วย...คิดดูแล้วกันว่าขวัญอ่อนแค่ไหน?

เขาว่าผีเด็กน่ากลัวยิ่งกว่าผีผู้ใหญ่ด้วยซ้ำไป!

อาจจะจริงก็ได้แฮะ...เพราะถ้าเราเห็นใครเดินสวนมาในซอยเปลี่ยว ตอนแรก คงคิดระแวงว่าจะเป็นโจรผู้ร้าย แต่ถ้าเป็นเด็กเล็กๆ แค่ 2-3 ขวบเดินเตาะแตะเข้ามาหาล่ะครับ?

ตอนดึกดื่น อากาศหนาวยะเยือก ในซอยที่มีแต่ความอ้างว้างน่าวังเวงใจ คุณจะคิดยังไง? เด็กทารกที่ไหนจะมาเดินคนเดียวแบบนี้ ถ้าไม่ใช่เด็กผี?! บรื๋ออออ...

ผมก้าวเดินตามสบาย ไม่เร่งรีบแต่ก็ไม่ถึงกับทอดน่อง นึกถึงเรื่องภูตผีปีศาจที่สิงสู่อยู่ในซอยสารพัดชนิด...เจ็บปวดและทนทุกข์ทรมานสารพัดรูปแบบ ก่อนที่วิญญาณจะล่องลอยหรือถูกกระชากออกจากร่าง

ต้นมะขามเฒ่ายืนทะมึนอยู่เบื้องหน้า...

เมื่อตอนต้นปีมีคนมาผูกคอตาย 2 รายด้วยกัน รายแรกเป็นสาวใช้ท้องไม่มีพ่อ รายต่อมาเป็นชายแก่ที่มีแต่โรคภัยไข้เจ็บรุมเร้า ลุกโอย...นั่งโอย ...เบื่อหน่ายที่จะไปโรงพยาบาลเพื่อเจาะเลือด เพื่อพบหมอ รอคิวรับยา... ซ้ำๆ ซากๆ รอความตายที่ใกล้เข้ามา...ใกล้เข้ามา แต่ยังไม่ถึงซักที แกเลยตัดสินใจไปหามันเสียเอง...สิ้นเรื่องสิ้นราวไป!

คนในซอยเคยเห็นสาวใช้ผู้นั้นนั่งบนกิ่งมะขาม ร้องไห้พะอืดพะอม คร่ำครวญเสียงหวนโหยน่าขนลุกขนพอง จนวิ่งอกตั้งกันมาหลายรายแล้ว

บางคนก็เล่าว่าเห็นคุณลุงขี้โรค กำลังยักแย่ยักยันอยู่บนกิ่งมะขาม...แค่นี้ก็ร้องหาพ่อแก้วแม่แก้วครับ บางคนสาบานว่าเห็นคุณลุงแกชะโงกหน้ามอง แล้วทิ้งตัวพรวดพราดลงมาดิ้นกระแด่วๆ ต่อหน้าต่อตา!

รายนี้ปัสสาวะราดเหมือนท่อประปาแตก นั่งแผละลงไปร้องไห้โฮอยู่ตรงนั้นเอง เพราะไปไหนไม่ไหวจริงๆ

ผมหยุดมองที่โคนมะขาม ก่อนจะเงยหน้าขึ้นสำรวจกิ่งก้านสาขาร่มครึ้ม...

สรรพสิ่งเงียบเชียบเหมือนโลกร้าง แม้แต่เสียงแม่หม้ายลองไนที่เคยเซ็งแซ่เมื่อครู่ก่อนก็กลับเงียบไป...สายลมคร่ำครวญกับยอดไม้ฟังคล้าย เสียงสะอื้นแผ่วเบาก่อนจะจางหาย...

ผมยักไหล่ ออกเดินต่อไปเรื่อยๆ ตามเดิม...นักเลงฮ้อเพิ่งโดนแทงตายหน้าร้านกาแฟเมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง!

ตอนดึกๆ มีคนเห็นเจ้าฮ้อเดินก๋าเลือดท่วมอก จนร่ำลือกันทั้งซอยว่าผีดุนักหนา...ผมเดินมาหยุดที่หน้าร้านชำ ขายเหล้าขายกาแฟประจำซอยก็ไม่มีวี่แววอะไรแม้แต่น้อยนิด โธ่! ขนาดเสียงหมาหอนยังไม่มีเลยคุณ

เลยไปหน่อยก็มองเห็นยอดโพธิ์ดำทะมึนอยู่ข้างหน้า คนในซอยเล่าว่าผีเจ้าพ่อโพธิ์เฮี้ยนนัก โดนหลอกสารพัดรูปแบบมานับไม่ถ้วนแล้ว...อีกน่ะแหละ! เจ้าพ่อโพธิ์คงจะขี้เกียจหรือไม่กล้ายุ่งกับผมก็ไม่ทราบ...จนกระทั่งมองเห็นแสงไฟจากถนนปากซอยอยู่ไม่ไกลนัก

ตั้งแต่ก้นซอยยันปากซอย สรรพสิ่งสงบเงียบดีชะมัด ไม่มีอะไรมากวนอกกวนใจแม้แต่น้อยนิด...หมา 3-4 ตัวเห่าเบาๆ แล้วถอยหลังกรูด ก่อนจะเผ่นหนีไม่คิดชีวิต...

อ้าว? ผมยังไม่ได้บอกใช่ไหมครับว่าผมออกจากบ้านจะไปสมัคร ส.ส.ไงล่ะคุณ!!

ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก โดย ใบหนาด - ข่าวสด หน้า 28 - ฉบับวันที่ 19 พฤศจิกายน 2550

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น