"หลานกระแต" เล่าถึงฝันร้ายสุดสยอง
หนูเป็นแฟนพี่นกกระเต็นมาตั้งแต่ปีกลายแล้วละค่ะ ชอบที่พี่เขาสวยน่ารัก อ่านข่าวก็ชัดเจนเข้าใจง่าย บางทียังมีคำอธิบายแทรกมาด้วย ทำให้เด็กๆ วัยสิบกว่าขวบอย่างหนูได้รับความรู้เพิ่มเติมขึ้นอีกเยอะแยะเลยค่ะ
อ้อ! แม่ของหนูก็ชอบพี่นกกระเต็นเหมือนกันนะคะ บอกว่าถูกชะตามาหลายปีแล้ว แม่บอกสั้นๆ ว่าชอบ ฟังแล้วได้เนื้อถ้อยกระทงความดี
ตอนห้าโมงเย็น เราก็จะนั่งดูทีวี ฟังข่าวจากพี่นกกระเต็นด้วยกัน!
เมื่อวานนี้ซิคะ (วันพฤหัสบดี) หนูกินขนมไป ดูทีวีและฟังข่าวไป แม่สนใจข่าวการบ้านการเมือง แต่หนูเฉยๆ เพราะไม่ค่อยรู้เรื่อง ยกเว้นแต่จะมีข่าวแปลกๆ เช่นลูกหมากินนมลูกแมว เต่าปากจระเข้ หมูสองหัว อย่างนี้ละชอบสุดๆ เลย
พอดีมีข่าวช้างตายที่ป่าคลองขลุง จันทบุรีค่ะ พี่นกกระเต็นรายงานว่าชาวบ้านไปแจ้งพนักงานเรื่องมีช้างตาย 6 ตัว สาเหตุเพราะได้ยินเสียงร้องแปลกๆ มาหลายวัน แต่เมื่อไปถึงก็พบแต่กองกระดูกของช้างทั้ง 6 ตัวแล้วละค่ะ น่าสงสารมากๆ
ช้างป่าเราเรียกว่า "ตัว" นะคะ! พี่นกกระเต็นให้ความรู้ แต่ถ้าเป็นช้างบ้านที่เลี้ยงไว้ใช้งานน่ะเรียกว่า "เชือก" หนูหันไปถามแม่ว่าจริงหรือคะ? แม่ก็พยักหน้า บอกว่าถูกต้องแล้วจ้ะ หนูเลยหันมาดูกองกระดูกช้างขาวโพลน น้ำตาแทบจะไหลเลย
พอดีพี่นกกระเต็นบอกข่าวให้น่าเศร้าขึ้นอีก...สันนิษฐานว่ากินสารพิษเข้าไปจากพืชและผลไม้ หรือไม่ก็ถูกชาวบ้านวางยาจนตาย เพราะมันมากินกล้วย อ้อยที่เขาเพิ่งปลูกไว้จนเสียหายยับเยิน เสียงใสๆ ของพี่นกกระเต็นบอกว่า...ช้างทั้งหมดล้วนแต่ทุรนทุรายก่อนตายทีละเชือก...ทีละเชือก!
พี่ธีระที่รายงานข่าวคู่กันทำหน้าชอบกล บอกไม่ถูกหรอกค่ะ
หนูอ้าปากค้างเลย หันขวับไปหาแม่อีกครั้ง ถามว่าตกลงช้างในป่านี่เขาเรียกว่า "ตัว" หรือ "เชือก" กันแน่คะ? แม่ตอบว่า "ตัว" จ้ะ เขาอาจจะเขียนข่าวมาผิด คนอ่านก็พลอยอ่านผิดไปด้วย หรือไม่พี่เขาก็อาจจะเผลอไป เพราะเราเรียกช้างว่า "เชือก" จนเคยปากแล้ว
ความผิดพลาดแบบนี้เกิดขึ้นกับทุกคน อย่าไปมองเขาในแง่ร้าย คนทำงานกับเรื่องผิดพลาดถือว่าเป็นของคู่กัน...คนที่ไม่เคยผิดพลาดเลย คือคนที่ไม่เคยทำอะไรเลย!
พี่ธีระเสียอีกที่ควรจะช่วยแก้ไขคำพูดของพี่กระเต็นให้ถูกต้อง แต่อาจจะกลัวเสียหน้า หรือคิดว่าไม่สำคัญอะไรนักก็เลยปล่อยเลยตามเลย...ช่องอื่นๆ ที่รายงานข่าวนี้ก็ย้ำสรรพนามของช้างป่าคือ "ตัว" ไม่ใช่ "เชือก"
หนูคิดว่าไม่ได้ติดใจเรื่องนี้แล้วนะคะ แต่ทำไมคืนนั้นหนูถึงเก็บไปฝันสยองก็ไม่รู้แถมน่ากลัวที่สุดในชีวิตอีกด้วย...จะว่าเกิดจากนอนคนเดียวก็ไม่น่าใช่ เพราะหนูแยกห้องจากพ่อแม่มาเกือบ 3 ปี ตั้งแต่อายุ 8 ขวบแล้ว เกิดมาหนูไม่เคยฝันร้ายจนขนหัวลุก ร้องไห้โฮกลางดึกแบบนี้มาก่อนเลยค่ะ!
ในฝันนั้น หนูเข้าไปอยู่ในป่ากับพ่อแม่ เป็นป่าโปร่งที่ร่มรื่น มีนกสีสวยๆ เกาะอยู่ตามกิ่งก้าน ร้องเพลงเสียงเจื้อยแจ้วเสียงหวานใส รอบตัวก็มีแต่ดอกไม้หลากสีบานสะพรั่งส่งกลิ่นหอมหวนมาตามสายลมที่พัดเฉื่อยฉิว ฟ้าสีครามกว้างขวาง มีปุยเมฆสีขาวลอยฟ่อง...มองดูคล้ายเรือใบที่แล่นช้าๆ ไปในมหาสมุทรเวิ้งว้าง
เมฆเปลี่ยนรูปไปเรื่อยๆ เป็นเทวดานางฟ้าก็มี เป็นยักษ์ลิงและรูปตลกๆ ก็มีทั้งนั้น...เขาว่าแล้วแต่สายตาและความคิดของคนเรา จะมองให้เป็นรูปอะไรก็ได้ ไม่รู้จริงหรือเปล่านะคะ? ถ้าชีวิตจริงเราเลือกได้เหมือนมองก้อนเมฆก็ยิ่งดีมากเลย!
มีเสียงน้ำไหลมากระทบหู หนูเพิ่งเห็นลำธารคดเคี้ยวไปมาตามแมกไม้ น้ำใสแจ๋วจนมองเห็นกรวดทรายข้างล่าง บนชะง่อนหินมีลิงตัวน้อยกำลังเอียงคอมองหนู นัยน์ตาลอกแลกดูเจ้าเล่ห์ชอบกล แล้วมันก็แยกเขี้ยวใส่หนู...เขียวขาววับเต็มปากที่อ้ากว้างยิ่งกว่าใบหน้าของมันเสียอีกค่ะ หนูกรีดร้องด้วยความตกใจ ฟ้าร้องครืน พอเงยหน้าขึ้นมองก็ต้องตกตะลึงเมื่อไม่เห็นเมฆสีขาวลอยฟ่องอีกแล้ว แต่เป็นก้อนเมฆดำๆ หนักอึ้งลอยต่ำ คำรามกระหึ่มเหมือนคนใจร้ายท่ามกลางเสียงพายุพัดอู้ๆ รุนแรง ราวกับจะหอบตัวหนูปลิวไปจากพ่อแม่ตลอดกาล
คุณพระช่วย! ในป่าเปลี่ยวที่มีพายุปั่นป่วนคลุ้มคลั่ง ไม่มีพ่อแม่ของหนูอีกต่อไปแล้ว...เหลือแต่หนูคนเดียวเท่านั้นในป่าดิบดงดำ!
คราวนี้หนูวิ่งพลางร้องเรียกพ่อแม่พลางเหมือนคนบ้าอยู่เดียวดาย
ต้นไม้ใหญ่ๆ ที่รายล้อมราวกับมีชีวิต พวกมันโยกตัวไปมาอย่างดุร้าย ย่างสามขุมเข้ามาหา...บีบเข้ามาหารอบทิศทาง หนูปล่อยโฮ เรียกพ่อจ๋าแม่จ๋า...วิ่งกระเซอะกระเซิง ล้มลุกคลุกคลาน หัวใจแทบพังทลายออกมานอกอก
ในที่สุด หนูก็มองเห็นทางออกที่เป็นแสงสว่างขาวโพลง รวบรวมกำลังใจวิ่งจี๋ไปที่นั่นอย่างไม่คิดชีวิต...มองเห็นเจ้าลิงจ๋อตัวเก่ากำลังวิ่งนำหน้า...มันวิ่งพลางก็หันมามองหนูด้วยจนกระทั่งมันสะดุดอะไรไม่รู้ล้มฟาดลงแน่นิ่ง หนูวิ่งเข้าไปหาจนจู่ๆ มันก็ลุกพรวดพราดขึ้นมา
คุณพระช่วย! ไม่มีเจ้าจ๋ออีกแล้ว แต่กลายเป็นตัวหนูเอง...ศพที่กำลังขึ้นอืดตาพองถลนจ้องมองอย่างเย้ยหยัน...หนูแทบช็อกคาที่ กรีดร้องโหยหวนจนพ่อแม่ผลักประตูเข้ามาหา
หนูกอดแม่ร้องไห้โฮตัวสั่นสะท้าน แม่ปลอบอยู่นานและเช็ดน้ำตาให้...หนูบอกว่าฝันร้าย และเล่าให้แม่ฟัง
แม่บอกว่าฝันร้ายจะกลายเป็นดี เช่นหลงป่าถือว่าฝันร้าย แต่ถ้าหาทางออกได้ถือว่าจะประสบแต่ความสำเร็จ ส่วนฝันเห็นศพตัวเองแปลว่าจะมีอายุยืนและมีแต่ความสุขความเจริญ...เพี้ยง! ขอให้จริงนะคะ แต่หนูขอด้วยว่าอย่าฝันร้ายแบบนี้อีกเลย ขนหัวลุกจริงๆ ค่ะ!
ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก โดย ใบหนาด - ข่าวสด หน้า 28 - ฉบับวันที่ 1 พฤศจิกายน 2550
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น