16 พฤศจิกายน 2558

ลาก่อน..เพื่อนรัก!

"กมลพร" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกเมื่อวิญญาณมาเยี่ยม

คนเรานี่ก็แปลกนะคะ ตอนที่ยังเป็นหนุ่มเป็นสาว สดใสด้วยวัยเยาว์ โลกที่เต็มไปด้วยชีวิตชีวานี้เป็นของเรา และเราคิดว่ามันจะเป็นเช่นนั้นตลอดไป ไม่มีวันจบสิ้น

เราไม่ซึ้งกับโรคาพยาธิ ความชราและความตาย แต่เผลอแผล็บเดียวอายุเราก็มากขึ้นๆ จนเลยหลัก 4 หลัก 5 เราเริ่มมีโรคภัยมาตอดนิดตอดหน่อย..แล้วเราก็เริ่มนึกถึงความตาย! มันคงอยู่อีกไม่ไกลเท่าไรนัก..

ดิฉันอายุ 52 ปี เพื่อนที่เรียนมาด้วยกัน เล่นมาด้วยกัน มีอันต้องจากไปด้วยโรคภัยไข้เจ็บหลายคนแล้ว

เพื่อนสนิทที่สุดเป็นมะเร็งตายไปเมื่อ 5 ปีก่อน หลายคนพบว่าตัวเองเป็นโรคนี้เช่นกัน..มะเร็งเฮงซวย! ไม่รู้มันจะพรากชีวิตเราไปเมื่อไหร่?

คงอีกไม่นานหรอก คิดดูแล้วใจหายนะคะ

เพื่อนรักอีกคนของดิฉัน แป๋ว-เริ่มตรวจพบมะเร็งเต้านมเมื่อ 4 ปีก่อน และตัดทิ้งไปเรียบร้อย แต่แล้วมันก็กลับมาอีกค่ะ คราวนี้มันเล่นงานเธอที่ต่อมน้ำเหลือง ไม่ช้ามันก็ลามไปที่ตับ!

แป๋วเป็นคนสดใส จิตใจงดงาม เคยแคล่วคล่องว่องไว รักการท่องเที่ยวเป็นชีวิตจิตใจ เธอใช้ชีวิตคุ้มจริงๆ ไปมาแล้วทั่วประเทศและทั่วโลก

แต่สุดท้าย เธอก็ต้องนอนซมอยู่ในห้องเล็กๆ ชั้นล่างในบ้าน ดิฉันไปเยี่ยมแล้วสงสารจับใจ..ตัวที่เล็ก บอบบางอยู่แล้วดูหดสั้นลง ผิวที่นวลเปล่งปลั่งกลับเหลืองซีดเหมือนหุ่นขี้ผึ้ง ผมที่ดกสลวยร่วงไปหมด..เธอไม่อายศีรษะที่โล้นเลี่ยนเหมือนลูกนกเกิดใหม่ เธอต้อนรับขับสู้ดิฉันอย่างเต็มอกเต็มใจ เราพูดคุยกันถึงวันเก่าๆ ที่แสนสุขอย่างไม่มีวันลืม

ส่วนใหญ่ดิฉันพูด และเธอจะฟังด้วยรอยยิ้มที่แจ่มใส เพราะเธอเหนื่อยมากค่ะเวลาพูดน่ะ

วันนั้นดิฉันยังจำได้ เราอยู่สองคนในห้องนอนเล็กๆ ไม่มีเตียง แต่ปูฟูกไว้กับพื้น แป๋วดูตัวเล็กนิดเดียว ขณะนั่งซุกอยู่ในกองหมอนและผ้าห่ม เธอขำตัวเองว่าเหมือนตุ๊กตาอีที..มนุษย์ต่างดาวอัปลักษณ์ที่น่ารัก!

และแล้ว จู่ๆ แป๋วก็พูดถึงความตายขึ้นมา เสียงของเธอแช่มชื่น ราบเรียบและสงบเยือกเย็นเชียวละ

"แป๋วใกล้สวรรค์เข้าไปทุกทีแล้วนะ.."

ใช่..แป๋วตายไปต้องไปเป็นนางฟ้าอยู่บนสวรรค์แน่ๆ เพราะเธอเป็นผู้ที่มีแต่ให้ เธอไม่ได้แต่งงาน อยู่ตัวคนเดียว และชอบช่วยเหลือคนไปทั่ว

ดิฉันบอกเธอว่าอีกไม่นานดิฉันคงจะตามไป จริงๆ นะคะ เพราะตอนนี้เป็นทั้งความดันโลหิตสูง เป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะ และเมื่อไม่นานมานี้ขาก็อ่อนแรงไปเฉยๆ เหมือนเป็นเค้าลางว่าจะเป็นอัมพาต ยังดีที่ฟื้นตัวกลับเหมือนเดิมภายในหนึ่งสัปดาห์

กระนั้น ดิฉันก็รู้สึกอ่อนโรยและใจหาย..เราจะอยู่ถึงปีหน้าไหมนะ?

พอบ่นให้แป๋วฟัง เธอก็เอื้อมมือเย็นๆ ซีดๆ มาจับมือดิฉัน ว่า..อย่ากลัวเลยความตายน่ะ แต่ก็อย่าประมาท เตรียมทุกอย่างเพื่อลูกๆ ไว้ให้พร้อม มีอะไรที่เป็นปัญหาค้างคาอยู่ก็แก้ไข สะสางให้หมดห่วง ถ้าตายก็จะได้ไปสบาย แต่ถ้าอยู่ก็อยู่อย่างปลอดโปร่งโล่งใจ

"เอาเถอะ! ถ้าตายไปแล้ว แป๋วจะมาบอกว่ามันเป็นยังไง" เธอพูดเหมือนให้สัญญา ขณะตบมือดิฉันเบาๆ อย่างปลอบใจ

สองอาทิตย์ต่อมา แป๋วก็ถึงแก่กรรม ดิฉันคิดถึงเธอมากเหลือเกิน..

คืนหนึ่ง ตอนกลางดึก ดิฉันกำลังนอนอยู่ก็รู้สึกตัวตื่นขึ้น มันมีอาการหายใจไม่เต็มอิ่ม เหมือนไม่ได้สูดเอาออกซิเจนเข้าไปน่ะค่ะ ดิฉันเคยเป็นอย่างนี้ครั้งหนึ่ง มันน่ากลัวมาก..อากาศไม่พอ! เหมือนคนจะจมน้ำตาย

ดิฉันต้องทำใจให้สบาย บอกตัวเองว่าเราไม่เป็นไร! ดูซิ..ยังเดินได้ ลุกไปดื่มน้ำเย็นได้ แต่มันน่ากลัวจริงๆ ราวกับนาทีข้างหน้าเราจะหน้ามืดแล้วตายได้ง่ายๆ มันทรมานมาก

ทันใดนั้น มีแสงสว่างเรืองๆ สีเขียวอมฟ้า ใหญ่ขนาดลูกเทนนิสปรากฏขึ้นที่ปลายเตียง ห่างจากดิฉันไม่ถึงสองฟุต แสงนั้นขยายเป็นวงรีจนมีขนาดเท่าตัวคน..

และแล้ว ภายในแสงนั้นก็มีร่างของแป๋วนั่งอยู่!

เธอนั่งที่ขอบเตียง ดูเยาว์วัย สวยแจ่มเชียว ผมเธอดกดำรวบเป็นมวย ผิวพรรณอ่อนละมุนและดูเป็นจริง มีเลือดเนื้อคล้ายคนธรรมดา

ดิฉันประหลาดใจมากกว่ากลัว และฉงนจนเอื้อมมือเข้าไปในวงแสงนั่นเพื่อสัมผัสกับตัวเธอ..ใจวาบนิดหน่อยเมื่อพบว่าผิวของแป๋วนุ่มและอบอุ่น ส่วนแสงนั้นมีพลังไฟฟ้าอ่อนๆ จนรู้สึกได้ค่ะ

แป๋วยิ้มขำๆ เธอไม่ได้เปิดปาก แต่พูดกับดิฉันทางโทรจิต ว่าดิฉันจะยังอยู่อีกนาน ระวังรักษาตัวเองให้ดี ลดความอ้วนให้ได้! และอย่าลืมออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอด้วย

พอพูดจบ เธอก็จางหายไป..

ดิฉันลืมอาการหายใจไม่อิ่ม กลับหายใจเต็มปอดและชื่นใจมาก

แป๋วมาเป็นกำลังใจให้ดิฉันตามสัญญา ทำให้อบอุ่นและสบายใจ..ดิฉันรู้แล้วว่าตายแล้วไม่สูญ วิญญาณยังอยู่แน่ๆ และความดีจะช่วยให้เราตายแล้วมีความสุขจริงๆ ค่ะ!

ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก โดย ใบหนาด - ข่าวสด หน้า 29 - ฉบับวันที่ 16 พฤศจิกายน 2550

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น