"เอกพัลลภ" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากกรุงเทพฯ ราตรี
ผมเป็นคนพื้นเพทางภาคใต้ เข้าทำงานธนาคารเอกชนตั้งแต่เรียนจบใหม่ๆ ต้องโยกย้ายไปนั่นมานี่หลายแห่ง ล่าสุดประจำอยู่ภาคเหนือตอนล่าง มักจะเดินทางเข้าประชุมหรือทำธุระที่กรุงเทพฯ ว่างก็เข้าสนามกอล์ฟ ทั้งพักผ่อนหย่อนใจกับยืดเส้นยืดสายไปด้วย
ตกค่ำจะมีเพื่อนฝูงในกรุงเทพฯ นัดแนะมารับผมที่โรงแรมแถวพระราม 4 ใกล้ๆ กับหัวลำโพง ไปตระเวนราตรีกันเป็นประจำ เพราะมีเวลาอย่างมากไม่เกิน 2 คืนเท่านั้นเอง
ในกรุงเทพฯ นี่ผมมีเพื่อนหลายคนครับ บางคนเอารถมารับ บางคนขับรถไม่เป็นก็ไปรถผม บางทีแห่กันมาหลายคนจนต้องไปรถ 2-3 คัน แต่บางทีมีเพื่อนขับรถมารับคนเดียว คล่องตัวดีเหมือนกัน เที่ยวเตร่กันเต็มที่เพราะนานๆ ได้ปล่อยแก่ซักที
คืนเกิดเหตุสยองขวัญ เพื่อนชื่อ พิสัย ทำงานแบงก์เหมือนกันแค่เขาประจำอยู่สำนักงานใหญ่...คืนก่อนไม่ได้มาเพราะติดนัดลูกค้า พอถึงคืนนี้เลยเหลือเรา 2 คน โดยพิสัยขับรถมานั่งซดเบียร์รอผมในคอฟฟี่ช็อป ...อาบน้ำแต่งตัวเสร็จผมก็ลงไปหา อุ่นเครื่องกันคนละ 2 ขวดแล้วไปลุยราตรีกันตามฟอร์ม
พิสัยถามว่าอยากไปไหน ผมบอกว่าไปไหนเป็นไปกัน ไม่ต้องหักโหมก็ได้...เมื่อคืนวานเพื่อนๆ พาไปนวดทั้งแบบ "แห้งและเปียก" มาแล้ว "แห้ง" คือนวดน้ำมันหรือ "สปา" ส่วน "เปียก" ก็คือไปลงอ่างชนิดครบเครื่องไปเลย!
พิสัยหัวเราะชอบใจ บอกว่า...งั้นคืนนี้ไปกินข้าวต้มไฮโซฯ!
ผมชอบกินข้าวต้มกับ หรือ "ข้าวต้มกุ๊ย" เป็นรายการสุดท้ายก่อนกลับไปนอน ตั้งแต่ข้าวต้มเฮียอ้วน ถนนเสือป่า ข้าวต้มหน้าวัดบวรฯ จนถึงข้าวต้มอนันต์ ข้าวต้มสมพงษ์ ที่ว่าดังๆ น่ะผมไปกินมาแล้วทั้งนั้น...รวมทั้งข้าวต้มตามโรงแรมอีก 2-3 แห่ง
เพื่อนที่รู้ใจผมดีก็พิสัยนี่แหละครับ ชวนไปกินข้าวต้มบุฟเฟต์ที่โรงแรมเจ้าพระยาปาร์ค ตั้งแต่หัวละ 200 ต้นๆ จนปาเข้าไป 350 บาท หรือที่โรงแรมดิเอมเมอรัลด์ ย่านรัชดาฯ ทั้งคู่ สนนราคาไล่ๆ กัน
ถ้าพูดถึงกับข้าวเยอะแยะหลายสิบชนิด มีทั้งข้าวต้มเผือก, ข้าวต้มมัน, ข้าวต้มข้าวกล้อง กับพวกเป็ดย่าง หมูแดง ก๋วยเตี๋ยว บางคืนมีก๋วยจั๊บหรือบะหมี่เกี๊ยว ซูชิห่อสาหร่ายหน้าไข่กุ้งสดอร่อย...ต้องยกให้เจ้าพระยาปาร์คนะครับ
เบียร์สดเหยือกละ 450 บาทแพงไปหน่อย แต่อย่างว่า...ถ้ามัวแต่เสียดายเงินทองก็ต้องเกาะหาบชายสี่บะหมี่เกี๊ยวเอาละกัน
ว่าแต่ ข้าวต้มไฮโซฯ นี่เคยได้ยินแว่วๆ ยังไม่เคยลิ้มรสซักที!
คืนนั้นแวะดูแถวสุขุมวิท ตั้งแต่ดงอาหรับที่ซอย 3 เป็นชุมทางสารพัดแขกจริงๆ ครับ ไม่ว่าอินเดีย, ปากีฯ, อิรัก, อิหร่าน ฯลฯ ละลานตา กลิ่นอาหารค่อนข้างดุเดือดด้วยเครื่องเทศ อวลกรุ่น พี่บังนั่งซดชาก็มี ดูดมอระกู่เพลิดเพลินก็มี เผลอๆ นึกว่าพลัดหลงเข้าไปในดินแดนอาหรับราตรีเข้าไปโน่น
โผล่เข้าไปในฟู้ดแลนด์ซอย 5 ร้าน "ถูกและดี" มีลูกค้านานาชนิดมาอุดหนุนกันคึ่กๆ ชนิดเต็มทุกโต๊ะและเก้าอี้...พิสัยขับรถพาไปถึงย่านวัฒนา, ทองหล่อ, เอกมัย ชุมทางนักเที่ยวที่เริ่มทยอยกันมา ทั้งบาร์ คลับ เธค ค็อกเทลเลานจ์ คาราโอเกะ แสงไฟสะพรึ่บสะพรั่งตา
ตอนนั้นราว 3 ทุ่มกว่า...พิสัยบอกว่าไปกินข้าวต้มไฮโซฯ กันเถอะ อยู่แถวสี่แยกราชประสงค์นี่เอง!
รถราแออัดน่าดูทั้งที่เป็นคืนวันพุธปลายเดือนแท้ๆ กว่าจะถึงจุดหมายเกือบ 4 ทุ่มที่จอดรถเต็ม ต้องมุดดินลงไปแล้วพากันขึ้นบันไดชั้นเดียวสู่ร้านข้าวต้มไฮโซฯ...
โห...บรรยากาศหรูหรา โอ่อ่าน่าดู มีโต๊ะวางเป็นโซฟาด้านใน เปิดไฟสลัวกำลังดี สังเกตว่ามีลูกค้าทั้งไทยและเทศระดับเงินหนาทั้งนั้น...พิสัยสั่งเบียร์มา 2 ขวด (เล็ก) กับผัดผักบุ้งกับผัดคะน้า และไข่เจียวอย่างละจาน บอกว่าที่นี่ไม่ใช้น้ำมันหอย...ไม่ต้องกลัวอ้วน
เอ...บุฟเฟต์ที่นี่สั่งกับข้าวได้ แสดงว่าเพื่อนเราคงเป็นขาประจำระดับเสี่ยมาเอง!
ซดเบียร์แล้วก็ชวนกันไปตักอาหาร พิสัยให้ความรู้ว่าที่นี่ถึงอาหารจะไม่มากแบบที่อื่น แต่อร่อยกว่ากันเยอะเลย...ผมเลือกตักกับแกล้ม 3-4 อย่าง เป็ดพะโล้ใส่ถ้วยเล็กๆ กลับมาที่โต๊ะ พิสัยสั่งเบียร์เพิ่มแล้วชะโงกหน้ามาให้ความรู้
"ตะเกียบมีหลายสี อย่าจับคู่สีเดียวกันล่ะ เดี๋ยวเขารู้ว่าไม่เคยมา"
ผมอดหัวเราะไม่ได้ มองดูตะเกียบหลากสีแล้วเลือกสีแดงกับสีเขียวมาจับคู่กันซะเลย...พอดีเหลือบไปเห็นสาวในชุดดำเดินออกจากประตูลิฟต์พอดี!
ไม่ใช่ผมคนเดียวหรอกครับ ลูกค้าหลายคนทั้งหญิงและชายล้วนหันไปมองหุ่นสูงระหง แต่อวบอัดเหลือเชื่อ ผมยาวสยายประบ่า เดินเชิดหน้ายิ้มนิดๆ ขณะที่บ๋อยปราดเข้าไปต้อนรับ พาไปนั่งโต๊ะทางซ้ายมือที่เพิ่งว่างหยกๆ พิสัยบอกว่า...สงสัยมาจับฝรั่งว่ะ! ที่นี่ปิด 5 ทุ่มนะ ถ้าติดใจคราวหน้ามาใหม่ได้เลย
เราสั่งเบียร์รอบใหม่ ลุกไปตักอาหารอีกครั้ง...สาวชุดดำนั่งดื่มกินคนเดียว ดูเหมือนจะไม่แยแสใครด้วยซ้ำ
ใกล้ปิดร้าน พิสัยเรียกคิดเงิน...ปาเข้าไปเกือบสามพันบาท เพิ่งรู้ว่าข้าวต้มหัวละ 450 บาท เบียร์ขวดเล็ก 140 บาท...อิ่มแล้วไม่อยากคิดอะไรมาก พากันแวะห้องน้ำแล้วลงบันไดไปขึ้นรถ
ตอนจะออกจากประตูริมถนน ผมเห็นสาวชุดดำคนเดิมเดินขึ้นบันไดเตี้ยๆ ด้านหน้า พิสัยหักรถเลี้ยวซ้ายพลางพึมพำ...มาจับฝรั่งน่ะ! แล้วเสียงเขาก็ขาดหายไปเพียงเท่านั้น
นรกเป็นพยาน! ผู้หญิงคนเดียวกับที่เราเห็นเดินออกจากลิฟต์ แม้แต่ตอนขากลับก็ยังเห็นเธอนั่งอ้อยอิ่งอยู่ที่เดิม...ถ้าผมเห็นคนเดียวคงจะนึกว่าเมาจนตาลายแน่ๆ แต่เพื่อนก็เห็นพร้อมๆ กัน ถ้าไม่ใช่ฝาแฝดก็คงโดนผีหลอกเข้าจังๆ แล้วละครับ! บรื๋ออออ
ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก โดย ใบหนาด - ข่าวสด หน้า 28 - ฉบับวันที่ 4 ตุลาคม 2550
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น