"ตอง" เล่าเรื่องขนหัวลุกจากต้นไทรกินเด็ก
ดิฉันเชื่อว่าโลกเรานี้มีหลายมิติ และมีอะไรอีกมากมายที่ตาเรามองไม่เห็น หรือพูดง่ายๆ ก็คือไม่สามารถมองทะลุมิติออกไปได้ ยกเว้นในสถานการณ์พิเศษบางอย่าง และบางทีโลกต่างมิติก็อาจจะบังเอิญเชื่อมสู่กันได้ จนทำให้เกิดเหตุการณ์น่าขนหัวลุก
เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นกับครอบครัวของดิฉัน ไม่มีใครให้คำอธิบายได้ ไปเล่าให้ใครฟังก็คงไม่มีใครเชื่อ
คุณยายของดิฉันเป็นผู้หญิงที่แสนเศร้า ชาวบ้านซุบซิบกันว่าท่านเป็นบ้าด้วยซ้ำไปสาเหตุก็คือลูกสาวสุดที่รักของท่านคนหนึ่งหายสาบสูญไปอย่างไร้ร่องรอย มีแต่คนในครอบครัวเท่านั้นที่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร
แม่ของดิฉันเป็นลูกสาวคนโตของคุณยาย น้าต้อยเป็นคนที่สอง และน้าใบเตยเป็นลูกสาวคนสุดท้อง
แม่เล่าว่า น้าใบเตยเกิดมาเป็นทารกที่น่ารักน่าเอ็นดูมากที่สุด เธอสวยเหมือนรูปปั้น ยิ่งโตยิ่งสวยจับจิตจับใจ ชาวบ้านร้านช่องต่างรักใคร่ชื่นชม ให้ขนมให้ของเล่น แม่รักน้องคนนี้มาก ส่วนคุณยายไม่ต้องพูดถึงเลยค่ะ น้าใบเตยเป็นแก้วตาดวงใจของท่าน
บ้านของคุณยายอยู่ที่อยุธยา ไม่ไกลจากวัดกษัตราธิราช ทุกวันนี้ก็ยังอยู่ที่เดิม ดิฉันเคยไปเยี่ยมบ่อยๆ และแทบทุกครั้งก็จะเห็นท่านนั่งอยู่ใต้ต้นไทรขนาดใหญ่ ท่านนั่งพิงต้นไทรและหลับตานิ่งอยู่นานๆ บางทีก็มีน้ำตาไหลลงมาอาบสองแก้ม...
คุณยายร้องไห้เงียบๆ โดยไม่มีใครมารบกวน...พวกเราชินตากับภาพนั้นเสียแล้ว
ตอนที่น้าใบเตยอายุขวบกว่าๆ วันหนึ่งคุณยายอุ้มเธอกลับบ้าน ซึ่งต้องเดินผ่านต้นไทร คุณยายได้ยินเสียงผู้หญิงหัวเราะ พอหันไปมองรอบๆ ก็ไม่เห็นใคร
คืนนั้น คุณยายฝันว่า เดินลงจากบ้านมืดๆ กลางดึกสงัด มุ่งตรงไปที่ต้นไม้ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านไปราวร้อยเมตรกว่าๆ เท่านั้น...เดินไปเหมือนมีใครมาเรียก พอไปถึงก็เห็นว่าต้นไทรเป็นบ้านของผู้หญิงคนหนึ่ง สวยมาก ผมยาวเลยบั้นเอวไปอีก เธอนุ่งผ้าถุงสีน้ำตาล ห่มสไบสีเขียวเข้มเกือบดำ ปากเคี้ยวหมาก ดวงตาสดใส เป็นประกายแก่กล้า
หญิงสาวลึกลับเรียกให้คุณยายตามเธอขึ้นกระไดไม้ที่พาดอยู่กับต้นไทรนั้น! คุณยายเดินขึ้นไปอย่างง่ายดาย...
กระไดนั้นนำท่านไปสู่สวนที่เป็นกิ่งก้านสาขาและใบหนาที่ดกทึบ แต่มันไม่ใช่เป็นต้นไม้ธรรมดาอย่างที่เราเห็นยามกลางวัน มันกลายเป็นเรือนใหญ่ที่แสนสบาย ลมพัดเย็น มีเสียงนกร้องและหอมกลิ่นดอกไม้
คุณยายเห็นนกต่างๆ หลากสีหลายพันธุ์ มันเป็นนกที่คงจะอาศัยร่มไทรนี้อยู่ แต่ยามนั้นมันไม่ใช่สัตว์ธรรมดาอย่างที่เรารู้จัก...มันพูดภาษาคนได้! และทำตัวเหมือนเป็นคน คือฉลาดมีความ
คิดอ่าน และเป็นบริวารของแม่หญิงต้นไทร!
นอกจากนกแล้วยังมีกระรอก ค้างคาวและแมลง รวมทั้งงูด้วย...ทุกอย่างรู้ภาษา และมีหน้าที่ต่างๆ กัน สัตว์ทุกตัวเป็นมิตรต่อกัน ไม่กินกันเอง
แม่หญิงต้นไทรชวนให้คุณยายนั่งลงดื่มน้ำและกินขนม กินผลไม้ จากนั้นเธอก็เอ่ยปากขอลูกสาวคุณยาย...ลูกสาวคนเล็กที่งดงามราวเทพธิดามาจุติ!
คุณยายตกใจ ลุกขึ้นจะวิ่งหนี แต่แม่หญิงต้นไทรยึดข้อมือไว้แน่น คุณยายตะโกนว่า...ไม่ให้! แล้วดิ้นรน หลับหูหลับตาหวดซ้ายป่ายขวา จนกระทั่งตกมาจากต้นไทรนั้น...
มันเป็นฝันร้ายที่เหมือนจริงที่สุด ตั้งแต่นั้นคุณยายก็รู้สึกเสมอว่าเวลาผ่านต้นไทรจะมีใครคนหนึ่งมองตามอย่างคาดคั้น
น้าใบเตยมักมีอากัปกิริยาแปลกๆ เธอมองต้นไทรและหัวเราะด้วย เหมือนเห็นใครบางคนที่รู้จักมักคุ้นกันดี...จนกระทั่งสามขวบ น้าใบเตยชอบไปเล่นที่ต้นไทร คุยกะหนุงกะหนิงอยู่คนเดียว
แม่เล่าว่า คนเผลอเป็นไม่ได้เชียว น้าใบเตยจะเดินไปที่นั่นเองเหมือนมีคนเรียก!
วันหนึ่ง คุณยายไม่เห็นน้าใบเตยอยู่บนบ้าน ก็รีบตรงไปที่ต้นไทรและเรียกแม่ไปด้วย ปรากฏว่าทั้งคู่มองเห็นน้าใบเตยนั่งเล่นอย่างเพลิดเพลิน พอเงยหน้าเห็นแม่กับพี่สาว เธอก็ลุกขึ้นไปแอบหลังต้นไม้ แม่กับคุณยายเรียกให้กลับบ้าน และไล่จับกันรอบต้นไทรนั้น...
ลมพัดมาวูบ ไทรไหวซู่ แล้วน้าใบเตยก็หายไปเฉยๆ หายไปเลยตั้งแต่บัดนั้นจนกระทั่งบัดนี้!
คุณยายเป็นลมล้มพับและไม่เคยเหมือนเดิมอีกเลย ชาวบ้านเชื่อว่าน้าใบเตยถูกลักพาตัว บางคนก็เชื่อเรืองที่คุณยายเล่า แต่ไม่รู้จะช่วยเหลืออย่างไร หาคนทรงก็แลัว หาพระก็แล้ว คุณยายไม่ได้ตัวน้าใบเตยคืนมา...อย่างมากที่จะทำได้ก็แค่ไปนั่งใต้ต้นไทร เพราะเชื่อว่านั่นคือการได้อยู่ใกล้กับลูกรัก
ดิฉันเชื่อท่าน สงสารท่าน...และเชื่อในเรื่องมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นกับครอบครัวเรา!
ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก โดย ใบหนาด - ข่าวสด หน้า 31 - ฉบับวันที่ 16 พฤษภาคม 2551
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น