16 พฤศจิกายน 2559

ห้องอุบาทว์

"ป้าเพ็ญ" เล่าเรื่องขนหัวลุกจากหอพักสุดหรูที่รังสิต

ทีน่าเป็นหลานสาวของดิฉัน เมื่อสองปีก่อนเธอสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ แต่ต้องไปเรียนไกลถึงรังสิตโน่นแน่ะ ทางออกทางที่หนึ่ง ที่ทำให้ทีน่าเดินทางไปเรียนได้สะดวก ไม่ถึงกับเหน็ดเหนื่อยอ่อนล้าเกินไปก็คือ ต้องไปอยู่ในหอ!

ความจริงมีทางเลือกอีกทาง คือมาอยู่บ้านดิฉันแถวดอนเมือง ทว่าทีน่าไม่เอา เธอบอกว่าไหนๆ ต้องออกจากบ้านไปอยู่ที่อื่นแล้ว ก็ขอไปอยู่หอดีกว่า จะมาอยู่กับป้า คือดิฉัน ก็บอกว่าเกรงใจ...อย่าว่ายังงั้นยังงี้เลยค่ะ จริงๆ แล้วแม่สาวน้อยเธอดีใจจนออกนอกหน้าที่จะได้อยู่หอ เธออยากใช้ชีวิตอิสระตามลำพังแบบนี้มานานแล้ว...แหม! ก็วัยรุ่นนี่คะ เป็นลูกครึ่งไทย-อังกฤษ เรียนอินเตอร์ซะด้วย เธออยากเปรี้ยว แต่ถ้าอยู่บ้านกับพ่อแม่มันก็เปรี้ยวไม่ออก

คราวนี้ละ ถึงทีทีน่าบ้างแล้ว มันส์เจ้าค่ะ! แม่ของเธอ น้องสาวดิฉันน่ะหน้าหงิกหน้างอ ร้องไห้มาสองพักสามพักแล้ว เธอไม่อยากให้ลูกจากอกเธอไปไหนเลย!

ทีแรกน่ะเธอยอมอุทิศตน วางแผนขับรถจากพุทธมณฑลไปรับส่งลูกเรียนมหาวิทยาลัยทุกวี่ทุกวัน เล่นเอาแม่หนูทีน่าขนลุกเกรียว เธอกลัวเพื่อนจะล้อว่ามีคุณแม่มาคุมน่ะซิคะ มันจะไปสนุกอะไรล่ะ ถ้าชีวิตมีผู้ใหญ่ตามไปดูทุกกระดิก เธอไม่คิดหรอกว่าแม่รักและห่วงใยขนาดไหน! นี่คือตัวอย่างหนึ่งของช่องว่างระหว่างวัยไงคะ

เผลอๆ เธอกลับโกรธว่าแม่ไม่ไว้ใจไปโน่น!

สรุปแล้วทีน่าก็ได้อยู่หอสมใจนึก...หอที่ว่าอยู่ใกล้ที่เรียน แถมยังสวยสมราคาที่แพงลิบ ทันสมัย สวยน่าอยู่เหมือนห้องในโรงแรมชั้นหนึ่ง มีทั้งยามและเครื่องอำนวยความสะดวกต่างๆ ครบครัน ถ้าไม่ได้เป็นระดับคุณหนู พ่อแม่รวยก็ไม่มีหวังได้อยู่หรอกค่ะ

ทีน่าชื่นมื่นมาก เธอหมายตาหอแห่งนี้ไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว แต่ไม่ได้คิดว่าจะเช่าได้ เพราะมันมีห้องไม่มากและเต็มตลอด...เคราะห์ดีนะที่เผอิญมีห้องว่างราวกับรอเธออยู่ห้องหนึ่ง

ห้องนี้อยู่ชั้น 3 ด้านในริมสุด มีเตียงขนาดควีนไซซ์ ตู้เสื้อผ้าและห้องน้ำในตัว ตกแต่งงดงามเรียบร้อย สะอาดสะอ้านและหอมกรุ่น...

ทว่าวันที่ไปส่งทีน่าเข้าหอพักนั้น พอก้าวเข้าไปดิฉันรู้สึกวาบๆ พิกล กวาดตาไปรอบห้อง...มันดูสวยจริงอยู่ แต่มีบางสิ่งบางอย่างในอากาศในห้องนั้น มันทำให้รู้สึกอึดอัด ทั้งไม่สบายใจและหวาดๆ พิลึก

"ทีน่า ถ้ามีอะไรก็โทร.บอกป้านะลูก จะให้มานอนเป็นเพื่อนก็ได้นะ" ดิฉันห่วงหลาน แต่ทีน่าหน้ารื่นเชียว บอกว่าไม่เป็นไรทีน่าอยู่ได้ ชอบมากๆ

แต่คืนแรกหล่อนก็โทร.มากลางดึกสุ้มเสียงเต็มไปด้วยความพิศวงสงสัย

"ป้าแจ่มขา ทีน่าเจอสำลีสองก้อนอยู่บนเตียง มันเป็นก้อนกลมๆ ป้านๆ แน่นๆ ขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือเห็นจะได้ แล้วมีคราบอะไรไม่รู้ กรังๆ สีเหลืองๆ แดงคล้ำๆ มันคืออะไรคะ? มาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงไม่รู้ซิ"

ดิฉันใจหายวูบ นึกถึงสำลีที่เขาใช้อุดจมูกศพ กันน้ำเลือดน้ำเหลืองไหลเยิ้มออกมาแต่ไม่ได้บอกทีน่าอย่างที่ใจคิดหรอกค่ะ เพียงแต่ให้เธอทิ้งตะกร้าซะ ไม่ต้องคิดมาก

ทีน่าทิ้งไป แต่อีก 2-3 วันมันก็โผล่มาอีก!

ดิฉันไปหาทีน่าที่หอในเย็นหนึ่ง หน้าเธอหมองๆ ไม่สดชื่น ดิฉันลูบหน้าผากเธอถามว่าไม่สบายหรือเปล่า? เธอบอกว่าไม่เป็นไร แต่นอนน้อย นอนไม่หลับเพราะมันเหมือนมีใครอยู่ด้วยในห้องนี้ตลอดเวลา ยิ่งพอตอนดึกๆ ใครคนนั้นมายืนค้ำอยู่ที่หัวเตียง ชะโงกหน้ามาจ้อง แต่พอลืมตามองก็ไม่เห็นอะไร

ทีน่าเริ่มรู้สึกกลัวผีและบอกว่าวันไหนว่างๆให้ดิฉันไปนอนเป็นเพื่อนก็ ได้...

ยังไม่ทันไรก็เกิดเรื่องร้ายแรง คืนนั้นเธอโทร.มาหาตอนตีสองกว่าๆ อย่างคนขวัญเสียสุดขีด ขอให้ไปช่วยรับเธอหน่อย...ดิฉันตกใจ ลุกขึ้นขับรถออกไปหาหลานทั้งชุดนอน...คือชุดนอนดิฉันไม่ได้น่าเกลียดหรอกค่ะ มันเป็นชุดเสื้อกางเกงลายการ์ตูนน่ารักเชียวละ

พอไปถึงหอ ปรากฏว่าทีน่าอยู่กับคนดูแลและแม่บ้าน...ตัวสั่นเหมือนลูกนกตกน้ำ

เรื่องของเรื่องก็คือ เธอนอนอยู่ดีๆ เปิดไฟหัวเตียงไว้ จู่ๆ เตียงก็ยวบเหมือนมีอะไรหนักๆ หล่นลงมาเป็นท่อนยาวตลอดเตียง พอลืมตาดูปรากฏว่าเป็นศพผู้หญิงนอนหงาย หลับตาปากดำ มีสำลีอุดจมูก ตัวแข็งทื่อ...กลิ่นน้ำยาอาบศพฉุนคลุ้ง!

ทีน่าสติแตก ทั้งกรีดร้องทั้งเผ่นหนีไม่คิดชีวิต คนดูแลหอกับแม่บ้านเวรดึกที่นั่งดูทีวีอยู่ด้วยกันชั้นล่าง ต้องช่วยกันปลอบเธอ และให้เธอโทร.จากเครื่องที่โต๊ะมาหาดิฉัน...

ปรากฏว่าห้องนั้นเคยมีนักศึกษาสาวมาอยู่ และเธอไปตายด้วยอุบัติเหตุ ไม่ได้ตายที่หอนะคะ ตายที่อื่นๆ แต่นัยว่าเธอชอบห้องนี้มากเลยยังผูกพัน ห่วงหา คงจะห่วงเรียนด้วย รักชีวิตนักศึกษามหาวิทยาลัยด้วย เธอเลยยังอยู่ที่นี่...

ตกลงทีน่าย้ายของมาอยู่บ้านดิฉันจนบัดนี้เลยค่ะ!

ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก โดย ใบหนาด - ข่าวสด หน้า 31 - ฉบับวันที่ 16 เมษายน 2551

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น