"ณิชมน" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากบ้านสวนทับกวาง
บ้านหลังนั้นถึงจะเป็นบ้านเก่า แต่ก็ไม่ได้น่ากลัวอะไรนักหนา ที่สำคัญมันเป็นบ้านของสามีดิฉันเองค่ะ แม้จะมาที่นี่เป็นครั้งแรก แต่ดิฉันก็ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากคุณพ่อคุณแม่สามี พี่สาวและคุณป้า
น่าแปลกที่ตลอดเวลานั้น ดิฉันรู้สึกเหมือนถูกจ้องมองและเดินตามทุกฝีก้าว จากผู้ที่มองไม่เห็นร่างกาย!
หลังจากดิฉันรู้จักกับเมฆได้ปีกว่าๆ เราก็แต่งงานกัน ครอบครัวของเขาดีทุกคน คุณพ่อคุณแม่เป็นชาวสวนอยู่แถวทับกวาง มีบ้านเป็นเรือนไม้หลังใหญ่กลางแมกไม้ร่มรื่น เมื่อแต่งงานกันได้สองเดือน สามีก็พาดิฉันมาพักที่นี่ในวันหยุดสุดสัปดาห์...ดิฉันชื่นชมความเป็นอยู่ที่เรียบง่าย และความใจดีมีเมตตาของทุกคนในบ้านมากเลยค่ะ
คู่ครองของดิฉันมีน้องชายฝาแฝดด้วย ชื่อหมอก น่าเสียใจที่หมอกเสียชีวิตไปแล้วเมื่อตอนอายุ 27 ก่อนที่เมฆจะรู้จักดิฉันได้แค่ไม่กี่เดือนเท่านั้นเอง!
เมฆเล่าว่า หมอกอ่อนแอมาตั้งแต่เล็กๆ เพราะเคยเป็นไข้ปอดบวม จากนั้นหมอกก็เป็นหืดหอบ น่าสงสารมาก เขาเป็นๆ หายๆ ต้องหาหมอคนจนเบื่อ ในที่สุด โรคหอบก็คร่าชีวิตเขาไปจนได้ ดิฉันทราบรายละเอียดเพียงเท่านี้
ว่ากันว่า ฝาแฝดนั้นมีสายใยผูกพันกันมาก เมฆกับหมอกก็เช่นกัน!
ตอนเด็กๆ เขาเรียนที่ต่างจังหวัดด้วยกัน แต่เมื่อจบชั้นมัธยม เมฆก็ได้ทุนเรียนต่อมหาวิทยาลัย ขณะที่หมอกผู้เจ็บออดๆ แอดๆ เลือกที่จะช่วยงานพ่อแม่อยู่ที่บ้านสวน เขาเป็นคน "มือเย็น" คือปลูกต้นไม้ได้เจริญงอกงาม ผลิดอกออกผลเป็นที่น่าชื่นใจ เป็นกำลังสำคัญที่สร้างรายได้เข้าบ้านเป็นกอบเป็นกำ
น่าเสียดายจริงๆ ที่ดิฉันไม่มีโอกาสได้รู้จักกับหมอก ชายหนุ่มผู้รักต้นไม้เป็นชีวิตจิตใจ!
การมาค้างบ้านสามีครั้งนี้ เรามาตั้งแต่เย็นวันศุกร์มาถึงบ้านก็ค่ำแล้ว เกือบสองทุ่มแน่ะค่ะ คุณแม่ทำกับข้าวไว้รอท่า อาหารอร่อยมาก เป็นน้ำปลิกปลาทูกับผักต้มราดกะทิ และแกงต้มยำไก่บ้าน เจริญอาหารไปตามๆ กัน
เมื่อกินข้าวเสร็จ ดิฉันก็ช่วยคุณแม่และคุณป้าล้างจาน จากนั้นก็อาบน้ำ
ห้องน้ำที่นี่อยู่บริเวณนอกชาน แม่กับพี่สาวบอกว่า ตอนกลางคืนถ้าลูกจะเข้าห้องน้ำจะต้องเดินออกมาจากห้องนอน ถ้ากลัวก็ปลุกสามีมาเป็นเพื่อน และต้องเดินอย่างระวังให้ดีเพราะมียกพื้นต่างระดับ ถ้าคนไม่คุ้นเคยอาจจะหกล้มหกลุกได้
คืนนั้นไม่มีปัญหาอะไร เพราะดิฉันหลับสนิทตลอดคืนค่ะ อากาศดีจริงๆ
ลืมบอกไปว่าตอนนั้นเป็นฤดูหนาวเดือนธันวาคม ดิฉันชอบมาก ยิ่งมาอยู่กลางสวนแบบนี้มันทั้งหอมกลิ่นต้นไม้และสดชื่นมาก มีความสุขเลยล่ะค่ะ...ยังคิดว่าต้องมาบ่อยๆ เรากางมุ้งนอนด้วย แปลกดี
คืนวันเสาร์ ราวๆ ตีสามดิฉันตื่นขึ้นมา รู้สึกอยากเข้าห้องน้ำมาก เมื่อคืนดื่มน้ำเยอะไปหน่อย...
พอตื่นขึ้นมาก็ไม่อยากปลุกสามีหรอกค่ะ เพราะว่าเขากำลังหลับสนิททีเดียว ไม่เป็นไร...ดิฉันไม่กลัวหรอก! แต่เมื่อลุกออกจากมุ้งก็รู้สึกเหมือนไม่ได้อยู่คนเดียว แต่มีใครบางคนตื่นอยู่ใกล้ๆ นี่เอง!
ดิฉันมองไม่เห็น มันมืดมาก มีแต่แสงเดือนสลัวๆ บางทีอาจจะเป็นคุณพ่อหรือคุณแม่ก็ได้ ดิฉันคิดว่าชาวสวนมักจะตื่นแต่เช้ามืดเสมอ ทั้งๆที่อากาศค่อนข้างจะเย็นยะเยือกจนขนลุก
ความที่คิดนั่นคิดนี่เพลิน ทำให้ดิฉันลืมเรื่องพื้นที่ต่างระดับ เท้าจึงก้าวพลาด เสียหลัก ใจหายวูบ...วินาทีนั้นคิดว่าเราต้องล้มก้นกระแทกแน่ๆ เลย
แต่ทันใดนั้น มีวงแขนมารับตัวดิฉันไว้ พร้อมกับเสียงบอกเบาๆ ว่า...ระวัง!
เฮ้อ...สามีนั่นเอง ดิฉันไม่ได้หันไปมองหน้าเขาหรอกค่ะ...แต่มันจะใครซะอีกล่ะ จริงไหมคะ?
เขายืดแขนดิฉันไว้จนตั้งหลักได้ ดิฉันก็หัวเราะเก้อๆ พลางถามเขาว่าตื่นตั้งแต่เมื่อไหร่? ตะกี้ไม่ได้ปลุกเพราะเห็นว่าหลับอยู่...เขาก็หัวเราะหึๆ
หลังจากทำธุระส่วนตัวเสร็จ ออกจากห้องน้ำก็เห็นเงาตะคุ่มๆ
แน่ะ! เขายังรออยู่...
ร่างนั้นเดินนำหน้าเข้าไปในห้องนอน ดิฉันเดินตาม แล้วเปิดมุ้งขึ้นเตียง...เอ๊ะ! สามีดิฉันนอนกรน! อะไรกันนี่...เป็นไปไม่ได้! หรือว่าเขาแกล้ง? ดิฉันเขย่าตัวเขาเบาๆ ปรากฏว่าเขาหลับสนิทจริงๆ
ขนลุกเกรียวขึ้นมาทันที...แล้วตะกี้ใครกัน?
ดิฉันใจหายวูบ และนึกวาบถึงหมอก!
จริงซิ...ร่างนั้นต้องเป็นหมอกแน่ๆ เขาเป็นฝาแฝดกัน...เหมือนกันราวกับถอดอีกต่างหาก! ทุกคนเชื่อเช่นเดียวกับที่ดิฉันคิด วิญญาณหมอกอย่างไม่มีปัญหา ที่ช่วยมาประคองดิฉันไม่ให้หกล้ม!
หลังจากนั้นเดือนหนึ่ง ดิฉันก็ทราบว่าตัวเองตั้งครรภ์! ใช่แล้วค่ะ...คืนที่อยู่บ้านสวน มีชีวิตน้อยๆ อยู่ในร่างดิฉัน!!
ยิ่งทราบเช่นนี้ ดิฉันยิ่งนึกรักและขอบคุณหมอกอย่างลึกซึ้ง ไม่คิดหวาดกลัวเขาเลยแม้แต่น้อย
ทุกวันนี้ลูกชายดิฉันอายุได้ขวบกว่าแล้ว และเราพากันไปค้างบ้านสวนแทบทุกเดือนเลยค่ะ!
ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก โดย ใบหนาด - ข่าวสด หน้า 36 - ฉบับวันที่ 3 กรกฎาคม 2550
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น