11 กรกฎาคม 2558

ตู้ผีสิง

"นายตุ้ย" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากตู้ของคุณยาย

เขาว่ากันว่า พวกเด็กๆ มักจะสัมผัสสิ่งเหนือธรรมชาติได้ดีกว่าพวกผู้ใหญ่ เรื่องที่เขาว่านี้ผมเชื่อจริงๆ ครับ เพราะเมื่อตอนเด็กๆ ผมมองเห็นอะไรที่ผู้ใหญ่มองไม่อยู่เรื่อยเลย

เมื่อ 30 กว่าปีก่อน ผมยังเป็นเจ้าเปี๊ยก 6-7 ขวบ บ้านอยู่แถวลาดพร้าวในเนื้อที่ไร่เศษ กว้างขวางพอที่จะปลูกบ้านหลังงามๆ ได้ 2 หลัง หลังแรกเป็นตึก พ่อแม่ผมอยู่ที่ตึกนี้ ส่วนผมกับพี่สาวไปนอนกับคุณยายที่เรือนไม้ซึ่งเป็นเรือนคนรับใช้

เรือนนั้นปลูกเป็นแนวยาว ชั้นบนมี 3 ห้องนอน ชั้นล่างมี 1 ห้องนอน ห้องโถงไว้ดูทีวี ห้องทำครัว และห้องน้ำสองห้อง

ตอนนั้นบ้านเรามีคนเยอะครับ นอกจากพ่อกับแม่แล้ว ก็มีผม พี่แต้วซึ่งแก่กว่าแค่ผม 2 ปี แต่แหม...ดัดจริตทำเป็นสาวเชียว เธอสวยนี่ครับ! แล้วก็คุณยายซึ่งทำกับข้าวเก่งมาก และคุณเชื่อมั้ย? บ้านเรามีคนรับใช้ตั้ง 5 คนแน่ะ!

คุณพ่อผมเป็นนายแพทย์ ส่วนแม่เป็นพยาบาล ไม่ค่อยมีเวลากับลูกๆนักหรอกครับ คนไข้เยอะ แถมตอนกลางคืนก็มักมีคนไข้โทร.มาตาม คุณพ่อจะขับรถไปดู บางทีก็ไกลถึงฝั่งธนฯ โน่น ผมกับพี่ต้องอยู่ในความดูแลของคุณยายและพี่เลี้ยง

คุณยายนวลของผมใจดีที่สุดเลย!

ท่านอ้วนขาว ตัดผมสั้น ดัดหยิกแต่ไม่ได้ย้อม ปล่อยให้เป็นสีเงินยวง สวยดีเนื้อหนังนุ่มนิ่ม อุ่นเวลาหน้าหนาวและเนื้อเย็นเวลาหน้าร้อน ผมชอบกอดคุณยายหลับทุกคืน ดีกว่าหมอข้างเป็นไหนๆ แต่คุณยายน่ะ พอผมกับพี่แต้วหลับก็ชอบลุกออกไปดูทีวีกับพวกคนใช้ชั้นล่าง จนดึกดื่นถึงจะกลับมานอนกกพวกผมต่อจนตีห้าก็จะตื่นลงไปอีก

คราวนี้ลงไปทำกับข้าวน่ะครับ เราสองคนพี่น้องตื่นราวหกโมงเช้า พี่เลี้ยงขึ้นมาปลุกแต่งตัวไปโรงเรียน

วันหนึ่งพอกลับจากโรงเรียนผมก็เห็นตู้ไม้ใหม่ขึ้นมาสถิตอยู่ในห้องที่ผมกับพี่นอนกับคุณยาย มันเป็นตู้เสื้อผ้าขนาดไม่ใหญ่นัก ด้านหนึ่งมีฝาเป็นบานกระจก กว้างราว 2 ฟุต พอเปิดออกก็เป็นที่แขวนชุดยาว หรือกระโปรง กางเกง อีกด้านเป็นที่แขวนเสื้อและลิ้นชัก 4 ชั้น

ดูๆ ไปมันก็เป็นตู้เสื้อผ้าธรรมดาๆ

แต่สำหรับผม แวบแรกที่เห็น...มันเป็นตู้ที่มีชีวิตของมันเอง!

วันนั้นราวสี่โมงเย็น ผมกลับจากโรงเรียน ปกติจะอาบน้ำ กินข้าวและทำการบ้านที่ตึกใหญ่ เรือนไม้น่ะมีเฉพาะนอนกอดคุณยายเท่านั้น เสื้อผ้าของใช้ผมกับพี่สาวทั้งหมดรวมทั้งของเล่นด้วย

เวลากลับจากโรงเรียน เราจะอยู่ที่ตึกใหญ่จนกว่าจะสองทุ่มก็แปรงฟัน ล้างหน้า เปลี่ยนชุดนอนแล้วขึ้นห้องคุณยาย แต่วันนั้นผมวิ่งตึงๆ ขึ้นบันไดเรือนไม้ไปที่ห้องนอนคุณยายตามลำพัง เพราะผมจะไปเอาเครื่องบินของผมที่ลืมเอาไว้ข้างที่นอน

พอเปิดประตูเข้าไปผมก็เห็นมันถนัดตา...ตรงที่เคยมีตู้เสื้อผ้าพลาสติก กลับมีตู้ไม้ใบนี้ตั้งอยู่ แสงแดดส่องทแยงลอดหน้าต่างมุ้งลวดไปที่มัน!

ผมไม่เคยรู้สึกแบบนี้กับข้าวของเครื่องใช้ หรือเฟอร์นิเจอร์ชิ้นไหนทั้งสิ้น ! แต่ตู้ไม้ใบนี้มันแปลกครับ คือมันเหมือนมีชีวิต แถมยังทักทายผมเงียบๆ มันทำให้ผมสะท้านเยือก จำความรู้สึกนั้นได้จนทุกวันนี้ ทั้งๆ ที่ตอนนั้นผมยังไม่ครบ 7 ขวบ

ผมหันหลังกลับวิ่งลงบันได รู้สึกว่ามีสายตาคนแปลกหน้าจ้องมองตามมา!

เวลานอนของผมไม่เป็นสุขเช่นที่เคยเป็น มันเหมือนมีใครอยู่ในห้องด้วยแล้วใครคนนั้นก็มีนิสัยไม่ดีนัก มันทำให้ผมกลัว หดหู่และอึดอัด ผมไม่อยากมองตู้ใบนั้นเลย มันดูมีความมุ่งร้ายหมายขวัญยังไงก็ไม่รู้

คืนหนึ่งผมตื่นขึ้นมาตอนดึก ไฟหัวเตียงสีส้มๆ เปิดไว้ คุณยายลงไปดูทีวีข้างล่าง ผมรู้สึกตัวตื่นเพราะอะไรก็ไม่ทราบได้ ลืมตาขึ้นมาก็มองไปที่ตู้ใบนั้นแล้ว มันดูเหมือนสัตว์ประหลาดจากมิติอื่นมายืนทะมึนอยู่ในห้องนอน พอหันไปอีกทางก็เห็นพี่แต้วตื่นอยู่เหมือนกัน เธอมองตู้นั้นตาแป๋วและมีแววตื่นกลัว

"ได้ยินเสียงนั่นมั้ย" เธอกระซิบถามผม "มีใครอยู่ในตู้ก็ไม่รู้"

ผมเหลือบไปมองมันอย่างหวาดๆ ขณะที่เบียดตัวเข้ากับพี่สาว จริงสิ ...ผมได้ยินอะไรเคลื่อนไหวกุกกักอยู่ในตู้ฝั่งที่เป็นกระจกบานยาว

ฝาตู้เปิดออกช้าๆ เปิดออกนิดเดียว แต่ก็มากพอที่จะมีมือเขียวๆ ข้างหนึ่งโผล่ออกมา...ผมจำได้ติดตาว่าเล็บมันยาวและเป็นสีดำปี๋!

ผีแน่ๆ!! ผมกับพี่แต้วแข่งกันตะเบ็งเสียงร้องหวีดจนเจ็บคอหอย

สองพี่น้องร้องๆๆ ไม่หยุด จนคนทั้งบ้านวิ่งโครมๆ ขึ้นมาดูกันใหญ่ ผมกับพี่แต้วร้องไห้เสียขวัญ กอดกันกลม แกะแทบไม่ออก

เราสองคนจับไข้ ไปโรงเรียนไม่ได้ คุณยายย้ายตู้นั้นลงมาไว้ที่ห้องป้าชลอแม่ครัวของเรา มันอยู่ได้แค่สิบกว่าวัน ป้าชลอก็บอกว่าทนไม่ไหว ตู้นี้มีผีสิงจริงๆ มันเกาแกรกๆ ทั้งคืน

คนใช้เราหลายคนเห็นเงาผู้หญิงลึกลับบนกระจกตู้ด้วย น่ากลัวจริงๆ ครับ

ตู้ใบนี้คุณยายซื้อมาจากตลาด พวกผู้ใหญ่เห็นว่ามันเป็นตู้ธรรมดา ผมเป็นคนเปิดประเด็นว่ามันเป็นตู้ผีสิง ไม่รู้ว่ามันทำจากไม้โรงผี หรือว่าเคยมีใครมาตายในตู้นี้? แต่ผมกับพี่แต้วไม่ช็อกตายคาที่ก็บุญโขแล้วครับ!

ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก โดย ใบหนาด - ข่าวสด หน้า 36 - ฉบับวันที่ 11 กรกฎาคม 2550

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น