"เล็กน้อย" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกเมื่อพบวิญญาณพี่สาว
ดิฉันยอมรับว่าตัวเองเป็นคนกลัวผีขนาดหนัก ดังนั้น เมื่อลูกพี่ลูกน้องคนหนึ่งชื่อพี่ตุ้ม ประสบอุบัติเหตุ รถของเธอชนรถสิบล้อตายคาที่ ดิฉันจึงกลัวมากขนาดนึกถึงก็ขนลุกเกรียวแล้ว กลัวว่าเธอจะมาหา...แล้วเธอก็มาจริงๆ ค่ะ!!
พี่ตุ้มอายุ 46 ย่าง 47 ไม่ใช่คนสวยเลย เธออ้วนดำ ผมหยักศก รวบตึงเป็นมวยไว้ที่ท้ายทอยเสมอ กระนั้นพวกเราก็รักเธอมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สามีรูปหล่อของพี่ตุ้มจะรักพี่ตุ้มมาก จนไม่มีนัยน์ตาไปชำเลืองแลสาวอื่น
ทั้งนี้เพราะพี่ตุ้มเป็นคนจิตใจดี เธอรักและคอยเป็นห่วงเป็นใย คอยดูแลและแคร์ความรู้สึกของทุกคน...ไม่เฉพาะแต่กับน้องแต๋มกับน้องตาล-ลูกสาวสุดสวาทขาดใจของเธอเท่านั้น
เธอจากเราไปกะทันหัน เป็นความตายที่รุนแรงจนเราทำใจไม่ได้จริงๆ
น่าสงสารแต๋มกับตาลมาก สองพี่น้องยังเรียนไม่จบเลยค่ะ แต๋มเรียนปี 3 มหาวิทยาลัยราชภัฏ ส่วนตาลเพิ่งจะขึ้น ม.4 เท่านั้นเอง!
ครอบครัวของพี่ตุ้มมีฐานะปานกลาง พี่อ๊อดสามีของเธอทำงานธนาคารงานหนักมาก เงินเดือนที่ได้มาก็ต้องประหยัดกันสุดขีด พี่ตุ้มเองเป็นแม่บ้านเต็มตัวเพราะลาออกจากบริษัทเมื่อมีน้องแต๋ม เธอเลี้ยงลูกเอง ทำงานบ้านเอง ไม่ยอมมีคนรับใช้
จนกระทั่งลูกโต พี่ตุ้มจึงทำขนมเปี๊ยะขาย หารายได้เสริม
ทีแรกพวกเราก็ว่าจะขายได้อย่างไร ทำขนมเปี๊ยะอย่างเดียว ใครเขาจะมาซื้อทุกวี่ทุกวัน! แต่เราคิดผิดค่ะ พี่ตุ้มทำขายแทบไม่ทันเพราะมีลูกค้าเยอะมาก เดี๋ยวคนนี้สั่งจอง เดี๋ยวคนนั้นโทร.มาขอซื้อทีละมากๆ ยิ่งใกล้ปีใหม่พี่ตุ้มยิ่งมือเป็นระวิง
เธอขายดีมาก จนพี่อ๊อดให้ใช้รถเพื่อเอาขนมไปส่งลูกค้า
วันที่เกิดเหตุ ลูกค้าสั่งขนมเปี๊ยะไว้ 50 กล่องเพราะมีงานเลี้ยงที่พุทธมณฑล พี่ตุ้มอดตาหลับขับตานอนทำขนมทั้งคืน คิดว่าพอเช้าขับรถไปส่งลูกค้าเรียบร้อยแล้ว ก็จะกลับมานอน...แต่ชะตากรรมก็เป็นสิ่งที่ไม่มีใครหลบหลีกได้พ้นจริงๆ ค่ะ
หลังจากส่งขนมเสร็จ ตอนขากลับ รถสิบล้อเบรกแตก พุ่งข้ามเลนมาชนรถพี่ตุ้มเสียยับเยิน...ร่างกายของพี่ตุ้มก็เช่นกัน
ดิฉันเสียใจมาก พอๆ กับกลัวผี!
ตลอดเวลางานสวด ดิฉันไม่ยอมอยู่คนเดียวเลย พอกลับจากวัด สามีต้องอยู่เป็นเพื่อนตลอด
คืนที่ 3 หลังการตายของพี่ตุ้มที่แสนดี ดิฉันเข้านอนตอนห้าทุ่มกว่าๆ สามีซึ่งปกตินอนดึก ราวตี 1 ตี 2 ก็ต้องละจากงานที่ทำค้างไว้ เข้านอนพร้อมดิฉันด้วย แถมยังไม่ยอมให้เขาปิดไฟหัวเตียงซะอีก...ไฟดวงนิดเดียวไม่รบกวนสายตาหรอกค่ะ ยามกลัวผีแบบนี้ดิฉันหลับได้สบายมาก
ไม่รู้ว่าหลับไปนานเท่าไหร่ ดิฉันก็ต้องตื่นขึ้นมา...มันตื่นเอง ไม่ได้ปวดปัสสาวะหรือมีเสียงรบกวนอะไรเลย มันน่าโมโหมั้ยเนี่ย...ตื่นมาทำไมก็ไม่รู้? ดูซิ! สามีก็กำลังกรน หลับสนิทเชียว
ดิฉันพลิกตัว ดึงผ้าห่มคลุมถึงคอ ตั้งใจจะหลับต่อ...แต่คุณพระช่วย!
ที่เก้าอี้โต๊ะเครื่องแป้ง ห่างจากดิฉันไม่กี่ก้าว มีร่างอวบอ้วนของพี่ตุ้มนั่งมองอยู่นิ่งๆ ท่ามกลางความเงียบเชียบและเยือกเย็น...
เธอดูเป็นมนุษย์มีเนื้อมีหนังเหมือนคนเป็นๆ แสงไฟสลัวๆ ยังสาดส่องจนดิฉันเห็นร่างนั้นถนัด...เจ้าประคุณเอ๋ย! หัวใจแทบจะขาด น้ำตาทำท่าจะไหลพรากออกมารอมร่อ...มือก็เอื้อมไปด้านหลัง เขย่าสามีแต่เขาไม่ยอมตื่น
"ไม่ต้องกลัวพี่หรอก น้องๆ...พี่มีเรื่องมาขอให้ช่วย...."
พี่ตุ้มพูดโดยที่ปากของเธอไม่ขยับสักนิด ดิฉันนอนตัวสั่นอยู่กับที่...เธอบอกว่าในห้องนอนมีตู้เสื้อผ้า และลิ้นชักบนสุด ใต้เอกสารสำคัญต่างๆ มีกรมธรรม์ประกันภัยที่เธอทำไว้ ซึ่งยังไม่มีใครรู้แม้แต่พี่อ๊อด...
ผู้รับผลประโยชน์จากการเสียชีวิตโดยอุบัติเหตุนั้นให้สามีเป็นผู้รับ!
เมื่อสั่งเสียเรียบร้อย....นี่เป็นการสั่งเสียหลังจากที่เจ้าตัวตายไปแล้ว พี่ตุ้มก็นั่งนิ่งๆ ร่างที่เหมือนคนธรรมดาของเธอ ทำท่าจะเปลี่ยนเป็นศพ...คือเขียวคล้ำ และบวมช้ำไปหมด...ดิฉันปากคอสั่น พูดไม่ออก นึกอยู่ว่า...พอแล้วพี่ตุ้ม! อย่าให้กลัวกว่านี้เลย...
พี่ตุ้มมองดิฉันเหมือนเพิ่งรู้ว่า ดิฉันกลัวแทบตายตามเธอ ร่างนั้นค่อยๆเลือนราง จางหายไป!
เธอคงไม่ได้ใจร้าย คิดจะหลอกหลอนดิฉันหรอกค่ะ เชื่อว่าที่เธอค่อยๆกลายร่างเป็นซากอสุภ ก็เพราะเสียใจต่อการตายของตัวเอง กับห่วงลูกๆและสามี
รุ่งขึ้น ดิฉันรีบโทร.ไปเล่าให้พี่อ๊อดฟัง เขาไม่ได้หาว่าดิฉันบ้าหรอก แต่ขึ้นไปดูในลิ้นชักตามคำบอกเล่า แล้วรีบโทร.กลับมารายงานอย่างตื่นเต้น ...สิ่งที่ดิฉันเล่านั้นเป็นความจริงทุกประการ
โธ่! ใครจะไปรู้ได้อย่างไรคะ ถ้าวิญญาณพี่ตุ้มไม่มาบอกน่ะ...จิตดิฉันคงจะอ่อนกว่าพี่อ๊อดมั้งคะ เธอถึงติดต่อมาได้?
เรื่องนี้ฮือฮากันในหมู่ญาติสนิทมิตรสหาย ดิฉันไม่กล้าเล่าให้คนอื่นๆ ฟังอยู่นาน เพราะไม่มีอะไรพิสูจน์ แต่พอคิดได้ว่า เรื่องนี้ต้องมีประโยชน์ไม่มากก็น้อย ก็เลยเขียนมาเล่า...
วิญญาณมีจริงค่ะ! หมั่นทำความดีไว้เถอะนะคะ
ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก โดย ใบหนาด - ข่าวสด หน้า 36 - ฉบับวันที่ 16 กรกฎาคม 2550
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น