"แฟนประจำ" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากพัทยา
ชมพู่, มด และ ดิฉัน เป็นเพื่อนร่วมงานที่ซี้กันมาก ชมพู่น่ะทำท่าว่าจะอำลาหลัก 3 ไปเข้าหออยู่รอมร่อ แต่เกิดเหตุการณ์สุดช็อก...แฟนเธอกลับโดนคาบไปกินซะงั้น! เมื่อเดือนที่แล้ว ชมพู่กระดี๊กระด๊ามาบอกว่า พี่โอ๊ต หนุ่มออฟฟิศโน้นจะให้คุณแม่มาขอ เขาพาเธอไปพบท่านมาแล้วด้วย...งานนี้ชัวร์ยิ่ง! แต่อาทิตย์ถัดมาเท่านั้นแหละ ไอ้ที่เคยมารับมาส่งก็เปลี่ยนไป พี่โอ๊ตเกิดงานยุ่งจนไม่มีเวลามาเอาอกเอาใจสาวชมพู่เหมือนเดิม
ไม่ช้าก็ความแตก...ไอ้ที่เขามัวไปยุ่งอยู่น่ะคือการแจกการ์ดแต่งงานค่ะ แต่ไม่ใช่กับชมพู่หรอก ชื่อเจ้าสาวในการ์ดคือสาวในที่ทำงานของเขาเอง!
ชมพู่ไม่ได้รับการ์ดบ้าๆ นั่นก็จริง แต่มีผู้หวังดีมา บอกและให้ดูเป็นการยืนยัน ขณะที่เธอเปิดหนังสือแฟชั่นชุดวิวาห์หลากหลายอย่างเพลิดเพลิน ถึงแม้จะสังหรณ์ใจอยู่บ้างแต่ชมพู่ก็อดช็อกไม่ได้ เธอไม่มีน้ำตาสักหยก ใบหน้าขาวซีดนิดหน่อยยังดูเรียบเฉย เลิกคิ้วนิดๆ คล้ายแปลกใจหน่อยๆ "งั้นเรอะ?"
คนมาบอกอาจหวังว่าจะได้เห็นน้ำตาเม็ดโตๆ กับเสียงกรี๊ดกร๊าดแสบแก้วหูแบบละครหลังข่าว แต่พอเห็นท่าทีเฉยเมยราบเรียบก็ต้องจ๋อยกลับไป...ขอโทษแต่ขอบคุณที่มาบอก
มีแต่มดและดิฉันที่รู้ว่าชมพู่เจ็บลึก เพราะใบหน้าที่เรียบเฉยราวกับรูปสลักนั้น บางครั้งมีรอยยิ้มแบบวิกลจริต ดูน่าขนลุกยังไงชอบกลอยู่...แบบนี้เพื่อนก็ต้องช่วยเพื่อนสิคะ!
เราทำแบบ...ช่างมันฉันไม่แคร์! แล้วคว้าเสื้อผ้าสองสามชิ้นกับบิกินีไปเที่ยวทะเลกันดีกว่า! เอ...จะไปไหนดี? หัวหินก็สงบเกินไป ระยองก็ไกลเปล่าๆ งั้นเอาพัทยาก็แล้วกัน
ดิฉันขับรถญี่ปุ่นคันเล็กคู่ใจ มีมดนั่งข้างๆ ชมพู่สวาปามลองกองอยู่เบาะหลัง
ไปถึงพัทยาสายวันเสาร์...นั่นไง นึกแล้ว! ไม่มีที่พัก โรงแรมดีๆ เต็มหมด เราทำอะไรตามอารมณ์ก็ต้อง "ทำใจ" แม้ว่าอยากค้างซักคืน...เฮ้อ! ไม่อยากให้เรื่องนี้ มีโชคร้ายเล้ย แต่พวกเราดันได้รีสอร์ตแห่งหนึ่งที่อยู่ใกล้ชายทะเลเสียด้วย แค่เดินข้ามถนนไปก็ถึงแล้ว
รีสอร์ตนี้ปลูกเรียงเป็นแถวๆ แต่ละหลังเป็นห้องชุด เมื่อเปิดประตูเข้าไปก็ถึงห้องรับแขกไม่กว้างนัก ดูอึดอัดด้วยซ้ำ เขาตั้งชุดรับแขกที่มีโซฟา เก้าอี้ และโต๊ะเตี้ยๆ ถัดจากห้องรับแขกมีประตูสู่ห้องนอน ทางขวาเป็นห้องน้ำ ทางซ้าย เป็นโต๊ะเครื่องแป้งราคาถูกๆ ตู้เสื้อผ้าแบบบิลต์อินใช้ไม้คุณภาพต่ำ ประตูบานเลื่อนทำท่าจะหลุดจากราง ปิดได้แค่ครึ่งๆ กลางๆ เตียงนอนแบบซิงเกิ้ลนอนได้สองคนสบายมาก แต่ถ้าสามคนก็เบียดกันหน่อย เขาตั้งโซฟาหนังเทียมตัวยาวสีขาวไว้ให้ด้วย เจตนาคงให้เป็นเตียงเสริม
เมื่อเก็บของแล้วเราก็ออกไปตะลุยพัทยากันสนุกสนาน พอตกค่ำก็หาล็อบสเตอร์อบเนยกินกันอย่างมีความสุข ชมพู่ผู้ไม่เคยแตะต้องเครื่องดองของเมา สั่งเบียร์มาดื่มอั๊กๆ เข้าไปตั้งสองขวดใหญ่ ดังนั้นแค่สามทุ่มเธอก็หมดสภาพ ต้องกลับไปนอนแทบสลบไสล ส่วนมดกับดิฉันกำลังมึนพอสบายๆ เลยออกมานั่งริมทะเลรับลมกัน
รีสอร์ตมีเก้าอี้ให้เช่า ครัวก็เปิดจนดึกดื่น เรานั่งคุยกันตามสบาย ฟังเสียงคลื่นคร่ำครวญกับสายลมกระซิบกระซาบชายหาด ให้พวกศิลปินเขาได้แรงบันดาลใจมาเขียนนิยาย และแต่งเพลงรักหวานกับเศร้าสลดนับไม่ถ้วน
เรานั่งคุยกันตามสบาย...อย่างน้อยชมพู่ก็นอนอยู่ใกล้ๆ ในห้อง
ราวห้าทุ่ม เราเดินเอื่อยๆ กลับที่พัก มดไขกุญแจเข้าไป ดิฉันเคาะทรายออกจากรองเท้า กำลังเคาะอยู่ดีๆ ก็เกือบหน้าคะมำเพราะมดถอยหลังมาชน
"อ้อ!" เธอไม่ได้อุทานหรอกค่ะ แต่ออกชื่อดิฉัน "ใครนั่งอยู่ในห้องก็ไม่รู้?"
ใจหายวาบ มือคว้าประตูเพื่อดูเลขห้องให้ถูกต้อง...ห้องของเรานี่นา จำไม่ผิดแน่!
"เออ..." มดทำท่าเหมือนจะร้องไห้ "ชมพู่ก็นอนอยู่ แต่มีผู้หญิงที่ไหนไม่รู้มานั่งดูชมพู่อยู่ที่ข้างเตียงน่ะ"
"เฮ้ย!" ดิฉันร้อง รีบพุ่งไปยังประตูห้องนอน...ชมพู่นอนตะแคงหันหน้ามาหา ถัดไปเป็นผู้หญิงนั่งพิงพนัก มือทั้งสองวางปล่อยๆ บนตัก เธอผมยาว เป็นสาววัยยี่สิบเศษ สวมชุดไนลอนสีเนื้อ หน้าเธอเขียวๆ ก้มนิดๆ กำลังทำตาคว่ำจ้องชมพู่เขม็ง...
ดิฉันถอยกรูด...ดูก็รู้ว่าไม่ใช่คน! มดยืนเอามืออุดปากตัวเอง หน้าย่นยู่อย่างเสียวไส้ ไม่ต้องเดาก็รู้ว่ามดกำลังคิด...จะปลุกชมพู่อีท่าไหน? ดิฉันตะโกนลั่น "ไปบอกผู้จัดการ!"
ผู้จัดการไม่อยู่ แต่คนดูแลได้รับฟังเรื่องของเรา เขาทำหน้าตื่นเต้นเอามากๆ รีบไปตามผู้หญิงมาสองคน พวก เธอทำท่าขนลุกขนชัน กลัวมากกว่ากล้า แต่ต้องมาที่ห้องเราอยู่...เราเปิดไฟสว่างจ้าแล้วเก็บข้าวของชนิดมือไม้สั่น ชมพู่ตื่นขึ้นมาอย่างงุนงง เราเก็บของทุกอย่างให้เธอแล้วขึ้นรถ...ออกจากที่นั่นได้ก็บึ่งกลับกรุงเทพฯ ทันที
ชมพู่เล่าว่าเธอรู้สึกเหมือนถูกผีอำ เห็นภาพดิฉันกับมดเข้าไปหาแต่ขยับไม่ได้ จนคนมาเยอะแยะ ผีตนนั้นก็หายไป...ชมพู่โชคดีที่หายเศร้าเพราะอกหักแต่หันมากลัวผีสุดๆ ค่ะ!
ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก โดย ใบหนาด - ข่าวสด หน้า 26 - ฉบับวันที่ 18 ธันวาคม 2557
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น