07 สิงหาคม 2556

ประสบการณ์ขนหัวลุก : ผีเฮี้ยนในห้างดัง

ก่อนอื่น ต้องขอออกตัวก่อนนะว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง จะพยายามไม่เอ่ยถึงสถานที่ชัดเจน เพื่อผลกระทบ.. ตอนนี้ก็ยังมีให้เห็นและเป็นอยู่ เคยโทรไปออนแอร์นานแล้วกับพิธีกรผีๆ กพล ทองพลับ เมื่อสิบกว่าปีมาแล้วครับ ซึ่งญาติผมเป็นส่วนหนึ่งของเจ้าหน้าที่ทำงานด้าน วิศวกร ออกแบบ ก่อสร้างไม่ขอเอ่ยนาม

ห้างหนึ่ง ในกรุงเทพมหานคร ได้ทำการก่อสร้าง และมีบริษัท รับเหมา ทั้งออกแบบ และก่อสร้าง ควบคุม ดูแลงานได้มีการก่อสร้างตามขั้นตอน ตามแบบแปลนที่วางไว้ จากชั้น 2 ไปชั้น 3 ขอย้ำนะครับว่า จากชั้น 2 ไปชั้นที่ 3 เรื่องเกิดตรงนี้

หลังจากสร้างเสร็จแล้ว มีการย้ายเข้าไปอยู่ของทางร้านค้าต่างๆ เป็นทั้งแบบดีพาร์ท และแบบให้เช่า อยู่ได้ไม่นานครับ เจ้ง และหาผู้เช่ารายใหม่ ความว่า กลางคืน ทั้งยาม ทั้งแม่บ้าน เจอกันทุกราย เช่น หุ่นเดินได้ แม่บ้านทำความสะอาดที่มาทำงานก่อนห้างเปิด เจอคนนั่งร้องให้ เสื้อผ้าลอยได้ คนวิ่งเข้าไปในต้นเสา ทีแรกนึกว่าเป็นขโมย ต้องตามยามมาค้นหา แต่ก็หาไม่เจอช่วงห้างเลิกวงจรปิด จับภาพ คนได้ นึกว่าขโมยแอบเข้ามา ค้นหาไม่เจอครับ

พอมีการเปลี่ยนเจ้าใหม่ ก็ต้องมีการปิดปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ออกแบบ ภายในใหม่ โดย วิศวกรกลุ่มเดิม มาคุมงานหลังจาก ห้าทุ่มแล้ว พวก วิศวกร พากันขึ้นไปทานข้าว ที่ห้องอาหารชั้น5 ซึ่งปิดปรับปรุงเหมือนกัน แต่ก็ยังมีโต๊ะ เก้าอี้ให้นั่ง โดยการซื้ออาหารมาทานเองครับ เหล่าคนงานที่มาตกแต่งร้านก็พากันกลับหมดแล้ว กลุ่มพวกวิศวะพากันนั่งทานอาหารกันอยู่นั้น เหลือบไปเจอผู้หญิงวัยกลางคนท่านหนึ่งนั่งหน้าเศร้าอยู่ในมุมมืด บ่นกับลูกน้องว่า.. ใครวะ ดึกๆดื่นๆยังไม่กลับอีก มานั่งอยู่ตรงนั้น ไปเรียกเขามาทานข้าวด้วยกันซิ แล้วก็ให้ลูกน้องไปเรียกหญิงวัยกลางคนคนนั้น มาทานข้าวด้วย

"พี่ๆๆ ทำไมยังไม่กลับอีก มาทำอะไรอยู่ตรงนี้หรือ" ไม่มีเสียงตอบรับจากหญิงวัยกลางคน ก็เลยสำทับกับคำถามเดิมอีกครั้ง

"พี่ๆ ทำไมยังไม่กลับอีก มาทำอะไรอยู่ตรงนี้หัวหน้า เรา ให้ผมมาเรียกไปทานอาหารด้วยกันมาม๊ะ มาทานอาหารด้วยกัน"

เสียงหญิงคนนั้น พูดช้าๆเสียงออกทำนองอิสานว่า "บ่ไปหรอก..ให้หัวหน้าเธอมาทานที่นี่ซิ"

ฝ่ายลูกน้องก็ตะโกนไปบอกหัวหน้าที่นั่งห่างไม่ใกลเท่าไหร่ ประมาณสัก 5-6 เมตร ว่า "หัวหน้า ..เธอไม่ไปหรอก เธอให้พวกเรา มาทานที่โต๊ะของเธอ"

"จะบ้าเร๊อะ พวกเราเย๊อะกว่า จะให้ย้ายไปที่คนน้อยกว่าได้ไง..มานั่งที่นี่ด้วยกันซิ"

ผู้หญิงคนนั้นได้ยินค่อยๆหันหน้ามาทางหัวหน้าและกลุ่มวิศวะอย่างช้าๆ มองแบบตาขวางๆ หน้าเศร้าๆ แล้วพูดขึ้นมาว่า "หัวหน้า ไม่เจอกันตั้งนาน ยังใจดำเหมือนเดิมนะ"

"หัวหน้า งง ..ป้ารู้จักผมหรือ ทำไมผมไม่รู้จักป้าเลย"

"ทำไมจะไม่รู้จักละ" ป้าตอบ

"เออ แล้วป้า เป็นใคร อยู่ที่ไหน มาทำอะไรที่นี่" เสียงจากหญิงลึกลับพูดมาว่า

"เวลาผ่านมาไม่นาน ทำเป็นจำหนูไม่ได้ ก็หนูติดอยู่ที่ต้นเสาชั้นสอง ที่หัวหน้าไม่ยอมเอาหนูออกมาไง" เสียงตอบจากป้า

แค่นั้นละ หัวหน้าวิศวะวิ่งป่าราบก่อนเพื่อนเลย ลูกน้องที่นั่งอยู่ด้วยก็วิ่งตามไป และถามหัวหน้าข้างนอกตึกว่า "วิ่งทำไมหรือ" หัวหน้าตอบว่า "มันไม่ใช่คน" แล้วก็เลยเล่าเรื่อง ที่เกิดขึ้นพลางสำทับไปว่าห้ามแพร่งพรายไม่งั้น เดือดร้อนกันทั่วจนกว่าเราจะหมดพันธะจากการเป็นผู้รับเหมา

เรื่องที่ปกปิดเป็นความลับคือว่า ห้างแห่งนี้ตอนก่อสร้างมีคนงานเป็นหญิงวัยกลางคนชาวอิสาน ได้ตกไปในเสาเอกหรือเสาหลักตอนเทปุน มาเจอตอนที่เขาแกะบล็อกออกจากเสา จึงรู้ว่ามีคนอยู่ข้างในจะเอาออกก็ไม่ได้ ต้องทำการรื้อใหม่ทั้งชั้น จะสูญเสียงบไปหลายสิบล้านบาท จึงหาวิธีแก้โดยการโบกปูนฉาบทับไปเลย และปิดเป็นความลับสุดยอด สอบถามถึงคนที่ติดอยู่ข้างในเป็นใคร สุดท้ายจึงรู้ว่าเป็นเมียคนงานที่ทำงานอยู่ที่นี่ ฝ่ายผู้รับเหมาและวิศวะเลยต้องหาวิธีโดยไม่ต้องรื้อทำไงหรือครับ เสนอเงินจำนวนหนึ่งให้ฝ่ายสามี แล้วก็ฉาบปูนทับไปเลยไม่มีการเอาศพออก เรื่องก็เงียบไป แต่อย่างว่าละครับมันเลยเป็นอาถรรพ์ ใครมาบริหารห้างนี้ เจ้งแล้ว เจ้งอีก ผมก็เคย ไปดูให้เห็นกับตามาแล้วแต่คนที่มาอยู่ใหม่ เจ้าใหม่ คงไม่รู้แน่ๆ

ทุกวันนี้ ก็ยังเฮี้ยนไม่เลิกครับ สงสารเจ้าของใหม่ แม่บ้านและยาม ที่เขาไม่รู้ ต้องเจอดี

ที่มา: board.palungjit.com

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น