ตำนานมีอยู่ว่าหลังจากเปิดสนามบินสุวรรณภูมิได้ไม่นาน มีพนักงานของศุลกากร ที่ทำงานกะกลางคืน มองเห็น หญิงสาวผ่านเข้าออก เสา ต้นนี้อย่างผิดสังเกต พนักงานจึงแจ้งให้หัวหน้า รปภ.งานทราบ หัวหน้างานเห็นความผิดปกติ จึงแจ้งช่างก่อสร้างให้ทำการเคาะปูนที่เสานี้ออกมาหลังจากเคาะออกมาแล้ว ทุกคนถึงกับตะลึง เนื่องจากว่า สิ่งที่อยู่ในเสานั้น คือศพคนงานหญิงสาวถูกฆ่าข่มขืนแล้วถูกปูนโบกทับติดกับเสาต้นนั้น หลังจากเอาศพออกมาแล้ว ทางช่างก่อสร้างได้ทำการโบกปูนทับไปให้กลับเหมือนเดิมอีกครั้งหนึ่ง
เสาต้นนี้ตั้งอยู่บริเวณห้องทำงานของศุลกากรบริเวณ จุดรับกระเป๋าขาเข้าต่างประเทศ เมื่อทีมงานได้เข้าไปสำรวจเสาผีสิง พบว่าเสาต้นดังกล่าวอยู่ในห้องขนาดเล็ก ที่ใช้สำหรับเก็บกระเป๋าของชาวต่างชาติที่นำสัมภาระมาฝากไว้ โดยในวันนั้นมีกระเป๋าอยู่ประมาณ 30 ใบ และมีเสาอยู่ตรงกลางห้อง เป็นเสาปูนที่มีรอยโบกทับกันหลายชั้น และมีลังกระดาษครอบไว้ แต่หลังจากที่ข่าวลือเริ่มแพร่ขยายออกไปในวงกล้วง ทำให้มีพนักงานจากส่วนอื่นๆ นำพวงมาลัยมากราบไหว้ประมาณ 4-5 พวง ยิ่งทำให้ภาพของเสาต้นนี้ เฮี้ยนขึ้นหลายเท่า
พนักงานบริษัท ท่าอากาศยานไทยรายหนึ่ง เล่าว่าเป็นเรื่องปกติที่การก่อสร้างจะต้องมีคนงานเสียชีวิต จึงทำให้มีการผูกเรื่องกันไปว่า เสาที่มีลักษณะคล้ายกับการโบกทับหลายชั้น เพราะมีการนำศพของผู้เสียชีวิตมาทิ้งแล้วโบกทับเพื่อปกปิดความผิด แต่ก็เป็นเพียงเรื่องเล่าเท่านั้น นอกจากนี้ ยังมีเรื่องเล่าถึงความเฮี้ยนในสนามบินอีกมาก ไม่ว่าจะเป็นบริเวณรันเวย์สนามบิน ซึ่งเดิมที่แห่งนี้เป็นวัดเก่า เป็นวัดประจำชุมชนของคนในพื้นที่ ซึ่งการสร้างรันเวย์ทับวัด เป็นเรื่องที่ชาวบ้านถือกันอย่างมากและในระหว่างการก่อสร้างนั้น ปรากฏว่าคนงานหลายต่อหลายคน เห็นเงาจำนวนมาก เดินกันขวักไขว่บนรันเวย์ แต่เมื่อเข้าไปดูใกล้ๆ ก็ไม่พบใครทั้งสิ้น หรือกระทั่งมีชาวบ้านขอโดยสารรถคนงานออกจากพื้นที่ แต่เมื่อขึ้นรถมาแล้ว กลับหายไปอย่างไร้ร่องรอย ขณะที่รถกำลังวิ่ง
ที่มา : http://happy.teenee.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น