07 มีนาคม 2559

โค้งมรณะ!

"อินทรจักร" เล่าเรื่องขนหัวลุกจากโค้งมรณะ 100 ศพ

อุบัติเหตุทางรถยนต์เป็นสิ่งที่ทำให้ผู้คนบาดเจ็บและล้มตายมากที่สุด ปีละนับหมื่นนับแสนคน แม้ว่าจะมีการรณรงค์ "เมาไม่ขับ" จนถึง "ดื่มไม่ขับ" รวมทั้งการป่าวประกาศเตือนใจต่างๆ ทั่วประเทศ แต่อุบัติเหตุสยองที่ทำลายชีวิตและทรัพย์สินนับไม่ถ้วน ก็เกิดขึ้นแทบไม่เว้นแต่ละวัน

ไม่ว่าถนนหนทางที่ไหนก็ล้วนแต่เป็นอันตราย เป็นกับดักมฤตยูน่าพรั่นสยองทั้งสิ้น!

ในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด ในเมืองใหญ่และในชุมชนที่รถราคับคั่ง ผู้ขับขี่มึนเมา ง่วงเหงาหาวนอน โดยเฉพาะเกิดความประมาท เป็นบ่อเกิดของอุบัติเหตุตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงรุนแรง...บาดเจ็บสาหัส พิกลพิการ กระทั่งสูญเสียชีวิตก่อนเวลาอันสมควร

ข่าวรถคว่ำเทกระจาด ตายหมู่อย่างน่าอเนจอนาถ ไม่ว่าจะเป็นหน้าเทศกาลท่องเที่ยว หรือแม้แต่ในการเดินทางตามปกติก็ตามที

โค้งมรณะ หรือ โค้ง 100 ศพ ปรากฏอยู่ทุกหัวระแหงก็ว่าได้!

แต่อุบัติเหตุสยองเหล่านั้นเกิดจากความประมาทและความมึนเมาของผู้ขับขี่เสมอไปละหรือ?

นอกจากสาเหตุดังกล่าว ยังมีบางสิ่งบางอย่างที่เป็นความเร้นลับ มีพลังอำนาจแรงกล้า บันดาลให้อุบัติเหตุสยองพลันอุบัติขึ้นมา

นั่นคือ เชื่อกันว่าย่านนั้นมีผีสิง วิญญาณผีตายโหงเจ็บปวด ทนทุกข์ทรมาน รอคอยอย่างกระสับกระส่ายที่จะกระชากวิญญาณดวงใหม่ๆ ไปเป็นเพื่อน หรือไม่ก็มาทดแทนวิญญาณของตัวเอง...จะได้ไปผุดไปเกิดเสียที

ที่ต.ป่าเมี่ยง อ.ดอยสะเก็ด จ.เชียงใหม่ก็เช่นกัน!

บริเวณ ก.ม..42-43 ถนนสายเชียงใหม่-เชียงราย ได้ชื่อว่าเป็นโค้งมรณะมานับสิบปีแล้ว เนื่องจากเกิดอุบัติรถชนกันบ่อยครั้ง รถทัวร์ที่ผ่านไปมาด้วยความเร็วปกติ แต่ก็เกิดพลิกคว่ำโดยไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด ทำให้มีผู้เคราะห์ร้ายต้องบาดเจ็บเล็กน้อยจนถึงสาหัส...คนชะตาขาดก็ถึงกับล้มตายทับถมกันมานับไม่ถ้วน

ผู้ที่ได้รับบาดเจ็บรุนแรงมีทั้งแขนขาหัก ซี่โครงหัก กะโหลกร้าว ตาบอด ร้องโอดโอยโหยหวนตั้งแต่จุดเกิดเหตุจนถึงโรงพยาบาล บ้างรักษาตัวอยู่หลายวันแล้วก็ยังเพ้อพกถึงภาพสยองจนผู้ฟังขนลุกขนพองไปตามๆ กัน

"มันดาหน้ากันมาเต็มถนนเลย...โอย! เลือดท่วมตัวก็มี แขนขาขาดก็มี! ไอ้นั่นหัวขาด...มันเดินหิ้วหัวเข้ามาหาเรา! โอ๊ย..."

"คนขับร้องด่าเสียงหลง แล้วต้นไม้ข้างทางก็วิ่งเข้าใส่! เสียงหัวเราะครืนๆ ดังมาจากทุกทิศทุกทาง..."

คนเจ็บยังไม่ได้สติ แต่ก็กระสับกระส่ายพร่ำเพ้อเสียงขาดเป็นห้วงๆ เหงื่อเม็ดโตๆ ผุดเต็มหน้าผาก สะบัดหน้าไปมาพลางขยับแขนขาที่ถูกมัดไว้เพื่อป้องกันการดิ้นตกเตียง

"ผี! ผีทั้งนั้น...มันจะเอาเราไปอยู่ด้วย! ไปให้พ้น...ไม่ไป๊! ข้ายังไม่อยากตาย..."

แม้แต่คนเจ็บบางคนที่ได้สติขึ้นมา ก็ยังเล่าภาพสยดสยองสุดขีดที่มองเห็นเต็มตาก่อนจะเกิดอุบัติเหตุร้ายกาจ...

จู่ๆ ก็มีผู้หญิงที่วิ่งตัดหน้ารถในระยะกระชั้นชิด!

คนขับร้องเฮ้ย! ผู้โดยสารหลายคนก็มองเห็นร่างนั้นผ่านหน้ารถไปช้าๆ ราวกับภาพสโลว์โมชั่น รถหักหลบกะทันหัน...ใบหน้าอุบาทว์นั้นหันมามองพลางแสยะยิ้มอย่างสาสมใจ ขณะที่รถพุ่งเข้าใส่ต้นไม้อย่างไม่มีทางหลบเลี่ยงได้สำเร็จ

โครม!! เสียงสนั่นหวั่นไหวเหมือนฟ้าผ่า...เคล้ากับเสียงหัวเราะเย้ยหยันดังสะท้อนไปมา บาดลึกลงไปถึงหัวใจ...ก่อนที่ภาพและเสียงต่างๆ จะวูบวับดับหายไปในพริบตา!

จนกระทั่งถึงกลางเดือนมกราคม 2550 เทศกาลพืชสวนโลกอันยิ่งใหญ่ตระการตาใกล้จะถึงวันสิ้นสุดลง นักท่องเที่ยวยิ่งแห่แหนกันจากทุกสารทิศ เพื่อมาชมความงามของพืชพันธุ์สวยงามจากทั่วโลกที่นำมาแสดงเป็นครั้งแรกในประเทศไทย

วันศุกร์ที่ 19 มกราคม คณะครูและนักเรียนจากอำเภอโป่งน้ำร้อน จังหวัดจันทบุรี เกือบ 50 ชีวิต ได้เหมารถบัสมาท่องเที่ยวทัศนศึกษาที่เชียงใหม่และเชียงราย แต่ต้องประสบกับอุบัติเหตุร้ายกาจที่โค้งมรณะในอำเภอดอยสะเก็ด...ตายหมู่อย่างน่าอเนจอนาถถึง 21 คน สร้างความสะเทือนใจให้ผู้พบเห็นอย่างเหลือประมาณ

ร่างกายโชกเลือดเหวอะหวะน่าสยดสยอง กระเด็นกระดอนลงไปกองเกลื่อนกลาดเต็มถนน ส่วนใหญ่เสียชีวิตคาที่ บ้างก็คร่ำครวญโอดโอยด้วยความเจ็บปวด ก่อนจะไปสิ้นลมที่โรงพยาบาล

บรรยากาศของความสลดหดหู่แผ่ซ่านไปทั่วทุกหนทุกแห่ง

หลังจากนั้นไม่นานนัก ก็มีการตั้งศาลขึ้นมา 3 ศาล เพื่อให้วิญญาณที่เจ็บปวดและทนทุกข์ทรมานได้มีที่สิงสถิตเป็นหลักแหล่ง เจ้าอาวาสวัดพระบาทปางแฟนและพระสงฆ์สามเณรได้รับนิมนต์มาสวดบังสุกุล อุทิศส่วนกุศลไปให้ดวงวิญญาณของครูและนักเรียนผู้เคราะห์ร้ายโดยทั่วถึงกัน

อนึ่ง เป็นเครื่องเตือนใจให้ผู้ใช้รถพึงตั้งตนอยู่ในความไม่ประมาท นับแต่นั้นมา ก็ไม่ปรากฏว่ามีอุบัติเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นที่โค้งมรณะแห่งนั้นอีกเลยจนตราบทุกวันนี้!

ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก โดย ใบหนาด - ข่าวสด หน้า 21 - ฉบับวันที่ 7 มีนาคม 2551

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น