27 มีนาคม 2559

เปรตที่ปากน้ำ

"คนเก่า" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากแม่กลอง

ถึงแม้ว่าจะเป็นรุ่นเก่าแต่ก็ยังไม่ถึงกับแก่ อายุเป็นเพียงตัวเลขเท่านั้นนะครับ อย่าไปคิดอะไรมาก นักกีฬาทีมชาติบางท่านอายุตั้ง 55-56 ปีแล้ว มาออกทีวีเห็นแล้วยังตกใจ...ขนาดท่านอาวุโสกว่าผมเกือบ 10 ปียังดูหนุ่มกว่าผมซะด้วยซ้ำไป!

กินอาหารที่มีประโยชน์ พักผ่อนนอนหลับอย่างพอเพียง ออกกำลังกายเช้า-เย็น วันละไม่ต่ำกว่า 1 ชั่วโมง จนกว่าเหงื่อจะซึมแผ่นหลัง ร่างกายหลั่งสารเอนโดฟีน-หรือ "สารแห่งความสุข" ออกมา

อย่าสูบบุหรี่ เพราะควันพิษทำให้เกิดโรคร้ายได้เป็นร้อย! อย่าดื่มสุรา...แอลกอฮอล์วันละ 1-2 แก้ว อาจจะช่วยให้หัวใจสูบฉีดเลือดได้ดี เกิดความกระปรี้กระเปร่า หลายๆ คนเชื่อว่าเป็นยาบำรุงหัวใจ แต่ผมว่าอย่าไปข้องแวะกับน้ำเมาดีกว่า เพราะดื่มเข้าไปแก้วสองแก้วแล้วมักจะติดลม เตลิดไปเป็นกั๊กเป็นแบน หรือกลายเป็นกลมได้ง่ายๆ

อย่างน้อยที่สุด แอลกอฮอล์ก็จะไปสะกดต่อมสามัญสำนึก หรือความรู้สึกผิดชอบให้หยุดทำงาน ที่ว่ากินเหล้าแล้วไม่อายก็เพราะพิษสงของไอ้ต่อมนี้เอง!

ข้อสำคัญ วงการแพทย์ได้พิสูจน์แล้วว่า แอลกอฮอล์จะทำให้มองเห็นคู่สนทนาเป็นคนมีเสน่ห์เกินความจริง พูดจาสนุกสนานรื่นเริงจนทำให้หลงเสน่ห์ได้ง่ายๆ ชนิดผู้ชายดื่มเหล้าก็มองเห็นผู้หญิงสวย ถ้าเป็นผู้หญิงก็เห็นหนุ่มหรือแก่กลายเป็นคนเสน่ห์แรง...ปิ้งไปหมด!

แฮ่ะ...ขอใช้ศัพท์วัยรุ่นหน่อยเถอะครับ เดี๋ยวจะหาว่าผมแก่เฒ่าหงำเหงือกจนตกรุ่นเรียบร้อยไปแล้ว...มาถึงปีนี้ เด็กแว้น, เด็กสก๊อย กำลังฮิต...แถวบ้านผมตลิ่งชัน บางบัวทอง ถนนบรมราชชนนีน่ะ เกือบทุกศุกร์เสาร์เพื่อนเล่นบรื้นๆ กันมาเป็นร้อย มีสาวซ้อนท้าย เคยพนันขันต่อกันธรรมดาๆ เดี๋ยวนี้ก้าวหน้ามา "กินหมู่" กับ "กินรถ" กันแล้ว

พูดแล้วทำให้ผมนึกถึงตัวเองสมัยวัยรุ่น ยอมรับว่าแสบสันต์ตามยุคตามสมัยพอๆ กับสมัยนี้แหละน่า แต่ไม่ถึงกับยกโขยงมายึดถนนแข่งมฤตยู หนวกหูชาวบ้าน จนเขาแช่งชักหักกระดูกไปถึงพ่อถึงแม่โน่นแน่ะ

ตอนนั้นผมยังอยู่บางบอนครับ เคยเล่ามาแล้วว่าสมัยก่อนยังเปล่าเปลี่ยวน่ากลัวเพิ่งจะสร้างถนนขึ้นหยกๆ คนมีเงินเริ่มซื้อรถเก๋งรถกระบะออกมาฉุยฉายใช้สอยกันหนาตาขึ้นทุกที ใครค้าขายก็ได้รถนี่แหละช่วยให้เดินทางไปซื้อขายได้สะดวกง่ายดายยิ่งกว่าเดิม

พูดก็พูดเถอะ คำว่ารถยนต์นี่ยังเป็นเสน่ห์ของผู้ชาย เป็นแม่แรงดึงดูดผู้หญิงให้เข้ามาหาได้ทุกยุคทุกสมัย...ผมเองยังวัยรุ่นที่เที่ยวเตร่ไปวันๆ ไม่มีปัญญาซื้อรถเก๋งหรือรถกระบะกับเขาหรอกครับ แต่ก็ได้อาศัยขึ้นรถไปเที่ยวกับพี่ล้วนแกบ่อยๆ

รายนี้รูปหล่อพ่อรวย แถมจีบผู้หญิงเก่งอีกต่างหาก!

มีแฟนอยู่ที่บางบอน 2-3 คนยังไม่พอ ไปได้แฟนคนใหม่ถึงปากน้ำแม่กลองโน่นแน่ะ....ผมติดรถแกไปซื้อของสวนมาขายส่งมั่ง ไปเที่ยวหาน้ำตาลกินมั่ง จะเมามายแค่ไหนไม่ต้องห่วง เพราะพี่ล้วนคอแข็งใจแข็ง แม้ว่าจะเป็น "ขาหญิง-ขาเมา" แต่นิสัยใจคอออกลูกนักเลงได้การ

คืนนั้นเราไปบ้านเมียใหม่พี่ล้วนโดยไม่ได้ตั้งใจ...เพราะความเมาแท้ๆ ที่ทำให้เราไปซื้อของที่นครปฐม แล้วแวะหาอะไรกินกันคนละแบนใหญ่ จะออกรถมุ่งหน้าไปปากน้ำแม่กลองยังอุตส่าห์ซื้อติดรถไปอีกต่างหาก

ท้องฟ้าสะพรั่งไปด้วยดวงดาวเมื่อเราไปจอดรถอยู่ใกล้ๆ วัดประจันตคาม ต้นไม้ใหญ่น้อยยืนต้นทะมึนขึ้นไปบนฟ้า สายลมพัดโชยมาเยือกเย็น สรรพสิ่งเต็มไปด้วยความเงียบเชียบ...มองเห็นเจดีย์สีคล้ำเสียดยอดอยู่ใกล้กำแพงวัด ผมรู้สึกเยือกเย็นอยู่ในหัวใจอย่างบอกไม่ถูก พิษเหล้าก็ดูเหมือนจะหายไปเกือบหมดสิ้น

หยิบขวดใหม่มาเปิดฝา แหงนหน้ากรอกเหล้าลงคอพลั่กๆ เพื่อเติมความหาญกล้าให้ตัวเองซักเล็กน้อย...ขณะที่ใช้หลังมือปาดเหล้าที่มุมปากก็พอดีมองเห็นภาพนั้นเข้าเต็มตา...

นั่นคือ ตาลดำๆ สองต้นกำลังโยกโยกไปมา ท่าทางเหมือนเป็นขาที่กำลังจะก้าวเดินอย่างนั้นแหละ แว่วเสียงวี้ดๆๆ มาพร้อมกับสายลมด้วย พอดีพี่ล้วนดับเครื่องยนต์ เอื้อมมือมาขอเหล้าบ้าง..แกยกขึ้นเทใส่ปากหลายอึกก่อนจะส่งคืนผม

"รออยู่นี่นะโว้ย เดี๋ยวกูมา" ว่าแล้วก็ผลักประตูรถออกเดินดุ่มๆ มาสู่สะพานข้ามคลอง บ้านเมียคนใหม่คือจุดหมายปลายทาง พักใหญ่ก็หายลับไปจากสายตา

ผมกระเดือกน้ำลาย เหลียวซ้ายแลขวา...นึกแช่งชักตัวเองที่ไม่ยอมเมาซักที...ไม่ช้าก็หันไปเจอภาพสยองเข้าเต็มเปา!

นั่นคือร่างของอมนุษย์สูงลิบลิ่วราวต้นตาล เดินโยกเยกเข้ามาหาช้าๆ พลางส่งเสียงวี้ดๆๆ ไปด้วย มือทั้งสองข้างใหญ่เท่าใบลานเพราะบาปกรรมที่เคยทุบตีพ่อแม่ในชาติก่อน มัน "ซาวมือ" เข้ามาหาผมดังแกรกๆ จนผมสั่นเทิ้มไปทั้งตัว หลับหูหลับตากรอกเหล้าลงคอชนิดไม่ยับยั้ง หมาเจ้ากรรมก็ดันหอนโจ๋วขึ้นมาดังบาดใจชะมัด

กาลเวลาเหมือนหยุดนิ่งอยู่กับที่จนผมแทบจะคลั่งใจตาย!

"โอ๊ย! เมื่อไหร่จะมาซักทีโว้ย?" ผมร้องตะโกนด้วยความอัดอั้น ครู่ใหญ่ๆ ก็เห็นพี่ล้วนเดินจ้ำเข้ามาหา พอขึ้นรถก็หันมาขอเหล้าผมอีก...คราวนี้กดพรวดเดียวหมดขวด กว่าจะขับรถออกไปได้

"ไม่รู้ว่าเมียกูนึกยังไง" แกโพล่งออกมา "บอกว่าให้ระวังตัวหน่อย แถวนี้มีเปรตด้วยว่ะ...ขำตายละ!"

ผมพูดอะไรไม่ออกเหมือนมีอะไรมาจุกลำคอ หันไปมองข้างหลังโดยไม่ตั้งใจ...ภาพอสุรกายสูงโย่งเย่งส่งเสียงวี้ดๆๆ ขอส่วนบุญค่อยๆ ห่างออกไปทุกทีจนกระทั่งลับตา!

ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก โดย ใบหนาด - ข่าวสด หน้า 31 - ฉบับวันที่ 27 มีนาคม 2551

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น