"ดาริน" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกเมื่อวิญญาณเด็กกลับมาหาแม่
ลูกสาวของเพื่อนดิฉันจมน้ำตายเมื่อไม่นานมานี้ เธอเล่าว่าลูกมาหา มาให้เห็นทั้งตัวและมาบ่อยด้วย! ดิฉันคิดว่าเธอประสาทหลอนเพราะความเสียใจสุดขีด...แต่ดิฉันคิดผิดค่ะ!
"เอ้" กับดิฉันเป็นเพื่อนรักกันมาตั้งแต่ชั้นประถม เธอเป็นผู้หญิงแกร่ง เรียนเก่ง พอจบ ม.6 เธอก็สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ ขณะที่ดิฉันต้องเรียนมหาวิทยาลัยเอกชน แต่เราก็ยังสนิทสนมกันเหมือนเดิม
เธอเกิดก่อนดิฉันแค่ 2-3 เดือน ทว่าชอบทำตัวเป็นพี่สาว ซึ่งดิฉันก็ชอบนะคะ ยอมให้เอ้เป็นผู้นำมาตลอด เธอนิสัยดีและช่างเป็นห่วงเป็นใย
พอเป็นสาว เรียนจบปริญญาตรีแล้ว เอ้ก็แต่งงานกับพี่ป๊อดซึ่งเป็นนักธุรกิจ...โศกนาฏกรรมในชีวิตของเอ้เริ่มต้นหลังจากแต่งงานได้ปีเดียว! สามีเธออายุสั้นค่ะ เขาหัวใจวายทั้งๆ ที่ยังหนุ่มแน่น ทิ้งให้เอ้เป็นม่ายสาวตั้งแต่อายุ 25 ปี
....ที่น่าสงสารยิ่งกว่านั้นก็คือ เอ้กำลังอุ้มท้อง!
เมื่อน้องปูเป้-ลูกสาวแสนสวยของเอ้เกิดมา เธอก็ค่อยแช่มชื่นขึ้น เอ้อยู่บ้านกับลูกสาวและคุณแม่ของเธอเอง ปูเป้เป็นแก้วตาขวัญใจ เธอสวยเหมือนนางฟ้ามาเกิดยังไงยังงั้น...แต่แล้ววันหนึ่งก็ถึงเวลาสวรรค์มาทวงเธอคืน...
ปูเป้อายุ 8 ขวบค่ะตอนที่จมน้ำตาย!!
เรื่องนี้ไม่น่าจะเกิดขึ้นเลย วันนั้นเธอร้องไห้งอแงเพราะอยากไปบ้านเพื่อน แต่แม่เอ้ไม่ยอม...เวลาที่เกิดสงครามย่อยๆ ในบ้านแบบนี้ ถ้าคนเป็นพ่อเป็นแม่ใจไม่แข็งพอ ลูกก็มักจะเป็นฝ่ายชนะเสมอ กรณีนี้ก็เช่นกัน
เอ้ต้องจำยอมขับรถไปส่งลูกสาวที่บ้านเพื่อนตอนสายๆ ของวันเสาร์...วันเกิดเพื่อนของปูเป้ค่ะ บ้านนั้นเขาจัดงานเบิร์ธเดย์กัน ปูเป้ถึงได้ดิ้นพราดๆ อยากไปจนได้ เอ้ห่วงลูกมาก แต่เธอมีงานด่วนต้องรีบทำให้เสร็จก่อนวันจันทร์ เลยต้องจำใจทิ้งลูกไว้บ้านนั้น แล้วตอนเย็นๆ จะมารับ...
นั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เอ้ได้กอด ได้หอม และได้เห็นหน้าใสๆ ของลูกยามมีชีวิต! เพราะบ่ายนั้นเอง เด็กๆ นับสิบกว่าคนก็เฮกันไปเล่นน้ำในสระของหมู่บ้าน
ที่จริงมีพี่เลี้ยงของเด็กวันเกิดไปดูแลที่ขอบสระว่ายน้ำ แต่ก็นั่นล่ะค่ะ คนเยอะ เด็กเยอะ ตาลายไปหมด...พี่เลี้ยงก็เป็นเพียงเด็กต่างจังหวัดอายุไม่เท่าไหร่ ใครจะไปจับตาจ้องมองอยู่ตลอดเวลา เจ้าหล่อนมัวแต่คุยเล่นกับเพื่อนบ้าน
แต่จะโทษพี่เลี้ยงเด็กคนนี้คนเดียวก็ไม่ถูกหรอกค่ะ! มันน่าแปลกมาก คนทั้งสระไม่รู้เลยว่า มีเด็กหญิงคนหนึ่งตะเกียกตะกายแล้วจมหายไป น้ำในสระก็ใส แต่ทุกคนกำลังเล่นน้ำตามใจชอบ ไม่มีใครฉุกคิดว่าเธอจมน้ำและขาดใจตาย
เอ้เสียใจแทบไม่เป็นผู้เป็นคน! จากวันนั้น เธอซึมเศร้าไม่พูดไม่จากับใคร แม้จะไปทำงานตามปกติแต่ไม่เหมือนคนเดิมเสียแล้ว พอตกกลางคืนก็หมกตัวอยู่ในห้อง นอนซมบนเตียงที่เคยนอนกับลูกทุกคืน...เอาหมอนลูกมากอด...
ดิฉันกลัวว่าเอ้จะคิดสั้น คุณแม่ของเอ้ก็เป็นห่วง คอยปรับทุกข์กับดิฉันบ่อยๆ แม้จะมองไม่เห็นทางแก้ไข ดิฉันก็หมั่นแวะเวียนไปเยี่ยมเอ้ บางทีก็ค้างคืนด้วย
วันหนึ่งเอ้โทร.มาหาดิฉัน สุ้มเสียงแจ่มใสจนน่ากลัว เธอบอกว่าปูเป้มาหาตอนกลางดึก ดิฉันฟังแล้วนึกในใจว่าเอ้ฝัน...และถือว่าฝันนั้นจริงจัง!
"ปูเป้มาจริงๆ นะ แต่งชุดนอนสีชมพูที่ใส่ลงโลง! แกน่ารักเหมือนเดิมไม่มีผิด"
เอ้เล่าว่ากำลังนอนคิดถึงลูกในความมืดสลัวของห้อง เธอกอดหมอนที่ปูเป้เคยนอน และทันใดนั้น ก็มีแสงเรืองๆ สีเขียวอมฟ้าที่ปลายเตียง...แล้วปูเป้ก็ปรากฏร่างในวงแสงนั้น! แค่นี้เอ้ก็แช่มชื่นเหมือนต้นไม้ได้น้ำ เธอเชื่อว่าลูกกลับมาจากความตายได้จริงๆ
ไม่ใช่หนนั้นหนเดียว ปูเป้มาหาแม่บ่อยขึ้นๆ เอ้เล่าทุกครั้งที่เธอมา...พอถึงตอนนี้ดิฉันชักคิดว่าเอ้เศร้าโศกแสนสาหัสจนประสาทหลอนไปเสียแล้ว!
ในที่สุด เอ้ก็ชวนดิฉันไปค้างที่บ้าน ในห้องเดียวกับเธอ เจตนาก็คือจะให้ดิฉันได้พบปูเป้ด้วยกับเพื่อเป็นการยืนยัน ที่สำคัญ เอ้ไม่คิดว่าลูกเป็นผีเป็นสาง เธอบอกว่าลูกเป็นเด็กที่งดงามน่ารัก...
มันน่ารักน่าชมสำหรับเอ้ แต่สำหรับดิฉันแล้วมันน่ากลัว น่าสยองมากค่ะ!
คิดดูซิคะ ดิฉันต้องอยู่ในห้องนอนมืดๆ แอร์เย็นจัด มีแม่ของเด็กที่ตายไปแล้วจดจ้องไปรอบๆ ห้อง รอการปรากฏตัวของวิญญาณ...เราต้องนั่งเงียบๆ นิ่งๆ และรอคอย
เวลาผ่านไปเป็นชั่วโมงๆ ดิฉันเหลือบมองนาฬิกาที่เป็นเลขเรืองแสง มันบอกเวลาตีสอง! ดิฉันฝืนตาไม่ไหวก็เอนศีรษะลงซบกับพนักหัวเตียง เราสองคนกำลังนั่งอยู่ค่ะ ไม่ได้นอน...พอใกล้จะหลับก็ได้ยินเสียงเอ้หัวเราะเบาๆ ทักทายลูก
ดิฉันลืมตาทันที ขนลุกซ่า ได้ยินเสียงเด็กหัวเราะมาแว่วๆ
เอ้บอกว่าปูเป้มายืนที่ข้างเตียง ข้างดิฉัน...จากนั้นก็ลอยขึ้น แล้วข้ามมาหาเธอ
ดิฉันไม่เห็น แต่เอ้พากย์ให้ฟังตลอด...มันน่ากลัวจริงๆ จะว่าเอ้หลอนไปคนเดียวก็ไม่ใช่ เพราะดิฉันได้ยินเสียงเด็กหัวเราะ ได้กลิ่นคลอรีนแบบในสระว่ายน้ำ! แค่นั้นก็เชื่อแล้วละค่ะ
ดีใจกับเอ้ด้วยที่เธอติดต่อกับวิญญาณลูกได้ ดิฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่ามีแบบนี้ในโลกด้วย แต่ตอนนี้เถียงไม่ออก...ประสบการณ์คืนนั้นมันหลอนมาจนทุกวันนี้!
ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก โดย ใบหนาด - ข่าวสด หน้า 31 - ฉบับวันที่ 6 มีนาคม 2551
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น