23 มีนาคม 2558

ใต้สระบัว

"พิ้งค์" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากสระผีสิง

หลายปีก่อนโน้น ตอนที่ดิฉันเป็นนักศึกษาอยู่ คุณพ่อได้ช่วยเหลือคนรับใช้ของเราคนหนึ่งให้พ้นจากหนี้สิน ด้วยการซื้อที่ดิน 9 ไร่ของเธอ พี่เอี้ยงเป็นคน พันดุง โคราชนี่เอง

เมื่อได้เงินก้อนจากการขายที่ เธอก็ปลดหนี้ได้ แถมเหลือเงินไปให้แม่อีกด้วย

มาถึงปี 2548 เธอบอกว่ามีคนมาติดต่อขอซื้อที่ 9 ไร่นั้น ให้ราคาดีด้วย คุณพ่อตกลงและให้ดิฉันไปจัดการ นานๆ ได้ออกต่างจังหวัดทีดิฉันก็ดีใจ อีกทั้งเป็นการ ได้ไปบ้านพี่เอี้ยง โชคดีที่ดิฉันทำงานกับบริษัทของครอบครัว เลยมีอิสรเสรีพอสมควร

ขอลางานแค่จันทร์กับอังคารเท่านั้นค่ะ ทำธุระเรื่องที่ดินเสร็จก็กลับกรุงเทพฯ เลย

เราออกเดินทางด้วยรถไฟตอนเช้าวันอาทิตย์ ไปกับพี่เอี้ยงและน้องกิ่ง-น้องสาวของดิฉันเอง เราไปถึงบ้าน พี่เอี้ยงตอนบ่ายแก่ๆ อือม์...บ้านนี้สวยเชียวล่ะ เป็นบ้านไม้สองชั้นทาสีฟ้า ตั้งอยู่ในอาณาบริเวณกว้างขวาง มีสวนครัว มีรั้วไม้ไผ่ล้อมอย่างเรียบร้อย

แม่พี่เอี้ยงอยู่ชั้นล่างเพราะแกแก่แล้ว ขาไม่ดี อีกอย่างหนึ่งจะเข้าห้องน้ำห้องท่าก็สะดวก ไม่ต้องขึ้นบันไดให้เหน็ดเหนื่อย ดิฉันเรียกว่าป้าอิ่ม

บ้านนี้ยังมีน้องชายพี่เอี้ยงชื่อ นาย อายุ 15 ปี ส่วนพี่น้องท้องเดียวกันอีกห้าคนแยกย้ายไปทำงานกรุงเทพฯบ้าง ซาอุฯ กับไต้หวันบ้าง ต้องเรียกว่า...หากินกันตัวเป็นเกลียว!

เย็นวันอาทิตย์นั้นพวกเราสนุกมากค่ะ

พี่เอี้ยงไปตลาดซื้อกับข้าวที่ดิฉันกับน้องกิ่งชอบมาก มาทำกินกันอย่างเอร็ดอร่อย กว่าจะเสร็จเรียบร้อยราว ห้าโมงเศษ นายกับพี่เอี้ยงพาดิฉันกับน้องกิ่งไปดูสระบัว สวยจริงๆ ค่ะดอกบัวขาว บัวแดงบานสะพรั่ง เห็นแล้วน่าว่ายน้ำลงไปเก็บเหลือเกิน

สระนี้กว้างอย่างกับสนามฟุตบอลเลย และอยู่ไม่ไกลจากรั้วบ้านนัก ราวๆ 15 เมตรได้ เวลามองจากหน้าต่างชั้นบนจะเห็นสระอย่างชัดเจน ตอนเย็นลมพัดโชยแทบไม่ขาดสาย มีชาวบ้านมาปูเสื่อนั่งเล่นริมสระอยู่หลายคน ร้องทักทายกับพี่เอี้ยงกันแทบทุกคน

ตกกลางคืน พอกินข้าวอาบน้ำเสร็จก็เตรียมเข้านอน พี่เอี้ยงกางมุ้งให้เรานอนชั้นบน อากาศคืนนั้นไม่ร้อนเลย แถมยังมีพัดลมตั้งโต๊ะตัวหนึ่งด้วย คนต่างจังหวัดเขานอนหัวค่ำกันค่ะ สามทุ่มก็นอนกันแล้วเพราะต้องตื่นแต่เช้า

ดิฉันกับกิ่งนอนไม่หลับ คงจะเป็นเพราะแปลกที่...เลยลุกมานั่งเล่นที่หน้าต่าง

คืนนั้นเดือนหงายกระจ่างฟ้า ทั่วบริเวณดับไฟมืดแล้ว แสงจันทร์ดูสว่างมากค่ะ...สว่างจนเห็นสีฟ้าๆ ของตัวบ้าน ดิฉันมองไปทางสระบัว มันดูลึกลับเหมือนมิติพิศวงยังไงไม่รู้ อาจจะเป็นเพราะแสงจันทร์ก็ได้

ทันใดนั้น ดิฉันเห็นกอบัวกลางสระกระเพื่อมเป็นแพ และแล้วก็มีร่างของผู้หญิงคนหนึ่งกับเด็กอีกคนว่ายน้ำจากตรงนั้นมายังฝั่ง

เออแน่ะ...สามทุ่มป่านนี้คงจะมาว่ายน้ำเล่นกันมั้ง? ดิฉันไม่ได้คิดอะไรมาก เฝ้ามองพวกเขาเฉยๆ มองจนเขาขึ้นฝั่งแล้วเดินขึ้นมา เด็กน่ะตัวผอมเชียว อายุราว 7-8 ขวบ นุ่งขาสั้น เสื้อยืดคอกลมเปียกโชก ผมตัดแค่หูตามแบบเด็กนักเรียน

ส่วนผู้หญิง! ดิฉันถึงกับอุทานกับน้องกิ่ง...ผู้หญิง คนนั้นผมยาวมากเลยเอวอีกค่ะ ผมเปียกลู่ รูปร่างบอบบางและเธอกำลังมีครรภ์ ท้องใหญ่กลมเห็นชัดเจน ท้องแก่ด้วย! เอ...คนท้องไม่น่ามาเล่นน้ำดึกๆ ดื่นๆ โบราณเขาถือไม่ใช่หรือคะ?

เด็กกับผู้หญิงท้องแก่นั่น พอขึ้นจากสระก็เดินหายไปทางโน้น มีไม้ล้มลุกขึ้นเป็นดงพอสมควร...เรานั่งเล่นอีกสักพักก็เข้ามุ้งนอน คราวนี้หลับสบายมาก ตื่นตอนเจ็ดโมงเช้า ได้กลิ่นข้าวต้ม ไข่เจียว ยำกุ้งแห้ง ผัดผักบุ้งกับเต้าเจี้ยว และปลาเค็มทอดหอมฉุยยั่วน้ำลาย

ตลอดวันจันทร์ ดิฉัน กิ่งและพี่เอี้ยงต้องแกร่วอยู่ที่อำเภอ แต่ทุกอย่างก็เรียบร้อยค่ะ คืนนี้จะนอนที่พันดุงอีกคืน แล้วกลับบ้านบ่ายวันอังคาร

คืนวันจันทร์เรายังดื่มด่ำกับบรรยากาศชนบท มันเหมือนได้ไปพักผ่อนชายทะเลเลยล่ะ ดิฉันชอบวิว สระบัวนั้นมาก ยังใช้มือถือถ่ายรูปเก็บไว้ตั้งหลายรูปแน่ะ...นี่เป็นอีกคืนที่ดิฉันกับน้องกิ่งนั่งเล่นริมหน้าต่าง มองดู สระบัวกลางแสงจันทร์ อากาศค่อนข้างเย็น

และแล้วกอบัวกลางสระก็กระเพื่อมขึ้นอีกเหมือน คืนก่อน...

ดิฉันตาฝาดไปหรือเปล่า? ผู้หญิงกับเด็กคนเดิมกำลังว่ายน้ำเข้ามา...ทุกอย่างเหมือนฉายหนังซ้ำไม่มีผิด! เห็นแล้วใจคอเสียววูบวาบชอบกล

รุ่งขึ้นตอนลงไปนั่งกินโจ๊กกับปาท่องโก๋ ดิฉันเอ่ยถึง ผู้หญิงท้องแก่กับเด็กในสระบัวขึ้นมา พี่เอี้ยงทำช้อนตกดังเปรื่อง ไอ้นายร้องเหวอ...ป้าอิ่มหัวเราะหึๆ ร้อง...ข้าว่าแล้ว!

ดิฉันเย็นวูบไปทั้งไขสันหลังเมื่อนึกอะไรขึ้นมาได้ พี่เอี้ยงทำท่าขนลุกขนชันก่อนจะหลุดปากเสียงสั่นเครือ....นึกว่าแม่ลูกที่ตกน้ำตายคู่นั้นไปผุดไปเกิดตั้งนานแล้วเสียอีก

เราสองพี่น้องกินอะไรไม่ลง ได้แต่มองสบตากัน... ขนหัวลุกน่ะซีคะ!

ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก โดย ใบหนาด - ข่าวสด หน้า 26 - ฉบับวันที่ 20 พฤศจิกายน 2557

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น