10 มีนาคม 2558

เย้ยมฤตยู

"ตี๋น้อย" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากปีศาจรถซิ่ง

สมัยเด็กผมอยู่ที่ซอย 8 ถนนสุทธิสาร ซอยนี้ลัดเลาะไปออกซอยสายลม สนามเป้าได้นะครับ ตอนนั้นการแข่งรถซิ่งกำลังดังมาก นักซิ่งมักนัดแนะเจอกันที่สี่แยกถนนวิภาวดีคืนวันศุกร์กับวันเสาร์ซิ่งกันคึ่กๆ เป็นประจำ ตำรวจก็ไม่อยากแยแสเท่าไหร่

ใกล้บ้านผมมีนักซิ่งชื่อเฮียเซ้งวัย 20 ต้นๆ ตอนกลางวันช่วยเตี่ยขายข้าวขาหมูหน้าตลาดจอมมาลี ตกค่ำชอบบึ่งรถออกเที่ยว ไปหาเพื่อนฝูงบ้าง ไปแต่งรถบ้าง

ย่านสุทธิสารนี่มีร้านแต่งรถอื้อซ่ามานมนานแล้วล่ะครับ

เฮียเซ้งบอกว่ากฎหมายห้ามเปลี่ยนแปลงสภาพรถ แต่ไม่ได้ห้ามเปลี่ยนอุปกรณ์ พวกกระจก โคมไฟ เครื่องเสียงรวมทั้งท่อไอเสีย ใครมีเงินก็เชิญแต่งรถได้ตามใจชอบ แต่การทะลวงท่อไอเสียดังแสบแก้วหู กวนประสาทชาวบ้านสุดๆ น่ะผิดกฎหมาย ยกเว้นแต่จะติดเครื่องกรองเสียงไม่ให้ดังเกินกำหนด

พูดก็พูดเถอะครับ นักซิ่งอยากเท่ อยากอวดสาว แต่สุ้มเสียงเบากว่าเพื่อนๆ น่ะเขาว่ามันเสียศักดิ์ศรีครับ!

ถ้าไม่อยากเด่น เป็นจุดสนใจผู้คนแล้วจะเป็น นักซิ่งไปหาสวรรค์วิมานอะไรล่ะ?

บอกตรงๆ ว่าโตขึ้นผมอยากเป็นนักซิ่งกับเขามั่ง เพราะคิดว่าเท่ดี! พี่ชายผมอายุ 17 ก็รบเร้าขอแม่ซื้อมอเตอร์ไซค์แต่แม่ส่ายหน้าลูกเดียว หนักเข้าพี่ผมเลยบอกว่าจะเก็บค่าขนมไปดาวน์เอง ผ่อนเอง ไม่ให้พ่อแม่เดือดร้อน

พ่อหัวเราะหึๆ แต่แม่พูดเรียบๆ ว่า...ถ้าลูกซื้อรถวันไหนแม่จะผูกคอตายวันนั้น! พี่ผมเลยจ๋อยสนิทตั้งแต่นั้นมา

วันหนึ่งก็เกิดเหตุการณ์สยองขวัญขึ้นกะทันหัน!

เฮียเซ้งขี่รถออกจากบ้านเย็นวันเสาร์ ผมยืนเกาะรั้วมองตาละห้อย เฮียก็จอดรถทักทาย ถามจี้ใจว่า...อยากซ้อนท้ายไปเที่ยวไหมวะไอ้ตี๋? ไปชมวิวที่วิภาวดีฯ ซะหน่อยแล้วจะพามาส่ง หรือจะไปทางสะพานควายก็ได้ รับรองว่าอั๊วไม่พาลื้อไปตายโหงหรอกโว้ย

ผมกระเดือกน้ำลาย มองดูรถสวยๆ สีแดงแปร๊ด รู้ดีว่ามันห้อตะบึงปานลมพัดได้แค่ไหน แต่นึกถึงแม่ก็ต้องส่ายหน้าเศร้าๆ เฮียเซ้งหัวเราะรู้ทัน ก่อนจะพุ่งรถลิ่วไปปากซอย

ปรากฏว่าคืนนั้นเป็นการซิ่งรถแข่งครั้งสุดท้ายของเฮียเซ้ง!

จากสี่แยกสุทธิสารไปสามเหลี่ยมดินแดง ยังไม่เกิดเหตุร้าย กระทั่งขากลับบึ่งกันมาถึงหน้าสนามกีฬากองทัพบก ใกล้จะถึงบ้านอยู่แล้วเชียว รถเฮียเซ้งเกิดไปสะกิดกับเพื่อน ล้มคว่ำคะมำหงาย กลิ้งหลุนๆ เป็นลูกขนุนไป ทั้งคู่

เพื่อนแค่ถลอกปอกเปิกเหลือเชื่อ แต่เฮียเซ้งกะโหลกแตก แขนขาหัก นอนตายจมกองเลือดอยู่ข้างถนนนั่นเอง!

เตี่ยกับแม่เฮียเซ้งร้องไห้คร่ำครวญเหมือนจะขาดใจตายตาม แม่เอาแต่ตีอกชกหัวว่า...อั๊วห้ามมันแล้วก็ไม่ฟัง พูดอะไรมันก็บอกว่ารู้แล้วๆ อยากแข่งก็แข่งในสุทธิสารเถอะ แต่มันบอกว่าไม่สนุกเหมือนถนนใหญ่...แล้วเป็นไงล่ะ?

เมื่อเผาศพเฮียเซ้งไปแล้ว นักซิ่ง 2-3 คนในซอยเราเก็บตัวเงียบ บางคนโดนแม่ล็อกรถไว้เลย แต่ได้ข่าวว่านักซิ่งคนอื่นๆ ก็ยังนัดไปประลองความเร็วกันตามเดิม

ตอนกลางคืนมักมีเสียงหมาหอนโหยหวนมาจากปากซอย รับกันเป็นทอดๆ เข้ามา บรรยากาศวังเวงใจน่ากลัว...ชาวบ้านพูดกันว่าวิญญาณเฮียเซ้งกลับมาหาเตี่ยหาแม่ล่ะกระมัง?

ส่วนมากตกค่ำก็ปิดประตูดับไฟเข้านอนกันเงียบ จนกระทั่งมีเหตุการณ์เขย่าขวัญอุบัติขึ้นมาไล่ๆ กัน!

นั่นคือ...มีเสียงรถมอเตอร์ไซค์แล่นเข้าซอยมาช้าๆ หมูหมาหอนระงม...ใครๆ ก็จำได้ว่าเป็นเสียงรถเฮียเซ้งที่เจ้าของกลายเป็นเถ้าถ่านไปแล้ว

คืนหนึ่ง ผมกำลังจะเคลิ้มหลับอยู่แล้ว เสียงหมาเห่าหอนกันขรมทำให้ลืมตาตื่น เกือบพร้อมๆ กับที่เสียงมอเตอร์ไซค์ดังแว่วมาเข้าหู

เฮียเซ้ง! ปากคอผมแห้งผากไปหมด มือเท้าเย็น ใจเต้นโครมๆ หลับตาปี๋ขณะที่เสียงรถแล่นช้าๆ เข้ามาจอดหน้าบ้าน...ผมกลัวจนแทบสติแตก ลุกพรวดไปจ้องมองทางหน้าต่างมุ้งลวดไม่รู้ตัว...แล้วผมก็ได้เห็นภาพที่จะไม่มีวันลืมได้เลยจนกว่าจะถึงวันตาย!

มอเตอร์ไซค์สีแดงคันนั้นจอดอยู่ข้างรั้วไม้ระแนง แสงไฟฟ้าริมทางส่องให้เห็นเฮียเซ้งนั่งถ่างขาคร่อมอาน ตัวแข็งทื่อจ้องมองไปข้างหน้า...ก่อนจะค่อยๆ หันมาทางผมเชื่องช้า แต่แน่นอนเหนือสิ่งอื่นใด

ปากเปรอะเลือดเผยอนิดๆ ได้ยินว่า...ไปนั่งรถเที่ยวกันไหมไอ้ตี๋? ผมรู้สึกเหมือนโลกถล่ม ฟ้าทลาย ภาพต่างๆ ดับวูบ...แผดร้องสุดเสียงก่อนจะสิ้นสติไปบัดดล!

ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก โดย ใบหนาด - ข่าวสด หน้า 26 - ฉบับวันที่ 10 พฤศจิกายน 2557

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น