คราวนี้มาดูธรรมเนียมทั่วๆ ไปของไทยเกี่ยวกับงานศพที่ตายด้วยโรคภัยไข้เจ็บ รวมทั้งการป้องกันอันตรายจากผีๆ สางๆ ที่เชื่อถือกันมาตั้งแต่โบร่ำโบราณ ถึงแม้ในปัจจุบันนี้จะซาๆ ไปตามยุคสมัย แต่ตามชนบทอีกมากมายก็ยังรักษาขนบเก่าๆ เอาไว้อย่างเคร่งครัดตามสมควร
อย่างแรกก็คือการอาบน้ำชำระล้างร่างกายของผู้ตาย อาจจะถึงกับทาขมิ้นดินสอพองในวันแรก แต่งกายให้อย่างสวยงามหรือเต็มยศใหญ่ ด้วยความเชื่อมั่นว่าจะได้ไปเกิดใหม่ด้วยความสะอาดสะอ้าน หรือดูภูมิฐานจนท่านผู้เป็นใหญ่ในยมโลกรู้สึกเคารพนับถือ อย่างน้อยก็เกรงเนื้อเกรงใจ ไม่กล้าทำอะไรหักหาญรุนแรงนัก
ผีมีเส้น! ว่างั้นเถอะ
อย่างต่อมาก็คือการซื้อที่ซื้อทางให้ผี ไม่ว่าจะเป็นตอนบรรจุฮวงซุ้ยหรือยกโลงขึ้นเผาบนเมรุก็ตาม
ถ้าเป็นฮวงซุ้ยก็จะใส่เงินไว้ข้างโลงก่อนที่สัปเหร่อจะโบกปูนปิด แต่ถ้าเป็นตอนเผาจี่ก็จะเอาเงินใส่ในโลงก่อนจุดไฟ แต่บางแห่งก็เอาเงินยัดปากเรียกว่า "เงินปากผี" โดยญาติมิตรผู้ใส่เงินนั้นมักจะทำปากขมุบขมิบ หรือบอกกล่าวให้ชัดแจ้งไปเลยว่า...ให้เอาเงินไปซื้อที่ซื้อทาง!
ที่ทางอะไร?
ในเมืองผี หรือโลกของผีมีการซื้อขายที่ดินกันด้วยหรือ?
สาเหตุก็เพราะเชื่อถือกันว่า ป่าช้าทุกแห่งย่อมมีศพมากมายก่ายกอง ตายทับตายถมกันมาไม่รู้ว่ากี่ร้อยกี่พัน อาจจะนับเป็นหมื่นๆ ศพแล้วก็เป็นได้ ขนาดเป็นบ้านช่องหรือที่ทางทั่วไป คนไทยยังเชื่อถือว่ามีเจ้าที่เจ้าทางคอยดูแลอยู่แท้ๆ นี่นา แล้วนี่เป็นป่าช้าน่าสะพรึงกลัวน้อยอยู่หรือนั่น ก็ย่อมจะมี "นายผี" หรือ "เจ้านายของผี" ผู้เป็นใหญ่คอยดูแลคุ้มครองอยู่เป็นมั่นคง
ขืนน้องใหม่โผล่เข้าไปถึงตัวเปล่าๆ ขัดสนเงินทอง ไม่มี "ส่วย" ไปจิ้มก้อง มีหวังถูกขับไล่กระเจิดกระเจิงเป็นสัมภเวสี-ผีไม่มีศาล เที่ยวเร่ร่อนขอส่วนบุญยาไส้ไปวันๆ หรือไม่งั้นก็จะโดนรังแกต่างๆ นานา เหมือนมนุษย์ที่บากหน้าไปอาศัยในบุญเขาอยู่
เออ! มีเงินทองไปจ่ายเป็นค่าที่ทางที่จะต้องอยู่อาศัยไประยะหนึ่ง นายผีก็คงต้อนรับขับสู้ด้วยความเต็มอกเต็มใจแน่นอน
อย่าหลงคิดว่าในเมืองผีไม่ต้องใช้เงินใช้ทองไปเชียว ไม่ว่าผีไทยหรือผีจีนก็ครือกัน เพราะผีไทยต้องใช้เงินซื้อที่ ผีจีนก็ได้อาศัยเงินกงเต๊กที่ญาติมิตรเผาอุทิศไปให้ใช้สอยในเมืองผี จะได้ซื้อสุราอาหาร หรือจับจ่ายยามเที่ยวเตร่โรงน้ำชา โคมเขียวโคมแดงแก้เหงา อ้อ...ไหนจะจิ้มก้องเงี่ยมล่ออ๋อง-ผู้เป็นนายใหญ่ในเมืองผีให้ได้รับความสะดวกสบายอีกต่างหาก
ผีที่ไหนไม่ชอบเงินมั่งล่ะ? พูดเป็นภาพยนตร์อินเดียไปได้ ภาษิตจีนยังบอกไว้นี่นาว่า...มีเงินก็ใช้ผีโม่แป้งได้!
เมื่อใส่เงินให้ผีติดตัวไปซื้อที่ซื้อทางแล้ว ก็ยังเผาผีไม่ได้ ทั้งเมรุปูนหรือเมรุลอย (ที่เรียงฟืนเผากันบนดิน) ต้องมีการโปรยทานหรือหว่านเงินจำนวนหนึ่ง ซึ่งเป็นเหรียญ 10-20 สตางค์ สมัยก่อน มาถึงเหรียญบาท เหรียญ 5 บาท 10 บาทในสมัยนี้ สุดแท้แต่เจ้าภาพว่าจะมีกำลังมากน้อยเพียงไหน
เชื่อกันว่าคนที่มาแย่งทาน ซึ่งส่วนมากเป็นเด็กวัดหรือเด็กๆ ในละแวกนั้น เมื่อตายไปแล้วจะต้องกลายเป็นทาสรับใช้ผีที่ญาติโปรยทานให้ เหมือนกับเป็นการซื้อตัว หรือเบาะๆ ก็จ่ายมัดจำล่วงหน้า
ดูๆ ไปก็เหมือนกับการ "ตกเขียว" แฮะ!
จากนั้นก็มีการแจกดอกไม้จันทน์ให้ญาติมิตร แขกเหรื่อทั้งหลายนำไปวางที่เมรุหน้าโลงศพ เป็นการขอขมาลาโทษ อโหสิกรรมกันเป็นครั้งสุดท้าย กับขอให้วิญญาณจงไปสู่ สุคติในสัมปรายภพเทอญ
มีการร้องห่มร้องไห้ หรือกรีดน้ำตากันตามธรรม เนียมเพื่อแสดงความโศกเศร้า หรือยืนยันว่านี่เป็นงานศพนะยะ ไม่ใช่งานวิวาห์หรอก จะบอกให้...ปัดโธ่!
ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก โดย ใบหนาด - ข่าวสด หน้า 31 - ฉบับวันที่ 13 ตุลาคม 2552
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น