เรื่องภูตผีปีศาจประเภทผีหลอกวิญญาณหลอน เป็นของคู่กับมนุษย์มาตั้งแต่สมัยดึกดำบรรพ์ โดยเฉพาะผีไทยนี่วิจิตรพิสดารเหลือหลาย มีมากมายหลายหลากที่สุดในโลก ดังที่ได้แยกประเภทต่างๆ ไว้ในตอนแรกๆ
เผลอๆ ยังอาจหลงลืม จนหายหกตกหล่นไปอีกหลายชนิดก็เป็นได้
โดยเฉพาะเปรตนี่ยังไม่เคยได้ยินว่าชาติไหนจะมีอสุรกายสูงโย่งเย่งยิ่งกว่าเสาไฟฟ้า หรือใครเคยได้ยินฟังก็ช่วยบอกกล่าวกันบ้างก็จะเป็นพระเดชพระคุณอย่างยิ่ง
เมื่อมีการพิมพ์เผยแพร่เข้ามาในสยามประเทศ จึงมีการเขียนเรื่องภูตผีขึ้นมา
คุณวิจารณ์ ศตสุข อักษรศาสตรบัณฑิตรุ่นเดียวกับจิตร ภูมิศักดิ์ สนอกสนใจเกี่ยวกับเรื่องราวที่เกี่ยวกับภูตผีปีศาจนานาชาติ สะสมหนังสือสารคดีและนิยายเกี่ยวกับ "ผู้ไม่มีร่างกาย" ไม่ว่าผีฝรั่ง ผีแขก ผีจีน ผีญี่ปุ่นและผีไทยเอาไว้มากมาย เคยเล่าให้ผมฟังว่า...เริ่มแรกเป็นบันทึกเรื่องราวของภูตผีปีศาจที่เล่าต่อๆ กันมา ตั้งแต่ผีที่มีชื่อเสียงอย่างแม่นากพระโขนง หรือผีสางนางไม้ทั้งหลายที่คิดว่าเป็นเรื่องน่าตื่นเต้น น่ากลัว จนถึงชวนให้สยดสยองพองขน เช่น ผีตายโหง ผีตายทั้งกลม ผีป่า รวมทั้งผีพยาบาทและผีที่มาขอส่วนบุญ เป็นต้น
เรียกว่าเป็นผีจริงๆ ไม่ใช่ผีหลอกๆ แม้ว่าจะเป็นผีที่มาหลอกหลอนให้ผู้คนอกสั่นขวัญกระเจิงก็เถอะน่า
หรือจะเรียกว่าเป็น "สารคดีปีศาจ" ก็คงได้!
หนังสือที่ว่านั้นเป็นการบันทึกเรื่องจริงที่เล่าสู่กันฟัง เรื่องไหนสนุกสนาน หรือน่าสะพรึงกลัวก็จะนำมาบันทึกไว้ เป็นที่ชอบของผู้อ่านที่มีรสนิยมในเรื่องผีๆ สางๆ ซึ่งส่วนมากมักจะกลัวผี และยอมรับอย่างหน้าชื่นตาบาน มีส่วนน้อยที่ยืนยันว่าไม่กลัวผีเลย แม้ชอบอ่านเรื่องผี...ใครจะทำไม?
นายพันโท พระพินิจสารา เป็นผู้รวบรวมสารคดีปีศาจดังกล่าว จัดพิมพ์เมื่อประมาณปี 2470
ต่อมา เมื่อคุณเวช กระตุฤกษ์ ได้ก่อตั้งสำนักพิมพ์เพลินจิตต์ขึ้นที่แม้นศรี ตรงข้ามวัดสระเกศ ในพ.ศ. 2475 ได้จัดพิมพ์นิยายซึ่งสมัยนั้นเรียกว่า "เรื่องประโลมโลกย์" ราคาเล่มละ 10 สตางค์ ปรากฏว่าขายดีเหมือนเอาไปทิ้งแม่น้ำครั้งละ 2-3 หมื่นเล่ม ขณะที่นิยายซึ่งถือว่า "ชั้นสูง" ราคาเล่มละ 1 บาท สำนักพิมพ์จะพิมพ์เพียง 1 พันเล่มเท่านั้น
เล่มไหนขายได้ 5-6 ร้อยเล่มก็ถือว่าขายดีเต็มทีแล้ว!
...ยกเว้นแต่จะเป็นนักเขียนชื่อเสียงโด่งดัง แฟนๆ ติดเกรียวกราวอย่าง "ศรีบูรพา" "ดอกไม้สด" "หม่อมเจ้าอากาศ ดำเกิง" จึงจะพิมพ์ 2 พันเล่ม แถมขายได้เกือบหมดหรือต้องพิมพ์ซ้ำอีกต่างหาก
มีการสบประมาทกันเองว่านักเขียน 10 สตางค์ เป็น "นักเขียนตลาด" หรือ เขียนให้แม่ค้าอ่านเท่านั้นแหละ
แต่นักเขียน 10 สตางค์ที่ชื่อ เหม เวชกร นี่เองที่เป็นคนเขียนเรื่องผีๆ สางๆ ในรูปแบบนิยาย หรือจะเรียกว่า "ปีศาจนิยาย" เป็นคนแรกของไทยเมื่อปี 2478
"ผี!!" โดยเหม เวชกร จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์เพลินจิตต์
มีพล็อตเรื่องแบบเรื่องสั้น มีตัวละคร มีฉากที่น่าเชื่อถือ มีบรรยากาศที่ชวนให้เยือกเย็นวังเวงใจ โดยเฉพาะต้องมีผู้ไร้ร่างกายมาปรากฏ บางเรื่องอาจมีเพียงกลิ่นหรือเสียงแปลกประหลาดน่าสะพรึงกลัว หรือไม่ก็คุยกันเป็นนานสองนานถึงได้รู้ว่าคุยกับผี
ขายดิบขายดีขายดีชนิดวางแผงพรึ่บเดียวเกลี้ยง!
ต้องพิมพ์ซ้ำพิมพ์ซากหลายครั้งหลายหน เพราะผู้อ่านที่ชอบเรื่องแนวนี้หาซื้ออ่านกันเป็นว่าเล่น ปากต่อปากบอกต่อๆ กันไปว่า "ผีเหม" สนุกนักหนา
เหม เวชกร เลยเขียนเรื่องผีๆ สางๆ ออกมาอีกหลายเล่ม พร้อมกับเขียนภาพปกและภาพประกอบด้วยฝีมือล้ำเลิศระดับบรมครูเองอีกด้วย คนอ่านไม่ว่าจะดูรูปหรืออ่านเรื่องก็จะมีอาการขนลุกขนชันด้วยความหวาดกลัว แต่ชอบบรรยากาศเยือกเย็นวังเวงใจ หรือชอบขนลุกขนพองจับกระดูกเสียแล้ว...ยิ่งขนลุกบ่อยๆ ยิ่งดี
เดี๋ยวนี้มีสำบัดสำนวนสวิงสวายตามยุคสมัยว่า...อ่านแล้วรับรองว่าขนแขนสแตนด์อัพทันใด!
ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก โดย ใบหนาด - ข่าวสด หน้า 31 - ฉบับวันที่ 11 พฤศจิกายน 2552
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น