"แมร์" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากห้องผีสิง
บ้านของหนูอยู่ปราณบุรี แต่หนูสอบเข้ามหาวิทยาลัยราชภัฏได้ที่กรุงเทพฯ แม่ฝากให้หนูอยู่ที่บ้านผู้มีพระคุณ...คือนายเก่าของแม่น่ะค่ะ ทีแรกแม่จะหาหอพักให้หนูอยู่ แต่เผอิญคุณป้าเรวดีท่านนี้ทราบเข้า เลยบอกว่าที่บ้านท่านมีห้องว่างอยู่พอดี
ท่านอยากให้หนูไปพักอาศัยในระหว่างเรียนที่กรุงเทพฯ จะได้ไม่เปลืองค่าใช้จ่าย
ห้องที่ว่านี้สวยนะคะ ไม่ใช่ไม่สวย เดิมเป็นห้องของหลานสาวของคุณป้าเรวดี แต่ตอนนี้เธอไม่อยู่แล้ว
"ไปไหนคะ?" หนูหลุดปากถามกับคุณป้าผู้ใจดี
"ไปอยู่เมืองนอกจ้ะ" ท่านตอบเรียบๆ ซึ่งหนูก็ไม่เอะใจเลยแม้แต่น้อย
บ้านคุณป้าเรวดีอยู่สบายมาก เป็นบ้านเก่าแก่สองชั้น ท่านอยู่กับหลานสองคนเองค่ะ นอกนั้นเป็นคนรับใช้ คุณป้าเล่าว่าเมื่อหลานไม่อยู่...ท่านใช้คำว่า "ไม่อยู่" นะคะ หนูขอย้ำตรงนี้เพราะมีความหมายมาก...
เมื่อหลานไม่อยู่ คุณป้าก็เหลือตัวคนเดียวจริงๆ ท่านเหงามากเพราะบ้านทั้งหลังต้องนอนคนเดียวในห้องหนึ่ง ส่วนพวกสาวใช้ก็มีเรือนพักอยู่ต่างหาก
คุณป้าให้กุญแจบ้านและกุญแจห้องไว้กับหนู ซึ่งหนูต้องไม่ทำหายเป็นอันขาด! หนูจะกลับค่ำก็ได้ ท่านไม่ว่า ขอให้โทรศัพท์มารายงานว่าจะกลับเมื่อไหร่ และไขประตูบ้านเข้ามาเอง...หนูรู้สึกเหมือนเป็นหลานท่านจริงๆ
เคยถามคุณป้าว่าหลานชื่ออะไร? คำตอบคือ "ชลลดา" เพราะมากนะคะ!
ที่หนูอยากรู้และอยากให้ท่านเล่าเรื่องของเธอให้ฟัง ก็เพราะหนูมาขออาศัยอยู่ในห้องของเธอไงคะ...และหนูก็ทราบว่า "คุณชล" อายุเท่าหนูเป๊ะเลย! เธอเป็นลูกของลูกสาวคุณป้า ซึ่งมีร้านอาหารไทยอยู่ในสหรัฐอเมริกาเท่านั้น คุณป้าเรวดีเลี้ยงคุณชลลดามาตั้งแต่เกิด ท่านรักของท่านมาก
ห้องคุณชลลดาทาสีชมพูอ่อน คุณป้าเคยพูดตลกๆ ว่า
"รู้มั้ยห้องสีชมพูน่ะยุงไม่กัด ยุงมันกลัวสีชมพู"
ในห้องนี้มีรูปของคุณชลลดาด้วยค่ะ เธอสวยเชียวละ หนูตั้งไว้บนโต๊ะเครื่องแป้ง ไม่ได้เก็บลงลิ้นชัก เพราะหนูมาคิดว่าตัวเองแค่มาขออาศัย ห้องนี้น่ะของคุณชลลดา! หนูต้องเคารพสถานที่ จริงไหมคะ?
แต่มันไม่แค่นั้นซีคะ หนูแปลกใจสายตาของตัวเองเวลาส่องกระจก สายตาหนูเพี้ยนไป หรือกระจกมันหลอกก็ไม่รู้ เพราะหน้าตาของหนูแปลกๆ ไป ไม่เหมือนตัวหนูเองเลย!
พออยู่ได้ครบสัปดาห์ ความฝันก็เริ่มน่ากลัวขึ้น...
คืนหนึ่ง ขณะที่รู้สึกครึ่งหลับครึ่งตื่น มีผู้หญิงมานั่งข้างเตียง เธอเอียงคอมองมาแบบยิ้มๆ ตอนนั้นหนูรู้สึกเปลี้ยๆ แขนขาอ่อนแรงไปหมด แต่ก็พยายามเพ่งให้ชัดๆ และเห็นถนัดตาว่าเธอคือคุณชลลดานั่นเอง!
ใจหนึ่งหนูคิดว่า...เอ๊ะ! เธอกลับมาแล้วเรอะ ถึงได้มานั่งตรงนี้? แต่อีกใจก็เริ่มหวาดๆ มันเป็นเรื่องผิดปกติมากๆ คือ...มันชักยังไงๆ แล้วซิ! คุณชลลดาบอกว่าหนูน่ารัก และพูดต่ออย่างน่าขนลุกว่า "ไปอยู่ด้วยกันมั้ย?"
ทันใดนั้นเอง ประโยคนี้ทำให้หนูนึกได้ว่า เธอต้องไม่ใช่คนที่ยังมีชีวิตอยู่แน่ๆ เธอถามหนูแบบนี้ได้ไง?
โดยฉับพลัน หน้าของเธอเปลี่ยนไป...จากสาวสวยกลายเป็นใบหน้าของคนตาย...มันซีด แห้ง ปากดำ อ้าปากหวอ...ดวงตาลืมค้างแต่ไร้แวว!
หนูร้องกรี๊ดแล้วสะบัดหลุดจากอาการหนักๆ ไปทั้งร่างคล้ายผีอำ ทันที่ขยับแขนได้ หนูก็รีบเปิดไฟหัวเตียง...อากาศเย็นยะเยือกจนขนลุกซู่ ห้องทั้งห้องดูหลอนมาก หนูรู้สึกว่ามีอะไรบางอย่างอยู่ในห้องนี้ด้วย!!
ใครจะนอนต่อล่ะคะ? หนูถลันออกจากห้องลงไปที่เรือนคนใช้ ไปเคาะประตูพี่สมใจ เธอเปิดรับหนูแล้วพูดว่า "โดนแล้วสิ?!"
หนูไม่โกรธคุณป้าเรวดีหรอกค่ะ สงสารท่านด้วยซ้ำ แต่ก็ต้องขอกราบลาไปหาหอพักราคาไม่แพงนักดีกว่า...
หนูเข้าใจว่าท่านเหงา และอยากให้หนูไปเป็นตัวแทนหลานท่าน...
แหม! เกือบไปแล้วมั้ยล่ะ คนตายแล้วชวนไปอยู่ด้วย มันน่ากลัวน้อยอยู่เรอะคะนั่น! ถึงยังไงทุกวันนี้หนูก็ยังไปเยี่ยมคุณป้าเรวดีเสมอค่ะ เพียงแต่ไม่ย่างกรายไปที่ห้องนั้น...แม้แต่จะเงยหน้ามองขึ้นไปที่หน้าต่างยังไม่กล้าเลยค่ะ!
ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก โดย ใบหนาด - ข่าวสด หน้า 31 - ฉบับวันที่ 4 มิถุนายน 2551
และคุณรู้สิ่งอื่นที่สามารถปรับปรุงของชีวิต? 999 hd movie.com ต้องขอบคุณเว็บไซต์นี้คุณจะสามารถเร็วหาทั้งหมดใหม่หนังที่คุณต้องการที่จะระวังมากบางอย่างได้อย่างง่ายดายและเร็วมากส่วนติดต่อและการค้นหาโดยหัวเรื่องในอดีคุณภาพ
ตอบลบ