"หลานออม" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากวิญญาณพเนจร
"ออม! คืนนี้มานอนเป็นเพื่อนยายนะ...ยายกลัว!"
คุณยายบอกกับผมอย่างน่าสงสาร สิ่งที่คุณยายกลัวก็คือเสียงประหลาดคล้ายตัวอะไรมาวิ่งหนักๆ อยู่ในห้อง มันหลอนมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องนอนมืดๆ อยู่คนเดียว
บ้านผมมีเนื้อที่เกือบสองไร่อยู่แถวบางนานี่เอง...ในอาณาจักรเล็กๆ ของเรานี้มีคฤหาสน์ใหญ่ของคุณตาคุณยาย แม่กับน้าๆ ของผมก็เติบโตที่นี่ สมัยก่อนน่ะผู้คนคึกคักไปทั้งบ้าน ทั้งนายทั้งบ่าว แต่ตอนนี้น้าๆ แต่งงานแยกกันไปหมดแล้ว เหลือแต่น้าแก้วที่นอนห้องเดียวกับคุณยาย สวนคุณตาอยู่อีกปีกหนึ่งของตัวตึก ไกลจากห้องคุณยายเอาการอยู่
แม่ผมเมื่อแต่งงานก็ไม่ได้ย้ายไปไหน แต่ปลูกเรือนเล็กๆ ชั้นเดียวอยู่กับสี่คนพ่อแม่ลูก คือตัวผมกับน้องชาย เรือนของเราห่างจากตัวตึกใหญ่พอสมควร
ทุกคืนวันหยุดสุดสัปดาห์ น้าแก้วจะไปหัวหินเพื่อดูกิจการรีสอร์ตของเราที่นั่น คุณยายก็จะนอนตามลำพัง ดูๆ แล้วก็เวิ้งว้างเหมือนกันเพราะปิดไฟมืดตึ๊ดตื๋อทั้งตึก บางคืนผมมองขึ้นไปแล้วใจหาย อดสงสารคุณยายไม่ได้ว่าคงจะเหงามาก
บางคืนผมนึกอยากจะไปนอนเป็นเพื่อน แต่พวกผมน่ะนอนดึกครับ บางทีตี 3 ตี 4 แน่ะ เพราะเวลาหยุดเทอมหรือวันหยุดสัปดาห์ ผมชอบบรรยากาศกลางคืนมาก ผมกับน้องจะไม่นอน แต่ออกมานั่งเล่นกีตาร์ ฟังเรื่องผีจากรายการพี่ป๋อง หรือนั่งฟังเพลงอย่างได้อารมณ์ก็เลยปล่อยให้คุณยายนอนคนเดียว...แต่ไม่ต้องกลัวหรอก ผมทำหน้าที่ยามเฝ้าบ้านอยู่ที่สนามหญ้าหน้าบ้านนี่เอง!
มีอะไรอย่างหนึ่งในบ้านซึ่งเกิดเป็นประจำทุกคืน จนเรามองเป็นเรื่องปกติธรรมดา ผมว่าบ้านของคุณผู้อ่านก็คงมีเหมือนกัน นั่นคือเสียงวิ่งบนหลังคา หรือฝนฝ้าเพดาน มันคงเป็นหนูหรือกระรอก หรืออาจจะเป็นอีเหมียวด้วยซ้ำ
...บางทีมันวิ่งไล่กันตึงๆ เหมือนฟ้าจะถล่ม ฟังแล้วเสียวไส้จริงๆ
เคยมีอยู่คืนหนึ่งที่ผมอยู่ตามลำพัง เพราะพ่อแม่กับน้องชายไปต่างจังหวัด ผมนอนฟังเสียงไล่โครมครามไปทั้งผืนฝ้าเพดานแล้วก็นึกขนลุก แต่ก็ไม่มีอะไร
เมื่ออาทิตย์ที่แล้วนี่เอง คุณยายมาเล่าว่า คุณตานั่งดูทีวีในห้องคุณยายตอนกลางวัน และได้ยินเสียงประหลาด พอคุณยายกลับจากข้างนอก คุณตาก็บอกว่าในห้องนอนคุณยายมีอะไรแปลกๆ ทีแรกคุณยายไม่เชื่อ คืนนั้นเป็นคืนวันศุกร์ที่ต้องนอนคนเดียว ปรากฏว่าคุณยายโดนเต็มๆ เลยครับ
ทีแรกมันวิ่งบนหลังคาเกรียวกราว แต่จู่ๆ มันก็ย้ายมาวิ่งกันข้างล่าง คือภายในห้องนอน รอบๆ เตียงคุณยายเลยทีเดียว!
ผมฟังแล้วโมโหเลยละครับ มีอย่างที่ไหน มาหลอกคุณยายผมได้ เลยปลอบท่านว่าไม่มีอะไรหรอก หนูเท่านั้นน่ะ! ผมโกรธจริงๆ ด้วย นี่บ้านผมนะ คุณตาคุณยายอยู่กันมาเป็นสิบๆ ปีไม่เคยมีอะไร ผีสางไม่เคยปรากฏ นี่มาจากไหนเนี่ย...มาระรานเราได้ไง?
คืนวันเสาร์ ผมให้คุณยายมานอนห้องผม ตัวผมเองขึ้นไปนอนห้องคุณยายสลับกัน ทีแรกคุณยายไม่ยอมเพราะห่วงผม กลัวหลานจะโดนผีหลอก! แต่ผมบอกว่าไม่ต้องห่วง ผมคิดว่ามันเป็นหนู จะจับมันให้ได้จริงๆ ว่าแล้วก็เอากรงดักหนูขึ้นไปด้วย!
บรรยากาศบนห้องคุณยายนั้น ปกติแล้วอบอุ่นน่าสบายมาก แต่คืนวันเสาร์นั่นผมขนลุกพิกลๆ
หลังจากดูรายการเอเอฟจบ ราวสองยามกว่าๆ ผมก็ปิดทีวี ปิดไฟ นอนลืมตาอยู่บนเตียง ห้องมืดสลัวเพราะมีแสงไฟข้างนอกผ่านหน้าต่างเข้ามา แอร์เย็นฉ่ำ สรรพสิ่งเงียบสงบ...แต่แล้วก็มีเสียงคนย่ำเท้าไปมาบนฝ้าเพดาน
เออ...จริงนะ ผมขนหัวลุก...มันไม่เหมือนเสียงหนูสักหน่อย มันเป็นเสียงคนเดินหนักๆ สักพักมันก็เริ่มวิ่ง เพดานดังตึงๆ แล้วก็เงียบ เดี๋ยวก็วิ่งอีก...
แค่ไม่ถึงอึดใจ เสียงนั้นก็ลงมาดังข้างล่าง คือในห้องผมนี่แหละ!
แปลกมาก...ห้องที่มีแสงสลัวกลับมืดลง มืดสนิทเหมือนเราเข้าถ้ำน่ะครับ แล้วก็มีเสียงกระทืบเท้าดังมากๆ อยู่หลังโต๊ะที่ตั้งทีวี ห่างจากผมราว 5-6 ก้าวเท่านั้นเอง
ผมลุกขึ้นนั่งตัวตรง ปกติผมกลัวผี แต่ตอนนี้บอกแล้วว่าโกรธมาก มันเรื่องอะไร? บ้านผมแท้ๆ ทำมายุ่ง บุกรุกอย่างนี้ได้ไง...มันไม่ถูกต้องจริงไหมครับ? ผมตวาดว่า "หยุดนะ! มาทางไหนไปทางนั้นเลย ผีก็อยู่ส่วนผี นี่มันบ้านเรา เข้ามาไม่ได้ ออกไปเดี๋ยวนี้"
เชื่อไหมครับ? ห้องสว่างขึ้นเหมือนเดิม เออ...มันกลัวผมแน่ะ! ผมรู้สึกได้เลยว่ามันไปแล้ว ไม่มีอะไรอยู่ในห้องอีก ผมสำทับเสียงเขียวว่า "อย่ามาอีกนะ!"
รุ่งขึ้น ผมบอกคุณยายว่าจับหนูได้แล้ว ผมไม่บอกหรอกครับว่ามันเป็นผี ...จากวันนั้นมาถึงวันนี้เกือบ 7 วันแล้ว ไม่มีอะไรเกิดขึ้นอีกเลยครับ!
ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก โดย ใบหนาด - ข่าวสด หน้า 31 - ฉบับวันที่ 3 มิถุนายน 2551
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น