20 พฤศจิกายน 2557

ตำนาน ผีป่าแห่งพงไพร !!!!

สถานที่ป่านั้นเป็น สถานที่ ที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ว่าเมื่อคุณเขาไปแล้วจะเจอกับอะไรบ้าง คุณจึงต้อง เตรียมตัว และ เตรียมใจ เมื่อที่จะต้องเข้าไปสำรวจในป่านั้น เราจึงหยิบยก นำเรื่อง ผีที่มีคนกล่าวถึงเมื่อเข้าไปนำเสนอแก่ทุกท่าน

1. ผีเจ้าป่าเจ้าเขา เป็นผีระดับหวัหน้าที่เป็นใหญ่ กว่าผีป่าไพรทั้งมวล ซึ่งมีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า พระพนัสบดี ที่แปลว่า ผู้เป็นใหญ่แห่งป่า โดยน่าจะมีเพศชายและเพศหญิงคู่กัน เปรียบเสมือนเจ้าพ่อเจ้าแม่ อิทธิฤทธิ์ ของเจ้าป่าเจ้าเขา นั้นจะสามารถให้คุณให้โทษกับผู้ที่ล่วงล่ำเข้าไปในอาณาเขตแห่งป่าได้ ฉะนั้นเวลาไปเที่ยวป่าพรานผู้นำทางหรือท่านผู้รู้มักจะเตือนไม่ให้ทำอะไรที่เป็นการดูหมิ่นดูแคลนและให้เคารพเจ้าป่าเจ้าเขา ซึ่งเป็นเสมือนเจ้าของสถานที่ ถ้าหากตัดไม่ก็ควรบอกกล่าวต่อท่าเจ้าป่าเจ้าเขาก่อน ยิ่งโดยเฉพาะตัดต้นไม้ใหญ่ที่มีอายุยืนด้วยแล้ว ต้องทำพิธีใหญ่ กันเลยทีเดียว

 นอกจากการขออนุญาต เจ้าป่าเจ้าเขาแล้ว ยังต้อง บอกกล่าวต่อบรรดานางไม้หรือรุกขเทวดา ให้ทราบเพื่อท่านจะได้อพยพย้ายไปหาที่สร้างวิมานใหม่ แต่ถ้าตัดส่งเดชไม่บอกกล่าวอาจจะเจอกับอาถรรพ์ก็ได้ อีกทั้ง ยังรวมไปถึงการล่าสัตว์ พรานที่ล่าสัตว์จะต้องตัดเนื้อสัตว์ออกมาส่วนหนึ่งเพื่อวางถวายท่านด้วย นอกจากนี้ ยังรวมไปถึงการปล่อยปลดทุกข์ ของผู้ชายและผู้หญิง ก็ต้องยกมือไหว้ขอขมาต่อท่านด้วย ก่อนธุระ พอระหว่างทำธุระอย่าลืมมองสายซ้ายขวาด้วย อย่าหาว่าไม่เตือน !!!!

 2. กองกอย ซึ่งเป็นหนึ่งในผีไพร มีลักษณะรูปร่างจะเป็นผีที่มีข่างเดียว มีปากเป็นท่อเหมือนแมลงวัน เวลาไปไหนมาไหนจะกระโดดไปด้วยขาเพียงข้างเดียว และส่งเสียงร้องว่า "กองกอย" จึงเป็นที่มาของชื่อที่พากันชาวบ้าน ซึ่งอีกชื่อหนึ่ง ที่นิยมเรียกกันคือ ผี่โป่ง หรือผีโบ่งขาม หน้าตาของผีตนนี้ที่ชาวบ้านพากันเล่า จะมีหน้าตาคล้ายลิงหรือค่าง โดยตามความเชื่อว่ากันผีตนนี้ อยู่ในส่วนหึ่งของผีโป่ง ที่มีหน้าตาคล้ายค่างแก่น่าเกลียด แต่ไม่สามารถปีนต้นไม้ได้ และบางพวกเชื่อกันว่าผีตนนี้จะดื่มเลืดค่างเพื่อความเป็นอมตะ เจ้าผีกองกอย ถูกมาอยู่ในวรรณคดียอดนิยมเรื่องหนึ่ง คือเรื่องพระอภัยมณีด้วย ความเชื่อของผีกองกอย อีกความเชื่อหนึ่ง คือจะนิยมดูดเลือดจากหัวแม่เท้าของคนที่มาค้างแรมในป่า และวิธีการป้องกันคือให้นอน ไขว้ขาหรือเท้าชิดกันทั้งสองข้าง

ความเชื่อของ ผีกองกอย เป็นความเชื่อที่มีการแพร่หลายไปทั่วทุกที่ ไม่ใช่เฉพาะในไทย แต่ยังมีความเชื่อในประเทศมาเลเซีย โดยมีความเชื่อว่าเป็นคนป่าที่มีขาป้างเดียว ไม่มีสะบ้าหัวเข่า รวมถึงที่จีนก็มีความเชื่อของผีตนนี้ ว่าเป็นปีศาจชนิดหนึ่งที่อาศัยอยู่ตามภูเขา มีขาเดียว ตัวเล็ก แต่ผมยาว ตาโต หูแหลม มักจะขโมยอาหารหรือสิ่งของคนเดินทาง และเมื่อถึงวันตรุษจีนจะออกมาอาละวาดในหมู่บ้าน ชาวบ้านที่จีนเชื่อกันว่าเป็นสิ่งอัปมงคล และใครที่จับต้องมันจะเผชิญกับความโชคร้าย หรือเจ็บไข้ได้ป่วย ความเชื่อของผีตนนี้ ไม่หยุดอยู่แค่ในทวีป เอเชียเท่านั้น แต่ในยุโรปก็ยังมี

ทางภาคเหนือมีผีชนิดหนึ่ง ที่สันนิฐานว่าเป็นผีโป่ง ที่เรียกว่า ผีโป๊กกะโหล้ง ซึ่งมีลักษระคล้ายกันว่ามีขาเดียว แต่วิ่งไวเหมือนลมพัด และไม่เคยดูดเลือดคนที่เดินป่า แต่จะชอบที่บแกล้ง บังตา คนเล่น ผีชนิดนี้มีเสียงร้องประจำตัวคือ โป๊กๆๆ กะโหล้ง โป๊กๆๆๆ กะโหล้ง เป็นลักษณะประจำตัว นิสัยประจำตัวอีกอย่างของผีชนิดนี้ คือ หากมีคนตะโกนกันในป่า มันจะเลียนเสียง ทำให้คนที่ตะโกนหลงทางเดินห่างออกไปเรื่อยๆ ดังนั้นคนเฒ่าคนแก่ถึงได้ห้ามตะโกนในป่า เพราะผีกะโป๊กกะโหล้งจะเลียนเสียงทำให้หลงป่า

3. เสือสมิง เป็นผีสิ่งหนึ่งที่มักจะเจอกันในป่า และผู้คนที่เดินไปมักจะเล่าขาน ถึงความน่ากลัวของผีตนนี้ ผีตนนี้เป็นวิญญาณเสือที่กินคนเข้าไปเป็นจำนวนมาก และจะสามารถจำแลงกายให้ตัวเองเป็นคือต่อใครก็ได้เพื่อหลอกล่อคนมาเป็นเหยื่อ ครั้นยิ่งกินคนเข้าไปมาก วิญญาณก็จะยิ่งสิ่งสู่ในตัวเสือมากขึ้น และจำทำให้ เสือตัวนั้นยิ่งมีฤทธิ์มีอำนาจมากขึ้นเป็นทวีคุณ ความเป็นมาของเสือสมิงนั้น ไม่ใช่แค่วิญญาณที่สิ่งตัวเสือเท่านั้น ยังมีพวกที่เรียนวิชาเสือ นำวิญญาณเสือเข้ามาสิงในตน ผนวกกับคนผู้นั้นร่ำเรียนอาคมในทางเดรัจฉานเมื่อนานเข้า เกิดการรวมตัวกัน ทั้ง วิชาเรียกเสือและอาคม จนทำให้คนผู้นั้น เป็นเสือสมิง เมือเขากลายเป็นเสือก็จะไล่ล่ากินคน จนกลายเป็นเสือสมิงที่สมบูรณ์

ทั้งนี้ ขอให้ทุกท่าน โปรดใช้วิจารณญาณ ไม่เชื่อแต่อย่าลบหลู่ เป็นการดีที่สุด !!!!!!!!!!

ที่มา: TNews.co.th

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น