"ใบปอ" เล่าเรื่องขนหัวลุกจากบ้านร้างผีสิง
ฉันไม่เชื่อว่าผีจะหลอกคนให้ถึงตายได้ แต่เรื่องราวต่อไปนี้มันน่าคิดมากเชียวล่ะค่ะ
เรื่องเกิดขึ้นเมื่อสิบกว่าปีก่อนกับพี่ชายเพื่อนสนิทของฉันเอง ตอนนั้นพี่จี๊ดของจุ๋งอายุสิบเจ็ดปีเท่านั้น เราเรียนจบ ม.6 หมาดๆ ยังสอบเข้ามหาวิทยาลัยไม่ได้ก็เลยขออยู่ว่างๆ สักปี
ปีหน้าค่อยลองสอบใหม่!
การอยู่เฉยๆ ไม่ได้เรียน ไม่ได้ทำงานอะไรทำให้พี่จี๊ดสนุกกับชีวิตวัยรุ่นอย่างเต็มที่
เขามีเพื่อนเยอะค่ะ ทั้งเพื่อนที่โรงเรียนกับเพื่อนวัยรุ่นในซอยเดียวกัน พวกนี้ชอบทำอะไรแผลงๆ ริอ่านสูบบุหรี่ กินเหล้ากินเบียร์ สนุกสนานจนกลับบ้านตีสามตีสี่เป็นประจำ
ที่แผลงที่สุดก็คือชอบพากันไปลองของตามสถานที่ต่างๆ ที่เขาลือกันว่าผีดุ!!
คืนหนึ่งในเดือนตุลาคม พี่จี๊ดนั่งกินเหล้ากับเพื่อนๆ ตั้งแต่เย็นที่บ้านตัวเอง จุ๋งได้ยินเขาคุยเรื่องผี แล้วก็ท้าทายกันว่าจะไปลองของที่บ้านหลังหนึ่งแถวพุทธมณฑล ซึ่งไม่ไกลจากบ้านเรา
มันเป็นบ้านร้าง! เพื่อนของพี่จี๊ดเล่า ร้างเพราะเจ้าของบ้านไปรถคว่ำตายยกครอบครัว แค่นี้ก็น่ากลัวแล้ว แต่ที่สยองไปกว่านี้คือมีผู้หญิงเข้าไปผูกคอตายในบ้านที่ผุพังทรุดโทรม...และตั้งแต่นั้นมาก็ลือกันว่าผีดุมากๆ
นั่นคือ ผีผู้หญิงที่ตายจะปรากฏให้ผู้คนที่ผ่านไปมาเห็นคนยืนตรงหน้าต่างชั้นสองนั่นเอง!
เล่ากันว่าเธอผมยาวมาก แต่งชุดกางเกงขาสั้นและเสื้อสีขาว ยืนคอพับแบบคนคอหัก มีเลือดไหลออกจากตา จมูกและปาก บางทีเธอก็ยืนบนเพดาน ห้อยหัวลงมา ให้ผมยาวกวัดแกว่งลงถึงพื้น
ว่ากันว่าผีตนนี้เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้น เพราะถูกคนรักทิ้งไปเมื่อเธอบอกว่าเธอท้อง...คิดดูแล้วกันว่าเธอจะเกลียดชังผู้ชายขนาดไหน?
ถึงแม้ผีจะดุนักหนาจนเป็นที่เลื่องลือ แต่ก็ยังมีคนเข้าไปในบ้านหลังนี้อย่างไม่กลัวเกรง ส่วนมากจะเป็นพวกเร่ร่อนแถวนั้น หรือไม่ก็พวกลักเล็กขโมยน้อย โดยคิดจะไปรื้อค้นข้าวของมีค่าในบ้าน
แน่ล่ะค่ะ ทุกคนล้วนแต่เจอดีจนเผ่นกระเจิงไปตามๆ กัน!
เรื่องที่เล่านั้นน่ากลัวนัก
ผีผู้หญิงตายทั้งกลมตนนี้มักจะปรากฏตัวอยู่ในห้องที่เธอตาย ตอนแรกก็ดูเหมือนคนธรรมดา แต่อีกไม่กี่นาทีต่อมาเธอก็จัดการแขวนคอให้ดูซะงั้น!
คนเคราะห์ร้ายที่โดนหลอกหลอนสาหัส ล้วนแต่บอกกล่าวตรงกันว่า...คอของเธอหักดัง กร๊อบ! แล้วร่างของเธอก็ค่อยๆ เน่าเฟะ ส่งกลิ่นเหม็นเน่าคละคลุ้ง
บางรายเห็นเด็กอ่อนๆ ในท้องหลุดผลัวะออกมา แล้วสำแดงเดชลุกขึ้นยืนจังก้า แลบลิ้นปลิ้นตาหลอกหลอนทันใด!
คืนนั้นมีการท้าทายว่าถ้าใครเก่งจริงก็ให้ค้างคืนในบ้านร้างผีสิงหลังนั้น แล้วรุ่งเช้าเพื่อนฝูงจะมารับ
คนที่รับคำท้าคือพี่จี๊ด เขาอยู่ในบ้านคนเดียวท่ามกลางความมืดมิด บรรยากาศเยือกเย็นและเปล่าเปลี่ยวน่าวังเวงใจ มีแต่เสียงหมาเห่าหอนโหยหวน เสียงลมพัดตามยอดไม้ดังซู่ซ่าเกรียวกราว ฟังเหมือนเสียงใครกลุ่มใหญ่กำลังหัวเราะเย้ยหยันอย่างสาสมใจ
รุ่งเช้า เพื่อนฝูงก็ยกโขยงไปรับตามสัญญา!
น่าแปลกประหลาดที่ไร้เสียงขานตอบ ไม่ว่าจะร้องตะโกนเรียกแค่ไหนก็ไม่มีเสียงตอบตามเดิม จนกระทั่งพวกเพื่อนๆ ต้องเดินเข้าบ้านที่มีฝุ่นจับเขรอะ เสียงลมพัดประตูหน้าต่างดังเอี๊ยดอ๊าดเขย่าขวัญแทบตลอดเวลา
ทุกคนต่างเหลียวซ้ายแลขวาด้วยความหวาดระแวงไปตามๆ กัน!
จนกระทั่งขึ้นไปถึงชั้นสอง...
ภาพที่เห็นทำให้เพื่อนฝูงหยุดชะงัก...นั่นคือพี่จี๊ดนั่งพิงฝา ขาแผ่กาง นัยน์ตาแข็งค้างเบิกโพลง ฉายแววหวาดกลัวน่าขนหัวลุก ท่าทางเหม่อลอยไม่ได้สติ และมีไข้ขึ้นสูงปรี๊ดจนต้องรีบนำส่งโรงพยาบาล
พี่จี๊ดมีชีวิตอยู่ต่อมาได้เพียงสองวัน เขาเพ้อว่าจะไปอยู่กับผู้หญิงในบ้านหลังนั้น
แพทย์ลงความเห็นถึงการตายของพี่จี๊ดว่าไวรัสขึ้นสมอง แต่พวกเราเชื่อว่าเขาถูกผีหลอกจนตาย และที่ร้ายสุดๆ คือผีตนนั้นเอาเขาไปอยู่ด้วยได้สำเร็จ...เสร็จผีมันเลยล่ะค่ะ!!
ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก โดย ใบหนาด - ข่าวสด หน้า 30 - ฉบับวันที่ 30 พฤศจิกายน 2555
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น