เคยรู้สึกบ้างไหม ว่าความหดหู่และเศร้าสร้อยมันกระทบจิตใจเราได้เพียงไหน ลองนึกดูว่าหากเป็น “เธอ” บ้าง เธอผู้เป็นเจ้าของบ้านแห่งนี้ กับคนที่เรารัก เริ่มตายลงทีละคน อย่างช้า ๆ ไม่ทราบสาเหตุ ไร้ร่องรอย คนแล้วคนเล่า จะรุ่นสู่รุ่น กำลังใจที่จะอยู่ในโลกใบนี้ต่อไปคงไม่มี
เจ้าของบ้านหลังนี้ เป็นหญิงผู้บอบช้ำจากสถานการณ์ดังกล่าว จากคำบอกเล่าของผู้คนในหมู่บ้าน คนในละแวกคาดเดากันว่าเธอตรอมใจเสียชีวิตอยู่ภายในบ้านซึ่งปิดตาย และกลายสภาพคล้ายบ้านร้างมาเนิ่นนาน ในกลางใจตัวอำเภอแห่งหนึ่ง ในจังหวัดกาญจนบุรี
ตอนดึกๆ ในคืนเดือนมืด มีเสียงแว่วออกมาจากบ้าน แมวดำมากมายขู่ร้องออกมาจากตัวบ้าน สร้างความขนลุกให้แก่ผู้คนในแถบนั้นไม่น้อย
จนในที่สุด ชาวบ้านจึงรวมตัวกัน ผลักประตูบานใหญ่นั้นเข้าไป ในบ้านที่ปิดตาย มีเพียงกองผมที่ปลิวว่อนอยู่บนพื้นจากแรงลม เส้นผมที่เต็มพื้นห้อง
บางคนก็บอกว่า แท้จริงแล้วเธอก้าวเข้าสู่บรรพชิตเพศ อาจด้วยความโศกา แต่การหันหน้าเข้าสู่พระธรรมเป็นทางเลือกที่จะลืมความเจ็บปวดของเธอ แต่ก็ไม่ได้รับการยืนยัน เพราะไม่มีใครทราบข่าวของเธอนับจากที่เธอหายหน้าไป
บ้างก็ว่า เธอตรอมใจตายในบ้าน แต่ร่างกายถูกสัตว์แทะกิน เหลือแต่ผมยาวสลวยของเธอมีไว้ให้ดูต่างหน้า ส่วนเสียงคนพูดคุยกันตอนกลางคืนที่ดังแว่วมา อาจเป็นเด็กติดยาที่เข้ามาอาศัยเพราะไม่มีคนอยู่นั่นเอง
แต่ก็มีกระแสข่าวไม่น้อย ที่บอกว่า เธอโกนผมของศพคนที่เคยอยู่ในบ้านซึ่งแล้วแต่เสียชีวิตลงกันไปหมด เธอยังเก็บผมของทุก ๆ คนไว้
จะเป็นไปตามข้อสันนิษฐานใด ๆ ก็ตาม หากเธอจากโลกนี้ไปแล้ว ก็ได้แต่ขอให้ดวงวิญญาณผู้เศร้าสร้อยไปสู่สุขติ ได้กลับไปอยู่เคียงข้างคนที่เธอรักอีกครั้ง
ที่มา http://www.teenkan.com/column-nana.php?id=3
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น