02 มกราคม 2560

ทาสยมทูต

"บานชื่น" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกจากเพื่อนบ้าน

เมื่อเอ่ยถึงเรื่องสูบบุหรี่ ดิฉันสังเกตว่าพวกผู้ชายไม่ค่อยสนใจเท่าไรนัก อาจจะเห็นว่าเป็นเรื่องปกติธรรมดา ใครๆ ก็สูบกัน เขาเองก็เคยสูบบุหรี่มาก่อน ทุกวันนี้บางคนเลิกได้แต่อีกหลายๆคนยังสูบอยู่...ดิฉันเองนอกจากจะไม่สูบแล้วยังรังเกียจมากๆ อีกด้วย

ไม่ใช่มีอคติอะไรหรอก แต่เราเหม็นกลิ่นควันมากกว่าจะคิดถึงเรื่องสุขภาพ เพราะสมัยก่อนไม่ค่อยมีการต่อต้าน โดยเฉพาะการห้ามสูบบุหรี่ตามที่สาธารณะอย่างเป็นการเป็นงาน และเอาจริงเอาจังเหมือนสมัยนี้

จะทำยังไงได้ล่ะคะ? ถึงจะเหม็นแสนเหม็นก็ต้องทนเอา!

ไม่รู้ว่าจะสูบไปหาสวรรค์วิมานอะไร! ทำให้นิ้วเหลือง ปากเขียว ฟันดำเขรอะ ลมหายใจเหม็น ตามเสื้อผ้าก็สกปรกด้วยเถ้าบุหรี่ แถมเสียเงินเสียทองอีกต่างหาก

ที่สำคัญมากๆ ก็คือบุหรี่ทำให้เกิดโรคสารพัด ทั้งมะเร็งปอด ถุงลมโป่งพอง มะเร็งปาก ลิ้น กระเพาะอาหารลำไส้และผิวหนัง ทำให้เส้นเลือดหัวใจตีบ อาจจะทำให้หัวใจวายง่ายๆ โรคสะเก็ดเงินที่เคยเข้าใจผิดคิดว่าเป็นรังแค โรคภูมิแพ้ต่างๆ ก็มีสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการสูบบุหรี่นี่แหละค่ะ

คนติดบุหรี่ส่วนมากบอกว่าอยากเลิกสูบ ขนาดเคี้ยวหมากฝรั่ง ดื่มน้ำมากๆ งดน้ำ ชากาแฟ อาบน้ำบ่อยๆ ไม่กินอาหารรสจัด หลายๆ คนเคยใจแข็งเลิกเสพควันพิษได้ระยะหนึ่ง แต่แล้วก็กลับไปหามันอีกเพราะแพ้ใจตัวเอง!

บ้างก็คิดง่ายๆ ว่าเคยเลิกได้แล้ว จะขอสูบสักมวนสองมวนเพื่อให้รางวัลตัวเองแล้วก็ไม่สูบอีก หรือจะเลิกเมื่อไหร่ก็ได้...แต่ของจริงน่ะ การกลับไปสูบมวนเดียวก็เท่ากับเริ่มต้นใหม่ กลายเป็นทาสของมันต่อไปไม่มีวันสิ้นสุด

การรณรงค์ที่เข้มข้นขึ้นได้ข่าวว่าประสบความสำเร็จน่าชื่นใจค่ะ

ปีก่อนมีผู้ชายสูบบุหรี่ถึง 56 เปอร์เซ็นต์ แต่ปีกลายลดเหลือ 37 เปอร์เซ็นต์ น่าหนักใจตรงที่เด็กๆ อายุ 14-15 หันไปติดบุหรี่กันมากขึ้นพอๆ กับเยาวชนอายุ 17-24 ปี คือเอาอย่างผู้ใหญ่เพราะคิดว่าเท่...ไม่รู้หรอกว่าผู้ใหญ่ที่เห็นน่ะเขาอยากเลิกสูบบุหรี่แค่ไหน?

เพราะพิษภัยของบุหรี่นี่เองที่ทำให้ดิฉันประสบกับเรื่องขนหัวลุกเต็มเปา!

ครอบครัวดิฉันไม่มีใครสูบบุหรี่ ทั้งพ่อแม่ สามีและลูกชายวัยรุ่น บอกตรงๆ ว่า ดิฉันซีเรียสเรื่องนี้มากๆ ค่ะ

พี่ไพสันต์ - คนข้างบ้านติดบุหรี่งอมแงมขนาดสูบวันละ 2 ซอง แม้ว่าจะทำงานมีรายได้สูงก็จริง แต่พี่ปุ้ยผู้ภรรยาเคยมาปรับทุกข์กับดิฉันว่า ค่าบุหรี่ของสามีตกเดือนละสามพันกว่าบาท แต่ยังไม่ร้ายเท่ากับนำควันนรกมาใส่บ้านของตัวเอง!

สังเกตว่าพี่ไพสันต์มักจะกระแอมกระไอ ได้ยินเสียงขากข้ามรั้วมาบ่อยๆ หน้าซีด ผิวกร้าน ดูแก่ก่อนวัย เดินหลังค่อมนิดๆ ไม่รู้ว่าเพราะเป็นคนผอมมากหรืออ่อนแอขี้โรคกันแน่

พี่ปุ้ยเล่าว่าสามีอยากเลิกสูบมาเป็นปีแล้ว พยายามลดลงจากวันละ 3 ซองลงมาเรื่อยๆ เคยอดได้ไม่กี่วันก็กลับไปสูบอีก เพราะกลายเป็นคนหงุดหงิด เจ้าอารมณ์ โมโหง่ายด้วย เรื่องไม่เป็นเรื่อง รูทั้งรู้ว่าเพราะพิษสงของนิโคตินแท้ๆ แต่ก็แพ้ใจตัวเองจนหันกลับไปสูบมันอีก

สงสารสามีก็สงสาร แต่ไม่รู้จะห้ามปรามยังไง ได้แต่ขอร้องว่าอย่าสูบในบ้าน เพราะลูกเมียจะได้รับพิษร้ายจากควันนรกไปด้วย ยังดีที่พี่ไพสันต์ไม่ดื้อรั้น อยากบุหรี่เต็มทนก็ออกไปสูบนอกบ้าน...

ในที่สุดก็ล้มป่วยด้วยหลอดเลือดหัวใจตีบ!

เพื่อนบ้านได้ข่าวว่าอาการหนัก แพทย์ต้องผ่าตัดทำบายพาส...แต่ยังไม่มีใครไปเยี่ยมเพราะพี่ปุ้ยขอร้องไว้ ได้แต่เล่าอาการว่าเหนื่อยง่ายจนเป็นลมบ่อยๆ แพทย์เทสต์ดูด้วยการให้วิ่งสายพาน แล้วฉีดสีเข้าเส้นเลือดหัวใจจนพบการอุดตันถึง 3 เส้น เกินกว่าจะรักษาด้วยวิธีบอลฃูนได้...ต้องนอนพักอยู่ที่โรงพยาบาลไม่น้อยกว่า 7 วัน

เย็นวันเสาร์นั้น ดิฉันกำลังเดินดูต้นไม้ในกระถางที่สนามและข้างรั้ว ท้องฟ้าหนักอึ้งด้วยเมฆฝน ลมพัดค่อนข้างแรง...ไม่รู้นึกยังไงทำให้หันไปมองทงบ้านพี่ไพสันต์ เกือบจะเป็นเวลาเดียวกับที่ได้ยินเสียงขาก...เสียงกระแอม...แล้วกลิ่นควันบุหรี่เหม็น ก็ลอยตามลมมาเข้าจมูก

...เบือนหน้าหนีพลางย่นจมูก พริบตานั้นเองก็นึกได้..พี่ไพสันต์กลับบ้านมาแล้ว! แต่ยังสูบบุหรี่อีกหรือนี่? คนอะไรไม่รักตัวเอง...แจ็บแล้วไม่รู้จักจำ!

ถือโอกาสไปเยี่ยมเลยดีกว่า...เมื่อเดินเข้าบ้านนั้นก็เอะใจที่พบแต่ความเงียบเชียบ พอดีแม่บ้านชื่อป้าไหมโผล่ออกมา บอกว่าพี่ปุ้ยกับลูกๆ ไปเยี่ยมพี่ไพสันต์ยังไม่กลับ! เล่นเอาดิฉันยืนตะลึงแทบไม่เชื่อหูตัวเอง

เสียงขาก...เสียงกระแอมเมื่อตะกี้ของพี่ไพสันต์แน่ๆ ดิฉันได้ยินมาเป็นปีๆ แล้ว ไม่มีทางจะหูแว่วไปเองแน่ๆ แต่เขายังอยู่ที่โรงพยาบาล...เป็นไปได้ยังไงกัน?

พี่ปุ้ยกับลูกๆ กลับบ้านตอนค่ำ ปรากฏว่าพี่ไพสันต์ปลอดภัยค่ะ เสียงที่ดิฉันได้ยินอาจจะเป็นเจตภูตคนเป็นก็ได้...แต่ท่านที่ยังไม่เลิกสูบบุหรี่อาจจะไม่โชคดีเหมือนพี่ไพสันต์นะคะ!

ที่มา : คอลัมน์ ขนหัวลุก โดย ใบหนาด - ข่าวสด หน้า 31 - ฉบับวันที่ 2 มิถุนายน 2551